รีวิว กังฟูแพนด้า 3

ถ้าพูดถึง กังฟูแพนด้า ..หลายคนคงจะคิดถึงความน่ารักของคาแรคเตอร์ล้วนรูปสัตว์ที่หลากหลายและความอ้วนกลมของเจ้าโปที่ชวนให้คนดูอยากไปกอดสัมผัสความน่ารัก ซึ่ง 2 ภาคก่อนหน้านี้ กังฟูแพนด้า อาจจะถูกมองในแง่ความสนุกและตลกขบขัน แต่เมื่อการเดินทางมาถึง ภาค 3  งานของ กังฟูแพนด้า กลับไม่ได้พัฒนาในด้านของเทคนิอนิเมชั่นเท่านั้น แต่ยังเพิ่มมิติในด้านบทภาพยนตร์ให้มีความน่าสนใจ บทเรียนสอนใจโดยไม่ทิ้งแก่นเดิมของหนังคือการเดินเรื่องแบบสนุกสนานแทรกด้วยมุกขำขันได้อย่างไม่น่าเบื่อ

 

 

เนื้อเรื่อง รีวิว กังฟูแพนด้า 3

รีวิว กังฟูแพนด้า 3

กังฟูแพนด้า3 เป็นเรื่องราวที่ยังคงเน้นไปที่การเล่าเรื่องเกี่ยวกับกับ โป แพนด้าที่ได้รับฉายาว่าเป็นนักรบมังกร ซึ่งในภาคนี้มันได้รับมอบหมายให้เปลี่ยนจากศิษย์มาเป็นเจ้าสำนัก แต่ด้วยความไม่มั่นใจว่าทำหน้าที่นี้ได้มั้ย เรื่องยุ่งๆก็เกิด เมื่อพ่อที่แท้จริงของโป ได้ปรากฎตัวขึ้นและตามเขากลับไปอยู่ในหมู่บ้านแพนด้าลับแล ในขณะเดียวกัน ไค่ อสูรร้ายจากปรโลกได้หลุดออกมาอาละวาดจับตัว อาจารย์กังฟูไปหลายคนรวมถึง ชิฟู อูเกว และศิษย์ในสำนักด้วย โปจึงต้องเรียนรู้เพื่อสร้างความมั่นใจให้ตัวเองเพื่อเอาชนะปีศาจร้ายไค่เพื่อช่วยเหลืออาจารย์และผองเพื่อนกลับมาให้ได้ โดยได้รับความช่วยเหลือจากแพนด้าในหมู่บ้าน อนิเมะออนไลน

 

 

ตัวละคร

โป (Po) พากย์เสียงโดย แจ็ค แบล็ค (Jack Black)

 

เจ้าหมีแพนด้าพุงพลุ้ย ที่พลัดพลากจากครอบครัวตั้งแต่ยังเด็ก ขณะกำลังเดินทางอพยพ หลังจากแม่ของเขานำโปใส่ตะกร้า แล้วบังเอิญกลิ้งตกเขา จนไปโผล่ที่ร้านบะหมี่นกกระเรียน ตั้งแต่นั้นมาโปก็เติบโต ณ ที่แห่งนั้น และทำหน้าที่เป็นเด็กเสิร์ฟบะหมี่ ภายหลังได้จับพลัดจับผลูกลายเป็น “นักรบมังกร” ตามคำทำนาย จนอาารย์ชิฟูต้องรับเป็นลูกศิษย์ เพื่อฝึกฝนวิทยายุทธให้ ร่วมกับผู้พอทักษ์ทั้ง 5

 

 

ลิ (Li) พากย์เสียงโดย ไบรอัน แครนสตัน (Bryan Cranston)

พ่อสุดติสของโป ที่เดินทางร่อนเร่จนได้พบโป ลูกที่พลัดพลากตั้งแต่วัยเด็กในภาคนี้

 

รีวิว กังฟูแพนด้า 3

ชิฟู (Shifu) พากย์เสียงโดย  ดัสติน ฮอฟฟ์แมน (Dustin Hoffman)   ดูอนิเมะ

 

แพนด้าแดงสูงวัย ปรมาจารย์กังฟู แห่งหุบเขาสันติภาพ ผู้ฝึกฝนและถ่ายทอดวิชาให้กับโป ตลอดจนลูกศิษย์อีกหลายคน ทั้ง ไทเกรส นางพยัคฆ์ ,เครน กระเรียน,แมนทิส ตั๊กแตน,ไวเปอร์ อสรพิษ และมังกี้ วานร รวมถึง ไต้ลุง เสือดาวหิมะจอมโฉด ที่เคยเป็นตัวร้ายในภาคแรก

 

 

นางพยัคฆ์/ไทเกรส (Tigress) พากย์เสียงโดย แองเจลีน่า โจลี่ (Angelina Jolie)

