พ่อบ้านสุดเก๋า
ครั้งแรกที่ผมได้อ่านการ์ตูนเรื่องนี้ คือเห็นจากในทวิตเตอร์ที่มีคนเอามาลงไว้ ยังจำความรู้สึกได้ว่าแค่ภาพแรกของเรื่องก็ทำให้ตะลึงและทึ่งในลายเส้นที่สวยงามมาก ทั้งลวดลายรอยสักรูปมังกรบนแผ่นหลังรวมถึงคาแรคเตอร์หน้าตาของพระเอกที่เท่สุด ๆ จนอดวาดหวังไว้ในใจไม่ได้ว่านี่มันต้องเป็นเรื่องบู๊แอคชั่นยิงกันหูดับตับแลบ แทงกันจนไส้ทะลักสไตล์นักเลงแน่ ๆ ทว่าพอได้อ่านจนจบตอน ไอ้ที่ผมคาดหวังไว้กลับกลายเป็นความฮาสุดบรรยายแทนเสียนี่
พ่อบ้านสุดเก๋า เป็นผลงานของ Kousuke Oono เล่าเรื่องของยากูซ่าในตำนานที่มีนามว่า ทัตสึ ฉายา ทัตสึคนอมตะ วีรกรรมของเขาคือการกวาดล้างสำนักงานของเหล่าคู่แข่งสิบแห่งเพียงลำพังด้วยมือเปล่าในคืนเดียว หลังจากนั้นเขาก็หายไปจากวงการนักเลงแล้วไปปรากฏตัวอยู่ในวงการแม่บ้านแทน ใช่แล้วครับ ทุกคนอ่านไม่ผิด เขาไปเป็นพ่อบ้านพ่อเรือนเป็นสามีแสนประเสริฐของมิกุ ดีไซเนอร์เวิร์คกิ้ง วูแมนคนเก่งที่แต่งงานกันโดยเลี้ยงเจ้าเหมียวชื่อกิง ไว้เป็นสมาชิกในครอบครัวอีกหนึ่งตัว
แค่ไอเดียเริ่มต้นก็ว่าเจ๋งแล้วแต่วิธีการเล่าเรื่องยิ่งเพี้ยนได้ใจเข้าไปอีก เพราะทัตสึไม่ใช่พ่อบ้านแบบขี้หมูขี้หมากาไก่แบบทั่วไป ในเมื่อตอนเป็นยากูซ่าเขาคือตำนานที่มีชีวิต ตอนนี้ที่มายึดอาชีพพ่อบ้านเต็มตัวจึงมีความสามารถอยู่ในระดับแถวหน้าของวงการ ทั้งการทำข้าวกล่องสุดมุ้งมิ้งให้ภรรเมียคนสวย การลุยเข้าไปซื้อเสื้อผ้าลดราคาในดงแม่บ้านสุดคลั่งหรือจะเป็นฝีมือในการทำความสะอาดแบบขั้นเทพ เท่านั้นไม่พอ เขายังสนิทชิดเชื้อกับเหล่าแม่บ้านแม่เรือนในละแวกที่พักอาศัยได้อย่างกลมกลืนขนาดไปเล่นฟิตเนสด้วยกัน นี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้นของพ่อบ้านคนนี้
เรื่องราวในเล่มจะถูกแบ่งออกเป็นตอนสั้น ๆ จบในตัว เล่าเรื่องเหตุการณ์ที่ทำให้คนอ่านได้เห็นความสามารถสุดหยั่งถึงของทัตสึในการเป็นพ่อบ้าน เช่น การรับมือกับเซลขายมีดจอมตื้อที่ทะเล่อทะล่าเข้าไปขายของกับทัตสึ ภาพแรกที่ปรากฏทำให้เจ้าตัวขาอ่อนจนลงไปนั่งทรุด เมื่อทัตสึใบหน้าเหี้ยมเกรียมถือมีดมีเลือดเปรอะเปื้อนตัว แต่เซลขายของทำใจดีสู้เสือ สุดท้ายการขายมีดของเขากลับลงเอ่ยเป็นการได้นั่งกินแฮมเบิร์กสุดอร่อยไปพร้อมกับรำลึกถึงบ้านเกิดไปซะอย่างงั้น
