รีวิว ปริศนาฆาตกร SS1-2
รีวิว ปริศนาฆาตกร SS1-2 ข้อมูลอนิเมะ
รีวิว ปริศนาฆาตกร SS1-2 B The Beginning ss1-2 Netflix รีวิว ปริศนาฆาตกร อนิเมะสุดล้ำจาก Production I.G. กำกับและงานสร้างโดย คาสุโอะ นาคาซาวะ ซึ่งเคยมีผลงานด้านการกำกับอนิเมชั่นเรื่องดังหลายเรื่องในอดีต เช่น El-Hazard และ Tenchi-Muyo แล้วยังเคยมีผลงานทั้งในด้านงานกำกับและการออกแบบตัวละครให้อนิเมะระดับรางวัลชื่อดังอย่าง Samurai Champlooอนิเมะญี่ปุ่น
B The Beginning ss1-2 Netflix เป็นการ์ตูนออริจินัลของทางNetFlix เป็นการ์ตูนแนวสืบสวนสอบสวนฆาตกรรม ที่มีเรื่องราวแบบแอคชั่น แฟนตาซีเข้ามาร่วมด้วย คือมันให้อารมณ์ของสองโลก ที่แตกต่างกันออกไป แต่มันก็ผสมเข้ามาอยู่ด้วยกันได้อย่างลงตัว ซึ่งเรื่องนี้มีทั้งภาพและเนื้อหา ค่อนข้างมีความรุนแรงอยู่พอสมควรครับ โครงเรื่องและปริศนาต่างๆ ก็ทำออกมาได้ดีไม่น้อย เรียกได้ว่าถูกใจคอแนวสืบสวนสอบสวนฆาตกรรมแน่นอนครับ การดำเนินเรื่องก็จะค่อยๆ หยอดปมปริศนาต่างๆเข้ามา โดยที่แก้เสร็จแล้วก็จะมีปมปริศนาขึ้นมาใหม่ให้แก้ต่อไปเรื่อยๆ ตลอดทั้งเรื่อง มองผิวเผินอาจจะดูมันเป็นประเด็นที่แตกต่างกันออกไป แต่พอนำมาจับมารวมกันจะรู้เลยว่าที่ปมปริศนาต่างๆ มันเชื่อมโยงกันอย่างไม่น่าเชื่อ
เรื่องย่อ
เรื่องราวการสืบหาฆาตกรต่อเนื่องโรคจิตที่มีฉายาว่า คิลเลอร์บี ซึ่งจะเขียนสัญลักษณ์ B ไว้ข้างศพของเหยื่อที่ถูกฆ่าตายเสมอ แต่ถึงแม้จะสืบหายังไงก็ไม่สามารถเข้าถึงตัวฆาตกรคนนี้ได้เลย จนกระทั่ง ทีมสืบสวนอาร์ไอเอสได้เรียกตัว คีท ฟลิก ตำรวจนักสืบอัจฉริยะที่เคยไขคดีฆาตกรรมมามากมายในอดีตให้เข้ามาช่วยเหลือ แต่เพราะเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นไม่กี่ปีก่อนได้ทำให้เขาได้หยุดพักงานสืบสวนไป ส่วนงานสืบสวนครั้งนี้ก็มี ลิลี่ เจ้าหน้าที่หญิงไฟแรงผู้ไม่กลัวอันตรายและมีศักยภาพในด้านการสืบสวนที่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับคีท มาเป็นผู้ช่วยสืบคดีครั้งนี้ด้วย
แต่ขณะเดียวกัน ปริศนาฆาตกร ที่เกิดขึ้นก็ดูเหมือนจะอยู่ใกล้ตัวพวกเขากว่าที่คิด เมื่อเรื่องราวของคดีมีความเกี่ยวพันกับเด็กหนุ่ม โคคู ที่มีพลังพิเศษเหนือมนุษย์ แล้วยิ่งคีทและลิลี่ได้สืบค้นหาความจริงไปมากขึ้นเท่าไหร่ พวกเขาก็พบว่าคดีนี้มีความลึกลับและเกี่ยวพันกับเรื่องราวพิสดารเกินจินตนาการ เพราะมันไปเกี่ยวข้องกับองค์กรที่ได้วางแผนการลับในการพัฒนามนุษย์สายพันธุ์ใหม่ที่จะนำความสงบมาสู่โลก นี่จึงเป็นการสืบคดีฆาตกรรมที่เต็มไปด้วยเรื่องราวแสนดาร์กและสุดจะแฟนตาซีในแบบที่คาดไม่ถึง
เดิมทีเรื่องนี้เป็นผลงาน อนิเมะแบบออริจินอลของ Netflix เรื่องที่สองถัดจาก Devilman Crybaby ที่ได้สตูดิโอชื่อดังอย่าง Production I.G. ซึ่งเคยสร้างผลงานชื่อดังมาประดับวงการหลายเรื่อง เช่น Ghost in the Shell, Eden of the East และ Psycho Pass B The Beginning ภาค 1
เรื่องนี้ได้รับเสียงวิจารณ์ที่ค่อนข้างดีแม้ว่าเนื้อหาจะค่อนข้างมึนงงมาก เริ่มฉายซีซันแรกในปี 2018 จากนั้นต้องรอถึงสามปีจึงได้มีซีซันสองออกมาสานต่อเรื่องราวบางส่วนที่ยังค้างคาจากซีซันแรกไว้ในปี 2021 ล่าสุดนี้ครับ
ตัวละคร
คีท ฟลิก (คีท คาซามะ)
ตำรวจนักสืบอัจฉริยะ มีมันสมองและความสามารถในการสืบสวนล้ำเลิศ แต่เป็นคนเข้าใจยากและแสดงออกไม่เก่งนัก ตัวของคีทเองก็มีปมอดีตที่เกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรมที่ทำให้เขาเลิกการสืบคดีมาก่อน ตัวคีทเองยังมีความเกี่ยวพันกับองค์กรที่สร้างมนุษย์พันธุ์ใหม่ด้วย
โคคู
เด็กหนุ่มปริศนาที่มีพลังพิเศษเหนือมนุษย์ เขาเป็นผู้ที่รอดชีวิตมาจากห้องทดลองของมนุษย์พันธุ์ใหม่ที่ถูกทำลายในอดีต และยังเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็น คิลเลอร์บี อีกด้วย
ยูนะ
สาวน้อยลึกลับที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ห้องทดลองถูกทำลายในอดีต และเป็นคนรักของโคคูที่เขาตามหาตัวมาตลอด
รีวิว ปริศนาฆาตกร SS1-2 ความรู้สึกหลังดู
รีวิว ปริศนาฆาตกร SS1-2 ก่อนอื่นต้องบอกว่าใครที่ดูเรื่องนี้แล้ว “มึนงง” ไม่ต้องแปลกใจครับ เพราะเชื่อว่าหลายคนก็เป็นกัน แต่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า ในความมึนงงของเรื่อง กลับสามารถสร้างสรรค์ตัวละครที่น่าเอาใจช่วยขึ้นมาได้หลายคน แล้วทำให้เราหันไปสนใจเรื่องราวของตัวละครเหล่านั้นเป็นหลัก ว่าพวกเขาจะเอาชีวิตรอดจากการตามล่าของศัตรูจากมุมมืดได้ยังไง โดยมีการสืบคดีและการตามหาฆาตกรตัวร้ายมาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราว
ที่น่าสนใจคือ มันเป็นความพยายามเอาแนวเรื่องแบบ ทีมตำรวจที่สืบสวนจริงจังในสไตล์ซีรีส์ตะวันตก มารวมกับ ไซไฟแฟนตาซีพลังพิเศษกับดราม่าตัวละครในแบบการ์ตูนญี่ปุ่น โดยจะแบ่งเป็นสองเส้นเรื่องหลักคือ ปริศนา ฆาตกร ภาค 3
1.เส้นเรื่องของ คีท และ ลิลลี่ จะทำออกมาแนวสืบสวนหาฆาตกร เน้นการทำงานสืบสวนแบบเดี่ยวและทีม รวมถึงปมอดีตดำมืดของคีท
2.เส้นเรื่องของ โคคู จะมาแนวการค้นหาความจริงเรื่องในอดีตที่จะเล่าแบบสลับฉากเป็นระยะ รวมถึงปริศนาเรื่องพลังพิเศษของเขา ไปจนถึงการตามชิงตัวยูนะ คนรักของเขากลับมา
แล้วถ้าถามว่า การผสมผสานสองแนวที่แตกต่างกันสุดขั้วในครั้งนี้มันออกมาเวิร์คไหม ก็ต้องบอกว่ามันทำออกมาได้สนุกในแบบมึนๆงงๆครับ
ความรู้สึกหลังดู
คือตอนที่เริ่มดูเรื่องนี้ ผมมีคำแนะนำว่าอย่าไปสนใจความอภินิหารหลุดโลกของกลุ่มตัวละครที่มีพลังพิเศษ เหาะได้ มีปีก และอื่นๆ ซึ่งดูผิวเผินแล้ว กลุ่มตัวละครพลังพิเศษพวกนี้ก็ดูจะไม่เข้ากันกับธีมเรื่องสืบสวนแบบจริงจังปนดาร์กๆโรคจิตมากนัก แต่พอดูจริงๆมันก็ค่อนข้างเพลินอยู่เหมือนกัน กับการที่เมื่อไม่กี่วินาทีก่อนโทนเรื่องยังมาแนวสืบสวนจริงจังในแบบเรียลสมจริง แต่ไม่กี่วินาทีต่อมากลับมีเหล่าตัวละครที่มีพลังพิเศษออกมาประเคนความอภินิหารและฉากแอ็คชั่นเวอร์ๆเข้าใส่กัน
แน่นอนว่าในด้านงานสร้าง โปรดักชั่น งานภาพ คือจุดแข็งของ Production I.G. มาตลอด ไม่ว่าจะเรื่องไหน โดยเฉพาะการสร้างเรื่องแนวไซไฟที่มีโทนภาพออกหม่นๆดาร์กๆ และการเล่นกับประเด็นทางศีลธรรมของมนุษย์ ซึ่งเรื่องนี้ก็มีการใส่ประเด็นนี้เข้ามาเหมือนกัน โดยเฉพาะในพาร์ทสืบสวนของคีทที่เขาต้องสืบหาตัวคนร้ายที่ก่อคดีต่อเนื่อง แล้วพบว่าคนร้ายก็คือคนเดียวกับคนที่ฆ่าเอริก้า น้องสาวบุญธรรมของเขาในอดีต แล้วยังเป็นคนใกล้ตัวซะด้วย
สำหรับจุดแข็งที่ดีที่สุดของอนิมะเรื่องนี้ ขอยกให้การสร้างคาแรคเตอร์ตัวละคร โดยเฉพาะ คีท และ ลิลี่ ที่เคมีของสองตัวละครนี้ทำให้พาร์ทสืบสวนหาฆาตกรดูน่าติดตามมากกว่าพาร์ทไซไฟแฟนตาซีของโคคูไปเยอะเลย เพราะพาร์ทของโคคูจะออกไปทางดราม่ามากกว่า นอกจากนี้ในส่วนของฝั่งทีมสืบสวน RIS ก็มีคาแรคเตอร์และความสัมพันธ์ในทีมกับความสามารถที่น่าสนใจ ถึงแม้ว่าแต่ละคนจะมีบทไม่เยอะก็ตาม มันเลยทำให้เราสามารถที่จะมองข้าม ความมึนงงของเนื้อเรื่องและไดอาล็อคกับตรรกะความคิดแปลกๆของเหล่าตัวร้าย แล้วหันมาลุ้นเอาใจช่วยสองตัวเอกของเรื่องว่าจะมาร่วมมือกันยังไง แล้วจะเอาตัวรอดกันแบบไหน โดยจะมี ลิลี่ ที่เป็นตัวเชื่อมเรื่องราวอีกทีหนึ่งด้วย ซึ่งตัวละครลิลี่นี่ก็ต้องยอมรับว่าสร้างออกมาได้น่ารักและน่าลุ้นให้คีทเอามากๆครับ
ส่วนจุดด้อยของเรื่อง โดยหลักแล้วก็คือความมึนงงของเนื้อเรื่อง ที่บางตอนเดินเรื่องเร็วเป็นจรวด แล้วเต็มไปด้วยบทพูดแปลกๆของพวกตัวร้ายและตัวละครปริศนาทั้งหลายที่ชวนให้งงหนักกว่าเดิม โดยเฉพาะพาร์ทของโคคู และในซีซันสอง งานภาพจะมีงานเผาออกมาให้เห็นเป็นระยะ หากเทียบกับภาคแรกที่ฉากเผามีน้อยมาก
โดยสิ่งที่ทำให้ชอบเรื่องนี้ ก็คือการแก้ไขคดีและปริศนาต่างๆ ของตัวพระเอกโดยการเขียนทฤษฏีและถอดรหัสแปลกๆออกมา ทั้งการเคาเดาความเป็นไปได้ ทุกอย่างที่ต้องใช้ในการแก้ไขคดี มันเหมือนกับว่าเอาตัวเองจำลองเข้าไปอยู่ในคดีหรือเหตุการณ์นั้นๆ ยิ่งดนตรีประกอบตอนไขคดีนี้ชวนบิ้วอารมณ์มากๆ ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้สนุกเกินคาดมากครับ ในช่วงแรกของเรื่องจะเน้นการสืบสวนคดีฆาตกรรมของ คิลเลอร์บี และเหตุการณ์อาชญากรรมวุ่นวายที่เกิดขึ้นโดยผู้ก่อการร้ายกลุ่มหนึ่ง โดยจะมีทฤษฎีสมคบคิดและแผนการต่างๆ ที่เป็นแบบแผนซ้อนแผน ทำให้ยิ่งซับซ้อนมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ มันชวนให้สนุกตื่นเต้นและน่าติดตามตลอดเวลา โดยช่วงนี้ก็จะมีการแก้ไขคดีและฉากแอคชั่นมาเป็นพักๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเน้นไปที่การไขคดีซะมากกว่า B The Beginning ss2 ตอนที่ 7
ช่วงหลังเนื้อเรื่องมันเข้มข้นและหนักขึ้นเรื่อยๆ ตัวเรื่องค่อยๆเข้าที่เข้าทางมากขึ้น แต่ก็พอเดาเนื้อเรื่องออกได้แล้วว่าใครเป็นใคร รู้สึกว่ารีบเฉลยปมต่างๆเร็วไปหน่อย ทั้งปมเรื่องราวในอดีตที่ทำให้รู้ว่าตัวละครมีความสัมพันธ์กันมากกว่าที่คิดมาก ปมแรงจูงใจของตัวละคร รวมไปถึงปมเบื้องหลังการทดลองในการสร้างอมนุษย์ขึ้นมา แต่ความสนุกมันอยู่ตรงที่วิธีการของตัวละครมากกว่า สร้างแผนการที่ดูตบตาให้เชื่อไปอย่างนั้น แล้วก็หักมุมทีหลังได้โหดมากจริงๆ
การดำเนินเรื่องก็จะมีหลายมุมมองมากครับ เพราะใช้หลายตัวละครแต่ตัวละครเด่นๆ ก็จะเป็น คีท ลิลลี่ และทีมตำรวจที่เป็นส่วนของการไขคดีและปริศนาต่างๆแล้วก็ คีลเลอร์บี และกลุ่มองค์กรปริศนาที่เป็นอมนุษย์ ที่จะเน้นไปทางฉากต่อสู้แอคชั่นแฟนตาซีมันส์ๆไปเลย ตัวละครทุกคนล้วนสำคัญกับตัวเรื่องมาก ฉากต่อสู้เรียกได้ว่าจัดเต็มแบบสะใจมาก รู้สึกดุเดือดสมกับเป็นการต่อสู้ของผู้ที่เหนือมนุษย์จริงๆ มันรวดเร็วแต่ก็พริ้วไหว ด้วยที่งาพภาพที่สวยงาม เก็บรายละเอียดเล็กน้อยต่างๆได้ดีมาก แทบไม่มีงานเผาเลย แต่น่าเสียดายที่มีฉากแอคชั่นน้อยไปหน่อยเท่านั้นเองครับ B The Beginning ss2
ต้องขอคาราวะคนเขียนบทครับ สุดยอดมากไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาตั้งแต่ดู The Dark Knight ตัวอนิเมะเลือกที่จะค่อยๆ หยอดปริศนาทีละนิดๆให้เรา พอแก้ปริศนาได้ก็มีปริศนาต่อไปโยนเข้ามาอีก กล้าพูดเลยว่าตลอด12ตอนนั้น ไม่มีช่วงไหนน่าเบื่อเลย งานภาพผมพยามยามจับผิดตลอดทั้งเรื่อง แต่เชื่อมั้ยแทบไม่เจอเลยภาพสวยมาก ชอบแบ็คกราวเรื่องนี้มาก โมเดล3D ในเรื่องก็ไม่น่าเกลียด ฉากดิบเถื่อนเลือดสาดทำได้ดีเลย
สรุปภาพรวม
ในภาพรวมแล้ว เป็นอนิเมะซีรีส์งานสร้างในคุณภาพระดับดีของ Netflix ที่สนุกแบบงงๆจากการผสมผสานหลายแนวเข้าด้วยกัน เอาเข้าจริงยังสามารถต่อยอดและสร้างต่อได้อีกเยอะถ้าคิดจะสร้าง ซึ่งทั้งสองซีซันฉายแล้วใน Netflix โดยซีซันแรก 12 ตอน ซีซันสอง 6 ตอน แล้วก็รับรองว่าจะมีซีซัน 3 ต่อแน่นอน เพราะเรื่องราวยังยังไม่จบ
อนิเมะที่สนุกแบบงงๆจาก Production I.G. เมื่อเอาแนวสืบสวนสมจริง + ไซไฟแฟนตาซี ชวนให้ลุ้นกับเรื่องของเหล่าตัวละครว่าจะเอาตัวรอดหรือมีบทสรุปกันยังไงมากกว่าจะไปลุ้นเนื้อหาหลักที่ค่อนข้างเข้าใจยาก
จุดเด่น
งานภาพและฉากแอ็คชั่นดีเยี่ยม
เดินเรื่องเร็ว ไม่ค่อยเสียเวลายืดเยื้อ
ไอเดียของเรื่องที่จับแนวสืบสวนสมจริงและแฟนตาซีมายำรวมกันทำได้แแปลกดี
สร้างตัวละครที่โดดเด่น เช่น คีท และ ลิลี่
เพลงประกอบในเรื่องโดดเด่นมีเอกลักษณ์
พาร์ทสืบสวนของคีททำได้น่าติดตาม
มีพากษ์ไทย
จุดด้อย
เรื่องราวเต็มไปด้วยความมึนงง บทพูดและคำศัพท์เข้าใจยากในเรื่องมีเยอะมาก
เดินเรื่องเร็วจนกลายเป็นเข้าใจยากเกินไปในบางฉาก
พาร์ทแฟนตาซีของโคคูดูแล้วดราม่าและชวนให้งงกับพวกตัวร้ายเกินไปหน่อย
ซีซันสองมีงานภาพเผาพอสมควร