จอมยุทธกังฟู หนึ่งในลูกศิษย์ของชิฟู และเป็นหนึ่งใน 5 ผู้พิทักษ์ เธอเป็นเสือโคร่งจีนใต้สาว ฝีมือร้ายกาจ และเป็นศิษย์พี่แห่งหุบเขาสันติภาพ ที่ว่องไว และกล้าหาญเยี่ยงบุรุษ

 

อสรพิษ /ไวเปอร์ (Viper) พากย์เสียงโดย ลูซี่ หลิว (Lucy Liu)

งูเขียวสาว หนึ่งในลูกศิษย์ของชิฟู และเป็นหนึ่งใน 5 ผู้พิทักษ์ ที่มีทั้งมีปัญญาเฉียบแหลม และใจดี

 

ไค (Kai) พากย์เสียงโดย  เจ.เค. ซิมมอนส์ (J.K. Simmons)

ตัวละครใหม่ของเรื่อง และเป็นตัวร้ายของภาคนี้

 

เหม่ยเหมย (Mei Mei) พากย์เสียงโดย  เคท ฮุดสัน (Kate Hudson)

 

 

เราไม่เคยดู Kung Fu Panda เลยสักภาค เพราะตอนหลายปีก่อนยังมีความคิดอยู่ว่าการ์ตูนมีไว้ให้เด็กดู แต่ตอนนี้เราโตแล้ว (เอ๊ะ!?!) และรู้ว่าการ์ตูนไม่ได้เหมาะสำหรับเด็กเท่านั้น หากแต่ยังมีสาระกว่าหนังจริงๆ บางเรื่องเสียอีก ดังนั้นเราจึงถือโอกาสที่ไหนๆ ปัจจุบันก็เป็น movie blogger แล้ว ใช้สิทธิตั๋วฟรี (รอบสื่อ) ให้คุ้ม และไปจัด Kung Fu Panda 3 ซะเลย

 

 

รีวิว วิเคราะห์ วิจารณ์ KUNG FU PANDA 3

สำหรับเราที่ไม่เคยดู Kung Fu Panda มาก่อนเลย ขอบอกเลยว่าประทับใจ Kung Fu Panda ภาค 3 ภาคนี้มาก เป็นการ์ตูนแอนิเมชั่นที่ภาพสวยสีสด ภาพ 3D พุ่งมากๆ ที่สำคัญยังน่ารักเต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์นานาพันธุ์ โดยเฉพาะครอบครัวแพนด้านั้นน่ารักมากกกกก อีกทั้งหนังยังมีเนื้อหาสาระควบคู่ไปกับมุกตลกท่ีชวนขันตลอดเรื่อง ไม่แป้ก คือมันสนุกจริงๆ ไม่ได้อวยเล่นๆ

 

เราไม่รู้เรื่องเลยนะว่า เนื้อหาสาระของสองภาคแรกมันเกี่ยวกับอะไร และเคยเล่นมุกอะไรมาก่อนแล้วบ้าง แต่สำหรับประเด็นเรื่องการรู้จักตัวตนและการเป็นตัวเองใน Kung Fu Panda 3 นี้ เราชอบมาก ประเด็นที่เขาเล่นมันสตรองดี เราดูแล้วรู้สึก inspired สุดๆ ดูจบแล้วอยากจะออกมาสำรวจตัวตนทันทีว่า เราเป็นใคร ชอบอะไร ถนัดอะไร และจะเอามา adapt กับสิ่งที่เราทำอยู่หรือสิ่งที่เราจะทำได้อย่างไรบ้าง

 

ทั้งนี้ทั้งนั้น หนังยังสอนให้เราเข้าใจด้วยว่า ไม่ว่าเราจะรู้หรือไม่ว่าเราเป็นใคร อย่าไปยึดติดกับมันมากเกินไป สิ่งที่เราเป็นนั้นไม่จำเป็นว่าต้องเป็นทางด้าน biological ด้านเดียวเท่านั้น เช่น รูปลักษณ์ภายนอกเราเป็นแพนด้า โอเค เราเป็นแพนด้า แต่เราไม่จำเป็นต้องเป็นแต่แพนด้าอย่างเดียว คนหนึ่งคนเป็นและทำอะไรได้มากกว่านั้น

 

นอกจากนั้น สิ่งที่เราทำย่อมสำคัญกว่าสิ่งที่เราเป็น เช่น ห่าน Mr.Ping อาจจะไม่ใช่พ่อแท้ๆ ทางสายเลือดของแพนด้า Po แต่สิ่งที่เขาทำเพื่อ Po มาตลอดทั้งชีวิต มันคือสิ่งที่คนเป็นพ่อพึงกระทำ เพราะฉะนั้น สิ่งที่เขาทำมันมากพอที่จะการันตีได้ว่า เขาก็คือพ่อของ Po คนหนึ่ง และพ่อก็คือพ่อ  ดูอนิเมะออนไลน์ 

 