แนวทางการดำเนินเรื่องไปทางตลกอย่างชัดเจน มุกส่วนใหญ่เป็นมุกซีเรียสหน้าตาย ตัวละครมาแนวเมากาว หลายการกระทำที่ไม่เข้ากับสถานการณ์ทำให้ตอนอ่านรู้สึกขำออกมาได้อย่างจริงจัง นับว่าเป็นเรื่องเบาสมองที่อ่านแล้วช่วยให้ผ่อนคลายความเคร่งเครียดในชีวิตจริงได้ดีระดับหนึ่งเลยครับ หากใครสนใจ สามารถหาอ่านในรูปแบบการ์ตูนรวมเล่ม ภายใต้ลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์ สยามอินเตอร์คอมิกส์ได้ ออกมาแล้วสองเล่ม ที่สำคัญความนิยมของการ์ตูนเรื่องนี้นับว่าไม่ธรรมดา เพราะตอนนี้ได้ถูกนำไปทำเป็นเวอร์ชั่นภาพยนตร์ให้คนแสดงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าโชคดีน่าจะมีค่ายหนังนำเข้ามาฉายในประเทศไทยในเร็ว ๆ นี้
ถ้าคุณมองหาการ์ตูนลายเส้นสวย ๆ ตัวละครมีคาแรคเตอร์เท่ ๆ เนื้อหาเบาสมอง เดินเรื่องตลกสุดเพี้ยน รับรองได้เลยครับว่าเรื่องนี้ตอบโจทย์แน่นอนและจะไม่ทำให้คุณผิดหวังที่ได้อ่าน
เรื่องราวของ ทัตสึ ยากูซ่าระดับตำนานที่ใคร ๆ ก็กลัว และไม่ว่าจะเจออริคนไหน โหดเท่าไหร่ เขาก็สามารถเอาชนะ โค่นล้มศัตรูได้หมดจนได้รับขนานนามว่า “ทัตสึคนอมตะ” แต่แล้วเขาก็หายไปจากวงการ หายตัวลึกลับแบบไม่มีใครรู้ บ้างก็ว่าถูกอุ้ม บ้างก็ลือว่าถูกจับ แต่จริง ๆ แล้วสาเหตุที่เขาหายไปนั้น ก็เพราะเขาแต่งงานกับสาวสวยที่มุ่งมั่นกับการทำงานเอามาก ๆ นั่นเอง ทัตสึเลือกที่จะวางมือ เพื่อปกป้องสิ่งสำคัญของเขา เพื่อดูแลและสนับสนุนภรรยาของเขาเขาจึงหยุดใช้ความรุนแรง และหันมาเป็น พ่อบ้านฟูลไทม์ แต่ถึงจะวางมือมาเป็นพ่อบ้าน ความเก๋า ความคูลของเขามันก็ไม่ได้หายไปเลย ถ้าอยากรู้ว่ายากูซ่าขาโหดจะไปเป็นพ่อบ้านได้อย่างไร จะฮาขนาดไหน สามารถไปติดตามกันได้ที่ พ่อบ้านสุดเก๋า
ตัวละครหลัก
สำหรับตัวละครจริง ๆ มีหลายตัวละคร มีทั้งยากูซ่าพรรคที่ยังมีอิทธิพล และยากูซ่าและนักเลงที่ผันตัวไปทำงานอย่างอื่นแล้ว แต่เพราะบางตัวละครนั้นออกมาเพียง 1 – 2 ฉาก เราเลยจะขอแนะนำแค่คนที่ออกหลาย ๆ ฉากแทน
ทัตสึ ( Tatsu ) และ มิคุ ( Miku)
ทัตสึพระเอกของเรื่องนี้ อดีตยากูซ่าระดับตำนาน แต่วางมือเพราะแต่งงานกับ มิคุ ดีไซเนอร์สาวสวยผู้มุ่งมั่นกับงานเอามาก ๆ ทัตสึหันมาเป็นพ่อบ้านแทน ในเวอร์ชันพ่อบ้านเนี่ยบอกเลยเอาใจภรรยาเก่งมาก งานบ้านงานครัวไม่มีตกหล่น ทำอาหารหน้าตาน่ากินมาก ๆ แต่ด้วยลุคและหน้าตาที่ยังคงสไตล์นักเลงอยู่ ไปไหนคนก็ยังรู้สึกกลัว ๆ เขาอยู่
มาสะ (Masa )
อดีตลูกน้องในพรรคของทัตสึ เพราะพรรคยุบไปจากการหายตัวไปอย่างลึกลับของทัตสึ มาสะจึงไม่มีที่ไป เป็นนักเลงต่อก็ถูกรุมอยู่บ่อย ๆ และวันหนึ่งเขาก็ได้เจอทัตสึอีกครั้ง และพยายามตามทัตสึกลับไป แต่ก็ไม่สำเร็จ เขาจึงหันมาติดตามทัตสึแทน ก็คือเรียนรู้วิถีพ่อบ้านจากทัตสึนั่นเอง
หลังจากที่ห่างหายไปจากวงการใต้ดิน ทัตสึ ยากูซ่าระดับตำนานที่ได้สมญานามว่า “ทัตสึคนอมตะ” ก็กลับมา… ในบทบาทพ่อบ้านที่อุทิศชีวิตให้กับภารกิจในครัวเรือนอย่างเอาเป็นเอาตาย
การ์ตูนแนวตลกคอเมดี้สุดกาวกับเรื่องราวชีวิตประจำวันของพ่อบ้านยากูซ่าสุดฮาที่ถึงแม้จะวางมือผันตัวมาเป็นพ่อบ้านแล้วก็ยังไม่สลัดคราบความโหดของยากูซ่าทิ้งไป ซึ่งชีวิตการเป็นพ่อบ้านมันไม่ง่ายอย่างที่คิดเลย!
เนื้อหาของเรื่องมันจะเป็นแบบการ์ตูนแก๊กจบเป็นตอนๆ ไป ไม่ได้ต่อเนื่องกัน แต่การดำเนินเรื่องในแต่ละตอนนั้นมันก็ฮาตามฉบับยากูซ่า ซึ่งมุกส่วนมากของเรื่องนี้จะเป็นการทำให้คนส่วนมากเข้าใจผิดคิดว่าเป็นขาใหญ่สุดโหดกับหน้าตาท่าทางที่ดูน่ากลัว
แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับเป็นพ่อบ้านสุดเจ้าระเบียบที่อยู่ในโหมดมุ้งมิ้งและจริงจังเกินเหตุ ซึ่งเพราะความจริงจังนี้ มันเลยออกมากาวๆ แต่บางตอนก็จบแบบดื้อๆ งงๆ หรือบางตอนก็เป็นมุกเฉพาะทางของญี่ปุ่น ซึ่งคนที่เข้าใจก็อาจจะฮาขำขัน แต่คนที่ไม่เข้าใจก็จะงงอารมณ์ค้างคากันไป
เอาตามตรงเลยว่าตัวอนิเมะแทบไม่ต่างอะไรจากตัวมังงะเลย มันแทบจะเป็นภาพนิ่ง เหมือนเป็นมังงะที่มีเสียง เอาภาพมาใส่พากย์เสียง ทำปากขยับตามอย่างเดียว ตัวละครไม่มีโมชั่นอะไรเลย แต่ทว่านี่คือความตั้งใจของผู้สร้างที่จะทำผลงานออกมาให้คล้ายกับต้นฉบับมังงะมากที่สุด
แน่นอนว่าสิ่งที่ดีงามที่สุดจนต้องยกความดีความชอบให้เลยก็คือเสียงพากย์ไทยที่ได้ “น้าจูน” นักพากย์ชื่อดังที่มีเสียงอันแสนคุ้นเคยในการ์ตูนหลายๆ ที่มาพากย์ให้ มันช่างเข้ากับตัวละครอย่างทัตสึเป็นอย่างมาก ที่มันจะมีทั้งความเข้มของเสียงที่สมกับเป็นยากูซ่า และความกาวแบบเพี้ยนๆ ที่มันสามารถเข้ากันได้ ให้ความรู้สึกที่แบบว่า “นี่แหละ ใช่เลย!” กลายเป็นชอบกว่าเสียงต้นฉบับญี่ปุ่นซะอีก ต้องบอกว่าน้าจูนเป็นตัวแบกของเรื่องนี้เลย
ตัวละคร มาสะ ลูกน้องในแก๊งเก่าของทัตสึ มักมาช่วยทัตสึทำงานบ้าน ทำอาหารหรือทำอะไรก็ตาม แต่ก็จะไม่ค่อยประสบความสำเร็จ จนทำให้ทัตสึต้องลงมือทำเองบ่อยครั้ง หรือตัวละคร โทราจิโร่ ที่เป็นหัวหน้าแก๊งตรงกันข้ามกับทัตสึ ซึ่งปัจจุบันผันตัวมาเป็นพ่อค้าขายเครป ตัวละครที่ยกมานี้ก็ทำหน้าที่เชื่อมแต่ตอนให้เข้ากันได้ ทำให้มีเนื้อเรื่องในการนำเสนออยู่บ้าง
ส่วนบุคลิกของตัวละครทัตสึเอง ผมชอบมาก มีความเป็น Over acting ที่สูงมาก อันเป็นเอกลักษณ์ของมังงะญี่ปุ่นในอีกรูปแบบหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการทำอะไรก็จะเป็นแบบ over เช่นการเห็นแมลงสาบตัวเดียวก็แทบทำให้บ้านพังได้เลย แต่บุคลิกของเขาที่ผมชอบมากกว่าก็คือ ไม่ว่าตัวละครนี้จะทำอะไรก็ตาม ก็จะแอบสอนผู้คนรอบข้างของเขาได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการสอนด้วยคำพูดหรือการสอนด้วยการกระทำ แม้จะไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไรก็ตาม เช่นการสอน มาสะ ให้รู้จักการซักผ้า ให้รู้จักการทำอาหาร เป็น และอีกอย่าง ทัตสึ เป็นตัวละครที่มีความใจเย็นมาก แม้จะถูกยากูซ่าฝั่งตรงข้ามทำอะไรกับเขา เขาจะไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง นี่มันแสดงให้เห็นว่าทัตสึเปลี่ยนตัวเองไปแล้วจริง ๆ
การที่ภาพยนตร์มี 30 ตอน แต่แต่ละตอนเป็นตอนที่สั้นมาก เพียงแค่ตอนละไม่เกิน 3-5 นาทีเท่านั้น มันทำให้เราดูแล้วรู้สึกว่าเราเสพมุกตลกเล็ก ๆ 30 มุก ซึ่งมันเป็นอะไรที่พอดีมาก ไม่ยาวเกินไป ไม่ทำให้น่าเบื่อ และหัวเราะไปกับทุกมุขตลกแบบลงตัว
ทีมสร้างเขาสามารถใส่อารมณ์ของความเป็นพ่อบ้านได้อย่างเต็มที่ แล้วมันทำให้เรารู้สึกว่าตัวละครเจ้าพ่อยากูซ่า เปลี่ยนเดินทางมาเป็นสายพ่อบ้านฟูลไทม์อย่างแท้จริงเช่น เมื่อทัตสึไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า ก็จะเรียกร้องให้มีการสะสมแต้มทุกครั้ง นำขวดน้ำพลาสติกที่ใช้แล้วประโยชน์ในตู้เพื่อแลกเป็นเงิน ใส่ใจกับการเลือกวัตถุดิบและการทำอาหารมาก เข้าใจธรรมชาติของแต่ละวัตถุดิบและวิธีการปรุง เมื่อปรุงเสร็จก็มีการถ่ายรูปอย่างชื่นชม เอาใจใส่ความสะอาดภายในบ้าน เรียนรู้เครื่องมือที่ช่วยทุ่นแรงในการทำความสะอาดบ้านอย่างจริงจัง ไปประชุมสมาชิกของหมู่บ้านแบบไม่ขาด เล่นกีฬากับเหล่าแม่บ้านในหมู่บ้าน มีความสัมพันธ์อันดีกับแม่บ้านทุกคนที่รู้จัก และที่สำคัญรู้จักเอาใจอกเอาใจเมียทำให้เมียผ่อนคลายหลังจากการทำงาน เรียกได้ว่าทัตสึคือพ่อบ้านในอุดมคติของสาว ๆ หลายคนชัด ๆ
สิ่งเหล่านี้มันแสดงให้เห็นว่าตัวละครทัตสึ แม้จะเคยเป็นเจ้าพ่อจะคุยสร้างที่มีความโหดเหี้ยม แต่เมื่อเขาตั้งใจที่จะทำอะไรแล้ว เขาก็สามารถไปได้แบบฝึกทาง ทำมันอย่างจริงจัง และจริงใจ สิ่งนี้ทำให้ผมรู้สึกว่า เป็นการสะท้อนค่านิยมอย่างหนึ่งของชาวญี่ปุ่นก็คือ ทำอะไรเขาจะทำจริง ทำแบบสุดทาง สิ่งนี้แหละที่ทำให้ประเทศญี่ปุ่นและประชาชนชาวญี่ปุ่นนั้นประสบความสำเร็จ ที่สุดชาติหนึ่งของโลกก็ว่าได้
อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นข้อสังเกตที่สำคัญมากก็คือ ค่านิยมหรือทัศนคติในปัจจุบัน งั้นได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ไม่จำเป็นที่ผู้หญิงจะต้องรับหน้าที่ทำงานบ้านเพียงอย่างเดียว ผู้หญิงสามารถทำงานอะไรก็ได้อย่างอิสระ หรือทำงานออฟฟิศในระบบเช้าไปเย็นกลับก็ได้ ส่วนผู้ชายสามารถทำงานเป็นพ่อบ้านดูแลบ้านได้ โดยไม่จำเป็นต้องนำเรื่องเพศมาเป็นขีดจำกัดว่า ผู้ชายต้องทำงานนอกบ้านผู้หญิงต้องทำงานในบ้านเองอย่างเดียว
ซึ่งในภาพยนตร์ก็ทำให้เห็นว่า มิคุ ก็เต็มใจที่จะทำงานนอกบ้านนำเงินเดือนมาเลี้ยงครอบครัว และเต็มใจให้สามีของเธอทำงานเป็นพ่อบ้าน ส่วนทัตสึ ก็เต็มใจที่จะทำงานเป็นพ่อบ้าน โดยที่ไม่อายใคร แม้บ่อยครั้งที่เขาขอไปจับจ่ายซื้อของ เจอคู่อริเก่า หรือเจอคนที่รู้จัก เข้ามาหาเรื่องเขา เขาก็ไม่ตอบโต้ และบอกไปเลยว่าเขาเป็นพ่อบ้านแล้ว เลิกเป็นนักเลงแล้ว
ความสนุกอย่างหนึ่งที่ทำให้พ่อบ้านสุดเก๋า ประสบความสำเร็จในการขายทาง Netflix โดยเฉพาะในประเทศไทย ส่วนตัวผมแล้วน่าจะมาจากการพากย์ไทย ผมลองฟังการภาคในแบบฉบับ Original ที่เป็นภาษาญี่ปุ่นแล้ว มันก็ดีแต่มันไม่สามารถเข้าถึงอารมณ์แบบไทย ๆ ของเรา แต่ลองมาฟังพากย์ไทยแล้วมันทำให้อินได้อย่างรวดเร็ว จังหวะจะโคนของการพากษ์ถือว่าดีมาก เป็นอาชีพแบบสุด ๆ มันสามารถเพิ่มอรรถรสของอนิเมะเรื่อง พ่อบ้านสุดเก๋าไปได้อย่างเต็มที่
อีกจุดหนึ่งที่ผมชอบมากก็คือ หนังจะแบ่งตอนตอนหนึ่งใน 5 ตอนใหญ่ ให้กับแมวที่ทัตสึเลี้ยง ซึ่งก็น่ารักดี แล้วเป็นสีสันที่เขาใส่ได้ได้อย่างลงตัว
ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา มันจึงทำให้ส่วนตัวแล้วผมขอบ พ่อบ้านสุดเก๋า The Way of the Househusband มาก แต่เชื่อว่าหากใครที่ต้องการคลายเครียด ไม่ต้องการตรรกะ แล้วต้องการจะผ่อนคลายอารมณ์ เมื่อได้ดูอนิเมะเรื่องนี้แหละ จะทำให้ทุกคนมีอารมณ์ดีมากขึ้น แถมยังสอดแทรกสาระบางประการได้อย่างเฉียบคมอีกด้วย และรอที่จะให้มีการสร้างในซีซั่นต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