รีวิวอนิเมะ – black cover
black cover มังงะจากญี่ปุ่นที่มีชื่อในภาษาไทยว่า “โคลเวอร์สีดำ” ได้รับกระแสนิยมเป็นอย่างมาก หากใครที่ชื่นชอบ และหลงใหลในวัฒนธรรมของการ์ตูนจากประเทศญี่ปุ่น แบล็คโคลเวอร์ เป็นการ์ตูนที่ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี และการันตีด้วยเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน อนิเมะญี่ปุ่น
รีวิวอนิเมะ – black cover ข้อมูลอนิเมะ
รีวิวอนิเมะ – black cover black cover จากมังงะสู่อนิเมะใน Netflix
แบล็คโคลเวอร์ เป็นมังงะสัญชาติญี่ปุ่นประเภทผจญภัยแฟนตาซี (Fantasy Adventure) ที่ถูกรังสรรค์ความสนุกโดยนักเขียนชื่อดังอย่าง ยูกิ ทาบาตะ (Yuki Tabata) ซึ่งมีการตีพิมพ์ครั้งแรกใน โชเน็งจัมป์ (Shonen Jump) นิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์ที่ขายดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เคยตีพิมพ์มังงะที่โด่งดังมานับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็น คิเมะสึ โนะ ไยบะ (Kimetsu No Yaiba) ดาบพิฆาตอสูร, ฮันเตอร์ x ฮันเตอร์ (Hunter x Hunter), วันพีช (one Piece) เป็นต้น
black cover แบล็กโคลเวอร์ เรื่องนี้อาจจะคุ้นหูคุ้นตากันหลาย ๆ คนมาแล้วแต่ก็เชื่อว่าหลายคนที่ยังไม่เคยดูส่วนตัวผมก็ด้วยเห็นเรื่องนี้มานานแล้วแต่ก็ไม่เคยคิดจะดูเลย แต่พอได้มาดูจริง ๆ แล้วมันสนุกอยู่นะครับ ก็ไม่เข้าใจว่าอนิเมะเรื่องนี้ทำไมคนถึงไม่ค่อยดูกันวันนี้เลยหยิบเอามารีวิวความสนุกให้ได้อ่านกัน และเรื่องก็สารมารถดุได้ยาว ๆ เลยถ้าเพิ่งจะเริ่มดูเพราะมีเป็นร้อยตอน (ฮา) เรื่องราวของเด็กกำพร้า อัสต้าและยูโน ที่อาศัยอยู่ที่โบสถ์ที่ชนบทแห่งหนึ่ง บนโลกนี้ทุกคนล้วนมีพลังเวทกันทุกคน แต่อัสต้ากับไม่มีพลังเวทอะไรเลยแต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้เขาท้อหรือยอมแพ้ที่จะทำตามความฝัน ถึงแม้จะโดนคนอืนหัวเราะว่าไม่มีพลังเวท !!