 

เหนือสิ่งอื่นใดคือ คนเราเกิดมาไม่เหมือนกัน แต่ท่ามกลางความแตกต่างนั้น คนเราย่อมต่างมีความเหมือนกันมากกว่าแตกต่างกันอยู่แล้ว ดังนั้นเราไม่ควรเอาข้อแตกต่างนั้นมาเป็นจุดด้อยข่มกันและกัน หากแต่ต้องดึงเอาความแตกต่างนั้นมาทำให้เป็นจุดเด่น ใช้มันให้คุ้มค่า ไม่ว่าเราจะเป็นอะไรหรือทำอะไรอยู่ เราจะต้องใส่ความเป็นตัวเองลงไป แล้วผลลัพธ์มันจะดีกว่าการพยายามเป็นแบบคนอื่น

 

 

 

ถ้าจะบอกว่าภาพยนตร์เรื่อง Kung Fu Panda นั้นประสบความสำเร็จแบบสุดๆ ไปเลย ก็คงจะดูไม่เกินจริงนัก เพราะที่มีการ์ตูนอนิเมชั่นที่ดังเปรี้ยงถึง 3 ภาคนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่สำหรับภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องนี้กลับมีแฟนหนังอย่างเหนียวแน่น สังเกตได้จากปริมาณคนดูในโรงหนัง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กในวัยเรียน ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะกำหนดการฉายที่เปิดให้เข้าชมในช่วงหลังสอบเสร็จใหม่ๆ ด้วย โดยโพ ตัวละครเอกของเรื่องก็ยังคงความติ๊งต๊องได้ไม่เปลี่ยนแปลง สิ่งที่พิเศษกว่าภาคอื่นๆ คงเป็นปรัชญาที่ทางผู้สร้างต้องการแทรกเข้ามาตั้งแต่ต้นเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น “ถ้าเจ้าไม่ทำสิ่งที่ยากขึ้น เจ้าก็จะไม่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ เลย” และ “ข้าฯ ไม่ได้สอนเจ้าให้เป็นข้าฯ แต่ข้าฯ สอนเจ้าให้เป็นเจ้า” โดยมีการอธิบายความหมายของคำพูดนี้ในตอนท้ายเรื่อง ตอนที่โพได้รับพลังมาจากบรรดาพี่น้องและผองเพื่อน ทำให้โพกลายเข้าใจว่าแท้จริงแล้ว อาจารย์ต้องการให้เขารู้จักตัวเอง ซึ่งทำให้เจ้าแพนด้าตัวป่วนกลายเป็นนักรบมังกรได้สำเร็จ

 

นอกจากนี้รายละเอียดของภาพภายในเรื่องก็ทำได้ดีขึ้น ตัวละครขยับได้อย่างเป็นธรรมชาติ มีการแสดงอารมณ์ทางสีหน้าและแววตา เส้นขนพลิ้วไหวได้สมจริงมาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทิศทางการปลิวของกลีบดอกไม้ทำได้เนียนขึ้น และเปลวไฟแต่ละดวงมีลักษณะที่แตกต่างกัน นับได้ว่าเป็นการ์ตูนอนิเมชั่นที่พัฒนาขึ้นกว่าภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องอื่นที่ถูกสร้างขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน อย่างไรก็ตาม Kung Fu Panda 3 น่าจะถูกใจเด็กๆ รวมไปถึงวัยรุ่นตอนต้นได้ไม่ยาก แต่จะเรียกว่าเป็นภาพยนตร์การ์ตูนสำหรับครอบครัวก็คงจะพูดได้ไม่เต็มปาก เพราะการสื่อสารของตัวละครยังเป็นไปในรูปแบบที่ยังไม่ซับซ้อนมากนัก อย่างเช่น พ่อกับโพเจอกันง่ายเกินไป พบกันแล้วก็เชื่อใจและเดินทางตามไปทันที โดยที่แทบจะไม่มีอุปสรรคอะไรเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางเลย อันที่จริงถ้าเติมเรื่องราวบางอย่างลงไปให้น่าตื่นเต้นกว่านี้ก็จะดีมาก

อนิเมะ

รีวิว กังฟูแพนด้า 3

สรุป : Kung Fu Panda 3 เหมาะสำหรับเด็ก เพราะช่วยให้เด็กมั่นใจในตัวเอง รักและให้ความช่วยเหลือกับเพื่อน นับได้ว่าเป็นการปลูกฝังนิสัยที่ดีให้แก่เด็กได้ กราฟิกในเรื่องทำได้ดี เนื้อเรื่องมีความลื่นไหล แต่วางพลอตเรื่องไว้ง่ายเกินไป ฉากการต่อสู้ทำได้ดีระดับหนึ่ง โดยรวมนับว่ารักษามาตรฐานเดิมไว้ได้ดีเมื่อเทียบกับภาคที่แล้วมา

 

 

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *