รีวิว ซูเปอร์ครูกส์ รวมพลซ่ามหาโจร
อนิเมะ Super Crooks (2021) ซูเปอร์ครูกส์ รวมพลซ่ามหาโจร เป็นเรื่องราวที่ตั้งของเผ่านักรบ “Saiyan” ที่มีชื่อเสียง “King Vegeta” เมื่อสี่สิบปีที่แล้วบน Planet Vegeta สังเกตุเห็นได้ว่าพลังของทารก “Broly” ได้แฝงอยู่ในตัวลูกชายของเขาเชื่อว่าสักวันหนึ่งจะปรากฎการณ์เกิดขึ้นด้วยพลังบางอย่างของโบลี่ที่เหนือกว่าและเก่งกว่า”เบจิต้า”ลูกของเขาขณะนั้นกษัตริย์ได้ส่งตัว”โบรลี่” ไปยังอีกดาวเคาระห์
ที่มีชื่อว่า”แวมปา ” ที่แห่งนี้ชั่งมันรกร้างว่างเปล่าด้วยโดดเดี่ยวเเละพ่อที่เป็นห่วง “Broly”ได้ตามเขาไปตั้งใจที่จะปกป้องลูกชายของเขาและเรือของเขาได้เกิดความเสียหายทำให้พวกเขาติดอยู่ที่นั้นเป็นนับสิบปีได้ด้วยความแห้งแล้งนี้ทำให้พวกเขาได้ยากลำบากและไม่สามารถติดต่อใครได้เลยพวกเขาได้คิดหาวิธีที่เพื่อเอาตัวรอดเขาและลูกได้เดินไปเรื่อยๆโดยไม่รู้ถึงวันที่เขาจะตายเมื่อไหร่ปีต่อมาโลกของ “Gokuu
Son” และ “Vegeta” เขาได้เชื่อกันว่าเป็นผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายของชนเผ่านี้พวกเขาได้ฝึกฝนบนเกาะที่ห่างไกลจากผู้คนมากๆอย่างเคร่งครัดไม่พักกันเลยก็ว่าได้เพื่อความอยู่รอดและแข็งเเกร่งนี้เมื่อ “Frieza”ศรัตรูเก่าของพวกเขาได้ปรากฎตัวและค้นหา “Dragon Balls” สุดท้ายที่มอบให้ในทวีปที่กลายเป็นน้ำแข็งนั้นเมื่อพวกเขาได้มีพันธมิตรใหม่คือ2พ่อลูกนั้นเองเมื่อพวกเขาได้ฝึกฝนวิชาจาก “Frieza” ทีทรงพลังที่สุดพวกเขาได้ต่อสู้ในตำนานและเผชิญกับนักรบใหม่ที่เท่าเทียมด้วยความโกธรแค้นนี้กำลังจะจบลง
Super Crooks (ซูเปอร์ครูกส์ รวมพลซ่ามหาโจร) อนิเมชั่นผู้ใหญ่แนวซูเปอร์ฮีโร่จากเน็ตฟลิกซ์ ดัดแปลงจากหนังสือการ์ตูนชื่อเดียวกันทั้งสามเล่มของมาร์ค มิลลาร์ (“Kick-Ass” และ “Jupiter legacy”) เขียนบทโดย ได ซาโตะ (นักเขียน “Cowboy Bebop“) เป็นซีรีส์ภาคต้นที่ปูไปสู่เรื่องราวในฉบับหนังสือการ์ตูน เป็นภาคแยกในจักรวาล Millarworld Cinematic Universe และเป็นภาคต่อแยกฉบับอนิเมชั่นของซีรีส์คนแสดงที่เกรดบีจนถูกสั่งยกเลิกอย่าง Jupiter Lagacy ว่าด้วยเรื่องราวของจอห์นนี่ อาชญากรผู้มีพลังควบคุมไฟฟ้าที่เขาใช้มันหาเงินในทางที่ผิด ร่วมกับแฟนสาว เคซีย์ ในขณะที่พวกเขายังต้องเผชิญหน้ากับอำนาจมืดใหญ่ เมื่อซูเปอร์วายร้ายในตำนานปรากฏตัวและยื่นข้อเสนอสุดท้ายที่ยากจะปฏิเสธให้ อีกมุมหนึ่งของวายร้ายที่คนชอบซูเปอร์ฮีโร่ไม่มีวันรู้จึงเกิดขึ้น โดยได้รับกระแสคำวิจารณ์ในแง่บวกอยู่ขณะนี้
เนื้อเรื่อง รีวิว ซูเปอร์ครูกส์ รวมพลซ่ามหาโจร
คงไม่มีชีวิตอะไรเฮงซวยอีกแล้วสำหรับ จอห์นนี่ โบลท์ ชายหนุ่มจอมเจ้าเล่ห์ และฉลาดแกมโกง ผู้มีพลังพิเศษในการปล่อยกระแสไฟฟ้าจากร่างกายที่ถูกปล่อยตัวมาจากคุกขังวายร้ายอย่าง ซูเปอร์แม็กซ์ และหวนคืนสู่แฟนสาวผู้มีพลังสร้างภาพลวงตาสุดยากจะหาตัวจับ เคซีย์ ทั้งคู่คาดหวังชีวิตที่ปลอดภัยและสามารถใช้เวลาอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข แต่ทว่าเพื่อนเก่าวายร้ายดันจูงมือพาเขากลับสู่วงการอาชญากรรมรับขวัญในเวลาไม่ถึงวัน และนั่นทำให้ไฟในตัวของจอห์นนี่นั้นลุกโชนกว่าครั้งไหน ๆ กว่าจะรู้ตัวว่าคิดผิด ชีวิตของเขาและแฟนสาวก็ต้องพัวพันกับองค์กรที่ชั่วร้าย ฮีโร่ทรงพลังเกินจะรับมือ หรือแม้แต่อาชญากรด้วยกันเอง แผนปล้นครั้งนี้จึงไม่ได้มีรางวัลแค่ความมั่งคั่งแต่มันยังเดิมพันด้วยชีวิตของเขาและคนที่เขารัก จอห์นนี่ผู้เจ้าเล่ห์คนนี้จะหาทางลบคำสบประมาทในฐานะ วายร้ายกระจอกได้หรือไม่ และสุดท้ายแล้วเขาจะได้มีชีวิตคู่ที่สุขสันต์ท่ามกลางโลกที่มีวายร้ายและฮีโร่ที่พร้อมเป็นศัตรูพวกเขาได้หรือเปล่า
ซีรีส์ 13 ตอน ตอนละ 20 นาทีนี้พาเราไปสำรวจชีวิตของจอห์นนี่ โบลท์ และวงการอาชญากรรมว่ามันเป็นมาอย่างไร เราจะไม่ได้รู้ทุกอย่างในตอนแรกแต่จะค่อย ๆ ปะติดปะต่อได้และค่อย ๆ แนะนำตัวละครใหม่ ๆ เข้ามา ซึ่งกว่าจะเข้าเรื่องจริง ๆ ก็วิ่งไปประมาณ 4 ตอนได้ และอย่าคิดว่าเป็นอนิเมชั่นแล้วมันจะไม่โหด มันก็มีโหดเลือดสาดบ้าง แต่ก็น้อยกว่าที่คาดการณ์ ฉากโป๊เปลือยก็แค่วับ ๆ แวม ๆ ไม่เห็นอะไร ตอนแรกปูเรื่องอดีตของตัวละครก่อนจะเข้าสู่เรื่องจริง ๆ ก็ตอนที่สอง ซึ่งต้องขอบอกเลยว่าเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์มาก แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไปกว่าสิบตอนอนิเมชั่นก็พยายามจะเป็นทุกอย่างทั้งแนวซูเปอร์ฮีโร่ตลกร้ายมีคาร์แร็คเตอร์ทั้งฝั่งดี ฝั่งร้าย พร้อมฉากแอ็คชั่นแบบเท่ ๆ อย่าง Suicide Squad เป็นแนวต้มตุ่นโจรกรรมหักมุมไปมาแบบ The Great Pretender ซึ่งไปได้ไม่สุดสักอย่างด้วยพล็อตที่คาดเดาง่าย เพลย์เซฟ อาจจะเพราะพยายามทำตามฉบับหนังสือการ์ตูนแต่มีการปรับเนื้อหาบางส่วน ยิ่งช่วงตอนสุดท้ายคือเฉยมาก ซีรีส์ไม่ทำให้เรารู้สึกอยากเอาใจช่วยวายร้ายกลุ่มนี้สักเท่าไหร่ด้วยตัวละครที่ตื้นเขิน ความดราม่าแบบผ่าน ๆ และฉากรักโรแมนติกแบบหวานเลี่ยน หรือฉากหักมุมให้ตกใจ หรือฉากแบบอุทานลั่น ซึ่งทำออกมาได้แบบงั้น ๆ มาก แถมจบแล้วจบเลยตามฉบับหนังสือการ์ตูน คงไม่น่าจะมีซีซั่นต่อไปแล้ว ยกเว้นเสียแต่จะมีฉบับคนแสดงที่มีประกาศว่าจะตามมาภายหลัง แต่ส่วนตัวมันธรรมดามาก ถ้าไม่นับสไตล์ที่ผสมผสานระหว่างความเป็นตะวันตกกับตะวันออกแล้ว มันแทบจะเรียกได้ว่าไม่มีอะไรสดใหม่เลยสักนิด
ตัวละคร
ตัวละครในเรื่องเรียกว่าให้วายร้ายเป็นตัวเอกและให้ฮีโร่เป็นตัวร้าย แต่วายร้ายมันก็มีหัวใจ เช่นเดียวกับ จอห์นนี่ ชายหนุ่มผู้เริ่มต้นจากความว่างเปล่าและก่อร่างสร้างตัวด้วยเรื่องที่ผิด กระทั่งเขาได้พบกับความรักที่รอเขาอยู่เสมอ ตัวละครของเขาจะเป็นในแนวเจ้าเล่ห์ แต่ก็ไม่ได้เก่งเวอร์ มีพลั้งพลาด มีพัฒนาการ และไม่ได้ดีเต็มเปี่ยม ในขณะที่เคซีย์ หญิงสาวผู้หวาดกลัวที่จะใช้พลังควบคุมจิตใจ แต่เธอก็คอยอยู่เคียงข้างกับจอห์นนี่ด้วยความรัก และไม่เคยโกรธเขาลงเลยสักครั้ง บางครั้งก็ผีเข้าผีออก บางครั้งก็ใจอ่อนง่าย เดอะ ฮีท หรือ คาร์มาย วายร้ายในตำนานที่ทำทุกอย่างเพื่อความสำเร็จแก่คนอื่น แต่ในขณะเดียวกันเขาก็เป็นชายสูงวัยที่ดูไม่จริงจังกับอะไร จอช ชายหนุ่มผู้มีพลังในการผ่านทะลุเหมือนวิญญาณจอมเย่อหยิ่ง พรีโตเรียน ฮีโร่หนุ่มผู้ไร้เทียมทานที่มั่นใจในตัวเองและไม่เกรงกลัวว่าจะมีอะไรมาทำให้ชีวิตแปดเปื้อน และตัวละครที่มีบทเพื่อความตลกและสนุกมากกว่าจะเป็นพล็อตหลัก พร้อมตัวละครรับเชิญจากจูปิเตอร์ เลกาซี่ที่โผล่มาให้คิดถึง แต่เหมือนมาเพื่อเซอร์วิสเท่านั้น ไม่ได้มีบทบาทสำคัญกับเรื่องราวหลักอะไร เพราะตัวละครในเรื่องล้วนแต่เป็นวายร้ายที่ใช้ชีวิตแบบร้าย ๆ แต่ก็ไม่เคยฆ่าใคร นอกจากปล้นเพื่อเอาเงินมาปรนเปรอชีวิต
ปมสำคัญของเรื่องคงสอนให้รู้ว่า ไม่มีอะไรได้มาง่าย ๆ การเป็นวายร้ายในเรื่องก็เช่นกัน ต้องก่อร่างสร้างตัว ต้องทำทุกอย่างสารพัดกว่าจะมาถึงจุดที่ยิ่งใหญ่ แม้ว่าสิ่งที่ทำมันจะไม่ถูก แต่ความพยายามก็นำพาเป้าหมายมาสู่ชีวิต และบางครั้งสิ่งที่เราต้องการนั้นก็ไม่ได้มาตลอด เราจึงต้องเตรียมใจพร้อมรับความผิดพลาดและหาทางรับมือกับมัน อย่าได้เกลียดชังหรือโทษตัวเองเพราะยังมีคนที่ยังเห็นคุณค่าในตัวเราเสมอ อย่างน้อยอาจจะไม่กี่คน แต่มันก็ทำให้เรารู้ว่าเราไม่ได้อยู่ตามลำพัง ในเรื่องยังบอกว่า บางครั้งซูเปอร์ฮีโร่ก็หาผลประโยชน์จากอาชญากรรม เหมือนกับที่คนเราชอบใช้เหตุผลต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ตัวเอง โดยที่ไม่คำนึงถึงผู้อื่น ทั้งทำลายชีวิต ทรัพย์สิน และความเป็นอยู่ที่ดี แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราควรทำ สิ่งที่เราควรทำคือการใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทและมีสติ ทำอาชีพสุจริต และปล่อยให้ชีวิตของเรานั้นนำทางเราไปสู่แสงสว่างที่อาจจะยังอีกยาวไกลแต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีอยู่
ในส่วนที่ดีในทางโปรดักชั่นก็ยังมีอยู่คือลายเส้นหลักที่ทำให้ตัวละครนั้นมีความโดดเด่น แปลกใหม่ และมีเอกลักษณ์เฉพาะสไตล์ตะวันตกแต่ก็ยังมีความเป็นแบบการ์ตูนญี่ปุ่นที่สีสดเหมือนยกฉากมาจากหนังสือการ์ตูน ด้วยงานภาพที่ผสมผสานระหว่างอนิเมชั่นและกราฟฟิกสามมิติที่การเคลื่อนไหวที่เป็นธรรมชาติ กระชับฉับไวแบบหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่แต่ละฉากนั้นจะมีการโชว์พลังของตัวละครที่หลากหลาย ทำให้ได้เห็นเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ที่ไม่ซ้ำแบบ เพลงประกอบที่ชวนตื่นเต้นและลุ้นระทึกไปกับเรื่องราวในแต่ละฉากและการตัดต่อที่น่าสนใจแม้จะไม่ได้โดดเด่นอะไร ในส่วนของงานพากย์ก็ทำได้ดีตามมาตรฐานเน็ตฟลิกซ์ พากย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติและแปลให้เข้าบริบทตลกในเรื่องได้ดี
Super Crooks ถือเป็นความพยายามยกสูตรสำเร็จที่ใช้ได้ผลจากสื่อหลาย ๆ เรื่อง มาผนวกกันกับความเป็นซีรีส์อนิเมชั่นที่สร้างจากหนังสือการ์ตูนอเมริกัน แต่เมื่อมันไปได้ไม่สุดแบบที่มันพยายามจะเป็นหลายแนว ทั้งตลก บู๊ ซูเปอร์ฮีโร่ โจรกรรม ดราม่า พัฒนาการตัวละครที่แบนราบและน่าเบื่อ ไม่น่าเอาใจช่วย มันจึงเป็นเพียงอนิเมชั่นที่ภาพสวย ที่ดูจบเพลิน ๆ แล้วคงเลยผ่านไปไม่น่าจดจำสักเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่ดูเองก็คงไม่รู้หรอก ใช่มั้ยครับ
Mark Millar ผู้ร่วมสร้าง Super Crooks กล่าวว่า “เป็นสิ่งที่บ้าที่สุดที่ผมเคยทำมา” และได้อธิบายว่าทำไมในตอนใหม่ของ Super Crooks จะต้องเป็นแบบนี้ โดยในการให้สัมภาษณ์ใหม่กับ CBR Mark Millar เผยว่า Super Crooks จะ “มีทั้งหมด 13 ตอน และผมกำลังบอกกับทีมงานชาวญี่ปุ่นของเรา (ซึ่งทำงานกับ Studio Bones) ว่าประเด็นในเรื่อง Super Crooks นั้นค่อนข้างจะยืดเยื้อไปเล็กน้อยสำหรับ 13 ตอน ซึ่งเราจำเป็นต้องดำเนินเรื่องไปอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกันกับแอนิเมชั่น” Mark Millar กล่าว
“ผมจึงสร้างสิ่งใหม่ ๆ เพิ่มจำนวนตอนมากขึ้นเพื่อปรับตัวและนำไปสู่ประเด็นในสามตอนสุดท้าย เป็นเรื่องที่สนุกจริงๆ และเป็นเรื่องดีที่มีที่ให้เราได้ทำงานร่วมกัน” ผู้สร้าง Kick-Ass กล่าว
Mark Millar ยกย่องทีมงานของอนิเมะที่กำลังจะฉายในเร็วๆ นี้ว่า “Motonobu Hori เป็นผู้กำกับที่มหัศจรรย์ ผมรักผู้ชายคนนั้นจริงๆ และ Dai Sato นั้นเป็นที่รู้จักกันดีในอนิเมะ นักเขียนบทที่เขียนบทตลกๆ ได้ดีมาก”
สรุป
อนิเมชั่นผู้ใหญ่ดูได้เพลิน ๆ ภาพสวย เพลงเพราะ มีสไตล์ แต่ตกม้าตาย เพราะพยายามเป็นสูตรสำเร็จหลายอย่างแต่ไปไม่ถึงฝั่ง ตัวละครที่ไม่มีมิติน่าสนใจ และความง่ายดายของบทที่คิดจะง่ายก็ง่าย คิดจะยากก็ยาก
จุดเด่น
เนื้อเรื่องแยกในจักรวาลจูปิเตอร์ เลกาซี่ ที่ดูได้แบบเพลิน ๆ
ได้เห็นว่าวายร้ายก็มีความรู้สึก มีจิตใจ แต่ก็อย่าทำตาม
ภาพสวย มีสไตล์ ผสมงานระหว่าง 2 มิติตะวันตก และซีจีแบบตะวันออก
เพลงประกอบที่ตื่นเต้นในฉากแอ็คชั่น
มีครบทุกรสชาติ
พากย์ไทยดีมาก
จุดด้อย
ใช้สูตรสำเร็จที่เดาทางได้หมดแล้วในสมัยนี้
ตัวละครไม่ค่อยมีพัฒนาการ และใช้ไม่คุ้มค่า
ความง่ายของบทที่ไม่ค่อยมีคำอธิบายอะไรให้เข้าใจหรืออินได้
เดินเรื่องเนือยมาก 4 ตอนแรก