รีวิวอนิเมะ – black cover เรื่องย่อ
อัสต้า และ ยูโน เด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้งไว้กับโบสถ์ของอาณาจักรโคลเวอร์ โดยทั้ง 2 คนโตมาด้วยเป้าหมายเดียวกันนั่นก็คือการที่จะได้เป็นจักรพรรดิเวทมนตร์ (ผู้ยืนอยู่จุดสูงสุดของผู้ใช้เวท) แต่ทั้ง 2 กลับมีความต่างกันโดยสิ้นเชิงโดยที่ ยูโน สามารถใช้พลังเวทได้อย่างทรงพลัง ส่วน อัสต้า นั้นไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้เลยแม้แต่นิดเดียว แต่เค้าก็ไม่หมดหวังหมั่นฝึกฝนร่างกายเป็นประจำ เพื่อที่อายุ 15 เค้าจะได้มีโอกาสรับ กรีมัวร์ คัมภีร์ที่จะดึงเอาศักยภาพของผู้ใช้เวทนั้น ๆ ออกมาได้ แต่พอถึงเวลาจริงเค้ากลับไม่ถูกรับเลือกโดยกรีมัวร์ ต่างจาก ยูโน ที่ได้กรีมัวร์ใบโครเวอร์ 4 แฉก ที่เป็นของอดีตจักรพรรดิเวทรุ่นก่อน แต่ทว่าเมื่อถึงคราวคับขันชีวิตของอัสต้ากำลังตกอยู่ในอันตรายจู่ ๆ ก็มี กรีมัวร์ใบโครเวอร์ 5 แฉก ปรากฏออกมาพร้อมกับดาบสีดำอันใหญ่เท่าคน ซึ่งโครเวอร์ใบที่ 5 นั้นหมายถึงปิศาจนั่นเอง!!! และแล้วเรื่องราวการผจญภัยเพื่อเป็นจักพรรดิเวทมนตร์ของ อัสต้า และ ยูโน ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
ตัวละครหลัก
อัสต้า – เด็กหนุ่มผมสีโทนบลอนด์ ผู้รักในความเที่ยงธรรม มีความฝันสูงสุดคือเป็นจักรพรรดิเวทมนตร์ แต่ทว่าตัวเค้านั้นไม่สามารถใช้พลังเวทได้เลยแม้แต่นิดเดียว
การ์ตูนอนิเมะผู้ชาย
ยูโน – เด็กกำพร้าที่โตมาพร้อมกับอัสต้า แต่ทว่าความสามารถด้านพลังเวทต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยเค้าได้รับเลือกจากกรีมัวร์ของอดีตจักรพรรดิเวทในตอนที่อายุ 15 ปี
ความรู้สึกหลังดู
พอดูการ์ตูนเรื่องนี้จบผมก็นึกย้อนกลับไปถามตัวเองว่าทำไมผมถึงชอบดูวันพีช นารูโตะ หรือดราก้อนบอล มันคือสูตรสำเร็จการ์ตูนแนว JUMP สมัยก่อน ที่จะให้คนดูได้เติบโตไปพร้อมกับตัวละครเอกที่เป็นเด็ก คอยอยู่เป็นเพื่อนหมอนี่ คอยเอาใจช่วยให้ฝีมือมันเทพขึ้นสักที อยากเห็นสกิลใหม่ ๆ ของตัวเอก
ด้วยภาพและกราฟฟิกของตัวอนิเมะไม่ได้ทำออกมาดูยากมาก และกราฟฟิกเองก็ไม่ขี้เหร่ การอนิเมทก็ดูลื่นไหลสบายตา เสียงพากย์ก็ทำออกมาได้ดี แต่ถึงอย่างนั้นทุกอย่างก็ถือเป็นมาตรฐานของอนิเมะสมัยนี้อยู่แล้ว แค่ไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ก็ถือว่าใช้ได้ black clover 171 จะกลับมาฉายตอนไหน
แต่ถึงอย่างนั้นการ์ตูนเรื่องนี้ก็มีข้อเสียที่ไปติดอยู่ตรงการเล่าเรื่องที่เชื่องช้าจนทำเอาเราดูไปง่วงไปหลายต่อหลายตอน การต่อสู้หรือฉากแอ็กชันเองถึงจะทำกราฟฟิกออกมาได้สวย แต่ก็ไม่ค่อยสะใจหรือมันเท่าที่คิด ออกจะจำเจซะด้วยซ้ำ อารมณ์แบบตัวร้ายปล่อยพลังใส่พระเอกจนเสียท่า แล้วก็พูดจาเหยียดหยามพระเอก พระเอกของขึ้นควักดาบฟันจบ อนิเมะญี่ปุ่น
ตัวร้ายในเรื่องนี้ก็ถือว่าขาดเสน่ห์อย่างแรง ดูจบแล้วทิ้งไว้สักอาทิตย์นึงคุณอาจจะลืมหน้าตามันไปเลยก็ได้ (ฮา) ตัวเนื้อเรื่องเองก็เดาง่าย คือสกิลพระเอกในเรื่องนี้โกงมาก เวลาที่พระเอกเจอเรื่องที่คับขันกำลังแย่ก็จะต้องมีเหตุการณ์ให้ได้พลังใหม่ ไม่ก็ต้องมีพวกพ้องมาช่วยให้รอดพ้นตลอด ซึ่งจะอยู่ลูปนี้ไปสักพักใหญ่ ๆ เลย
เสียงพากย์เองก็แอบเป็นปัญหาอยู่เล็ก ๆ เสียงของ อัสต้า ซึ่งเป็นตัวละครที่ชอบแหกปาก บวกกับเสียงที่แหลมเวลาดูใส่หูฟังไปนาน ๆ เข้าอาจทำให้คุณรำคาญหรือไม่ก็ปวดแก้วหูได้ black clover season 3 พากย์ไทย ถูกลิขสิทธิ์
ผมคิดว่าการ์ตูนเรื่องนี้มันไม่ค่อยเหมาะกับวัยรุ่นที่ชอบเสพเนื้อเรื่องที่เข้มข้น มีหักมุมไปมา หรือฉากที่รุนแรงเพื่อความมันสะใจเล็ก ๆ เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างเล่าเรื่องเป็นเส้นตรง มีศัตรูลูกกระจ๊อกอ่อน ๆ โผล่มาสู้กับพระเอกเพื่อที่พระเอกจะได้เติบโตและเก่งขึ้นก่อนจะไปตบลาสบอส การ์ตูนเรื่องนี้ผมเชื่อเลยว่าหากดูตอนอยู่มัธยมต้นมันคงจะสนุกมากแน่ ๆ เพราะฉะนั้นหากมีลูกมีหลานการจะเปิดการ์ตูนเรื่องนี้ให้ดูก็เป็นความคิดที่เข้าท่ามาก โดยเฉพาะเด็กผู้ชายที่ได้เห็นตัวการ์ตูนแบกดาบใหญ่อันเท่าคนสู้กับศัตรูคงจะให้ความรู้สึกเท่มากน่าดู (ฮา)
คำบรรยายที่ทาง Netflix ได้ให้ไว้สำหรับอนิเมะเรื่อง “แบล็คโคลเวอร์” คือ เด็กกำพร้าสองคนที่เติบโตมาด้วยกันเหมือนพี่น้อง ต้องกลายเป็นคู่แข่งช่วงชิงตำแหน่งจักรพรรดิเวทมนตร์ที่ยิ่งใหญ่เหนือกว่าใครในดินแดนแห่งนี้
หลาย ๆ คนอาจจะมีข้อสงสัยว่า “คำบรรยายข้างต้นนั้นขัดแย้งกับคอนเซปต์หลักอย่างไร? ในเมื่อเนื้อเรื่องก็เกี่ยวกับเวทมนตร์” สิ่งที่ย้อนแย้งคือ อัสต้า (Asta) พระเอกของเรานั้นมีความฝันที่อยากจะเป็นจักรพรรดิเวทมนตร์ที่ยิ่งใหญ่เช่นเดียวกับ ยูโน (Yuno) ซึ่งสามารถใช้พลังเวทมนตร์ได้อย่างชำนาญ
โดยอัสต้า นั้นไม่มีพลังเวทมนตร์เลยสักนิดเดียว จึงเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ความฝันของเขาเป็นจริง ซึ่งในจุดนี้ทำให้เนื้อเรื่องของแบล็คโคลเวอร์ดำเนินไปได้อย่างกลมกล่อม มีเสน่ห์ และทำให้ผู้ชมคอยลุ้นเอาใจช่วยพระเอกอยู่อย่างเสมอ black clover – bilibili
ในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ใกล้จะถึง ใครที่กำลังไม่รู้ว่าจะนอนอยู่บ้านทำอะไร การหยิบยกหาอนิเมะน้ำดีอย่าง แบล็คโคลเวอร์ มานั่งดูก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีไม่ใช่น้อย เพราะอนิเมะเรื่องนี้สามารถดูได้อย่างเพลิดเพลิน อีกทั้งยังทำให้ผู้ชมอย่างเราคอยเฝ้าดู และให้กำลังใจอัสต้า ตัวเอกได้ทำตามความฝันให้สำเร็จอีกด้วย
การ์ตูนอนิเมะเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่สนุกอีกเรื่องที่ผมอยากให้ได้ดูกันนะครับ ทั้งภาพและเสียงถือว่าดีมาก ๆ และเนื้อเรื่องก็ดูไม่น่าเบื่อหลายคนที่ยังไม่เคยดูถ้าได้ดูรับรองว่าติดแน่นอน นั่งดูกันได้ยาว ๆ สำหรับหลายร้อยตอนแบบนี้ ก็ถือว่ายังชิวๆ ไม่หวั่น
พอดูการ์ตูนเรื่องนี้จบผมก็นึกย้อนกลับไปถามตัวเองว่าทำไมผมถึงชอบดูวันพีช นารูโตะ หรือดราก้อนบอล มันคือสูตรสำเร็จการ์ตูนแนว โชเน็นจั้มป์ สมัยก่อน ที่จะให้คนดูได้เติบโตไปพร้อมกับตัวละครเอกที่เป็นเด็ก คอยอยู่เป็นเพื่อนหมอนี่ คอยเอาใจช่วยให้ฝีมือมันเทพขึ้นสักที อยากเห็นสกิลใหม่ ๆ ของตัวเอก
ด้วยภาพและกราฟฟิกของตัวอนิเมะไม่ได้ทำออกมาดูยากมาก และกราฟฟิกเองก็ไม่ขี้เหร่ การอนิเมทก็ดูลื่นไหลสบายตา เสียงพากย์ก็ทำออกมาได้ดี แต่ถึงอย่างนั้นทุกอย่างก็ถือเป็นมาตรฐานของอนิเมะสมัยนี้อยู่แล้ว แค่ไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ก็ถือว่าใช้ได้
แต่ถึงอย่างนั้นการ์ตูนเรื่องนี้ก็มีข้อเสียที่ไปติดอยู่ตรงการเล่าเรื่องที่เชื่องช้าจนทำเอาเราดูไปง่วงไปหลายต่อหลายตอน การต่อสู้หรือฉากแอ็กชันเองถึงจะทำกราฟฟิกออกมาได้สวย แต่ก็ไม่ค่อยสะใจหรือมันเท่าที่คิด ออกจะจำเจซะด้วยซ้ำ อารมณ์แบบตัวร้ายปล่อยพลังใส่พระเอกจนเสียท่า แล้วก็พูดจาเหยียดหยามพระเอก พระเอกของขึ้นควักดาบฟันจบ black clover season 5 มาตอนไหน
ตัวร้ายในเรื่องนี้ก็ถือว่าขาดเสน่ห์อย่างแรง ดูจบแล้วทิ้งไว้สักอาทิตย์นึงคุณอาจจะลืมหน้าตามันไปเลยก็ได้ (ฮา) ตัวเนื้อเรื่องเองก็เดาง่าย คือสกิลพระเอกในเรื่องนี้โกงมาก เวลาที่พระเอกเจอเรื่องที่คับขันกำลังแย่ก็จะต้องมีเหตุการณ์ให้ได้พลังใหม่ ไม่ก็ต้องมีพวกพ้องมาช่วยให้รอดพ้นตลอด ซึ่งจะอยู่ลูปนี้ไปสักพักใหญ่ ๆ เลย
เสียงพากย์เองก็แอบเป็นปัญหาอยู่เล็ก ๆ เสียงของ อัสต้า ซึ่งเป็นตัวละครที่ชอบแหกปาก บวกกับเสียงที่แหลมเวลาดูใส่หูฟังไปนาน ๆ เข้าอาจทำให้คุณรำคาญหรือไม่ก็ปวดแก้วหูได้
รีวิวอนิเมะ – black cover ความแตกต่างของอนิเมะ
รีวิวอนิเมะ – black cover ถ้าติตตามชมดูการ์ตูน Black Clover ไปหลายๆ ตอน จะเห็นความแตกต่างของวิธีการดำเนินเรื่องที่ไม่ค่อยเหมือนเรื่องอื่น สมดุลระหว่างเนื้อเรื่อง ฉากต่อสู้ บทบาทตัวละครหลัก ตัวละครรอง ความขัดแย้งระหว่างชนชั้น สงครามที่เกิดบ่อยครั้ง พร้อมกับศัตรูใหม่ที่ปรากฎตัวเรื่อย ๆ ผสมออกมาได้อย่างลงตัว ปริศนาที่ไม่กล่าวถึงในต้นเรื่องจะค่อยเผยทีละนิด จนคุณเข้าใจเนื้อเรื่องมากขึ้น ผสมผสานกับฉากสู้ด้วยเวทมนตร์สุดมันส์
สิ่งที่สำคัญสุดของแนวต่อสู้/ผจญภัย ก็คงจะต้องเป็นเรื่องฉากต่อสู้ ซึ่งแบล็คโคลเวอร์ทำออกมาได้ดี โดยเฉพาะแบบแอนิเมชันภาพเคลื่อนไหว ซึ่งสื่อให้เห็นภาพได้ดีกว่าฉบับมังงะ แม้ว่าในตอนแรก ๆ จะยังไม่ค่อยมีฉากสู้ แต่ถ้าดูการ์ตูน Black Clover ไปสักพัก จะเริ่มเห็นฉากสุดมันส์ออกมาเรื่อย ๆ และจะได้เห็นบ่อยขึ้นในช่วงตอนที่ 20 ขึ้นไป แถมจะสนุกยิ่งขึ้นไปอีกหลังตัวละครมีการพัฒนาจากเดิม มีเวทและความสามารถใหม่ พร้อมศัตรูคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง
อนิเมะเหมาะสมกับทุกวัยหรือไม่
ความรู้สึกส่วนตัวของผม ผมคิดว่าการ์ตูนเรื่องนี้มันไม่ค่อยเหมาะกับวัยรุ่นที่ชอบเสพเนื้อเรื่องที่เข้มข้น มีหักมุมไปมา หรือฉากที่รุนแรงเพื่อความมันสะใจเล็ก ๆ เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างเล่าเรื่องเป็นเส้นตรง มีศัตรูลูกกระจ๊อกอ่อน ๆ โผล่มาสู้กับพระเอกเพื่อที่พระเอกจะได้เติบโตและเก่งขึ้นก่อนจะไปตบลาสบอส การ์ตูนเรื่องนี้ผมเชื่อเลยว่าหากดูตอนอยู่มัธยมต้นมันคงจะสนุกมากแน่ ๆ ดังนั้นหากมีลูกมีหลานการจะเปิดการ์ตูนเรื่องนี้ให้ดูก็เป็นความคิดที่เข้าท่ามาก โดยเฉพาะเด็กผู้ชายที่ได้เห็นตัวการ์ตูนแบกดาบใหญ่อันเท่าคนสู้กับศัตรูคงจะให้ความรู้สึกเท่มากน่าดู
จุดเด่น
เหมือนคอยเฝ้ามองการเจริญเติบโตของตัวเอก ให้ความรู้สึกเหมือนดูการ์ตูนJUMPสมัยก่อนอย่างดราก้อนบอล
กราฟฟิกดี เสียงพากย์ดี
ดูได้ทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะหากชอบแนวแอ็กชันแฟนตาซี
จุดสังเกต
เล่าเรื่องช้ามาก
เนื้อเรื่องเดาได้ไม่ยาก ตัวร้ายไม่ค่อยน่าจดจำสักเท่าไหร่