รีวิว อะนิเมะ World Trigger
ฮัลโหลลลทุกคน กลับมารีวิวอนิเมะอีกแล้วจ้า ก็มันยังตีตั๋วเที่ยวไม่ได้ก็นั่งดูซีรีส์ อนิเมะยาว ๆ ต่อไป และบทความที่แล้วเราก็ได้เขียนวิเคราะห์ เหตุผลที่ทำให้ดาบพิฆาตอสูรครองใจคนดูไปแล้ว ระหว่างรอ ดาบพิฆาตอสูรภาค 2 ก็ได้เลื่อนหาอนิเมะดูไปเรื่อย ๆ ก็มาสะดุดกับอนิเมะเรื่อง เวิลด์ ทริกเกอร์ ( World Trigger ) ดูภาพปกก็ธรรมดา ๆ แต่ก็ติดอันดับอนิเมะยอดนิยม บน True ID จะไม่ลองดูคงไม่ได้ แล้วพอดูแล้วก็หยุดดูไม่ได้เลย วันนี้เลยจะมารีวิวและแนะนำอนิเมะเรื่องนี้กันจ้า
รีวิว อะนิเมะ World Trigger เรื่องย่อ
เรื่องนี้เป็นอนิเมะแนวแอคชั่นไซไฟ เป็นการต่อสู้ของมนุษย์กลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า Border กับสัตว์ประหลาดที่มาจากต่างมิติ หรือที่ในเรื่องเรียกว่า Neighbor โดยใช้เทคโนโลยีอาวุธเฉพาะตัว หรือก็คือ ทริกเกอร์ ซึ่งประกอบไปด้วยอาวุธที่หลากหลาย เช่น สกอร์เปี้ยน (มีด/ดาบ/ดาบสองด้าน), โคเก็ตสึ (คาตานะ/หอก), เรย์กัส (ดาบที่มีโหมดโล่), ปืนหลาย ๆ แบบ และ สไนเปอร์ นักซุ่มยิงระยะไกล แค่อาวุธก็รู้ว่ามันส์แล้ว ซึ่งความขัดแย้งในยุคปัจจุบันนั้นดันมี Neighbor ที่ครอบครองแบล็กทริกเกอร์อย่าง ยูมะ คูกะ ที่ดันมาช่วยเหลือ มิคุโมะ โอซามุพระเอกที่เป็น Border แม้จะยังมี Border คนอื่น ๆ ที่ไม่ยอมรับในตัว คูกะ แต่คูกะก็ยังช่วยเหลือเพื่อนของเขาเสมอมา และยังมีจิงกะที่เป็นเป้าของ Neighbor อีกฝั่งหนึ่ง เป็นปริศนาว่าทำไมพวกมันต้องการตัวจิงกะและลักพาตัวมนุษย์ไป เจ้าหนูจิงกะจะปลอดภัยหรือไม่
ความรู้สึกหลังรับชม
ก็ต้องบอกว่า “ชอบ” แหละ แต่ชอบเพราะอะไรมันก็มีหลากหลายเหตุผล จะอธิบายเป็นข้อ ๆ ไปนะคะ
- ภาพสวย
เป็นอนิเมะที่ภาพสวยมาก โดยเฉพาะตอนที่ผู้ใช้ทริกเกอร์ทำการ ทริกเกอร์ออน เปลี่ยนร่างคนจริงเป็นร่างทริออน ซึ่งช่วงจังหวะการเปลี่ยนร่างตรงนี้ให้ความรู้สึกเหมือนดูหนังไซไฟ และยังมีภาพประกอบอื่น ๆ ที่สวยงามเช่น ท้องฟ้า บ้านเมือง เครื่องแบบของตัวการ์ตูน สวยจริงประทับใจมากเลย
- คาแรกเกอร์ตัวการ์ตูนดี และโดดเด่น
เราจะไม่พูดเรื่องลายเส้นของตัวการ์ตูนเพราะเรื่องนี้โครงหน้าเดียวกันหมดเลยแค่ปรับส่วนประกอบ หู สีตา จมูก ปาก ผมให้ต่างบ้างเล็กน้อย แต่ในด้านคาแรกเตอร์ถือว่ามีความโดดเด่น ไม่ได้ทิ้งให้ตัวการ์ตูนตัวใดตัวหนึ่งจมหายไปกับความเด่นของคาเเรกเตอร์ตัวการ์ตูนหลัก
- ข้อคิดที่แฝงไว้
ตัวการ์ตูนทุกตัวมีการฝึกฝนจนเก่งกาจ คนที่ไม่ได้เก่งตั้งแต่เกิดอย่าง มิคุโมะ โอซามุ หรือก็คือเจ้าหนูสี่ตานั้น แม้จะไม่ได้เก่งกาจด้านพละกำลังแต่กลับมีสติปัญญาที่เป็นเลิศก็เลยสามารถต่อสู้ได้เช่นกัน แต่อาจจะไม่เก่งสุดยอดแต่มีความคิดที่ยอดเยี่ยม อนิเมะกำลังบอกว่า ความแข็งแกร่งนั้นวัดไม่ได้จากกำลังเพียงอย่างเดียว เพราะการมีสติปัญญาที่ดีก็ทำให้เข้มแข็งจนสามารถสู้ได้ หรือการฝ่าฝันให้ไปถึงจุดมุ่งหมายที่ตัวฝันถึง การปกป้องเพื่อนพ้อง ความสามัคคี ถือเป็นอนิเมะที่ดีกินใจมาก ๆ เลย
- ฉากการต่อสู้
โอ้โห้ ๆ สู้กันมันส์มาก ๆ ทั้งลุ้น ทั้งมันส์ แล้วก็ยังมีฉากที่ซึ้งกินใจ เพราะอนิเมะเรื่องนี้จะเน้นความสัมพันธ์ของเพื่อนที่จริงใจ เข้าใจ ช่วยดูแลปกป้องกันและกัน ดังนั้นในตอนสู้จะเห็นถึงความรู้สึกรักและผูกพันธ์ของตัวการ์ตูนที่พร้อมจะสู้เคียงข้างกันและกัน อินมากน้ำตานองเลยจ้า
- ความน่ารักและอบอุ่นของหัวหน้าชิโนดะ
ก็เป็นความชอบส่วนตัวนะคะคุณ ทุกคนอาจจะมุ่งไปที่ตัวหลัก ๆ ออกฉากบ่อย ๆ อย่าง ยูมะ คูกะ, มิคุโมะ โอซามุ, เรพลิก้า, ยูอิจิ จิน และ อามาโทริ จิงกะ แต่เรามองเห็นความน่ารักของหัวหน้าชิโนดะค่าาาาา ยิ่ง EP ที่หัวหน้าชิโนดะ ที่บัญชาการรบเอง และยังออกโรงไปสู้เองเพื่อปกป้องลูกน้องในศูนย๋ แถมมีความยุติธรรมให้ทีมพระเอกเสมอมาก น่ารัก ดูเป็นผู้ใหญ่
เหตุผลที่ต้องดู
สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่กำลังมองหาการ์ตูนแอ็คชั่น-ไซไฟ สักเรื่องที่สนุกมากจนถูกนำมาทำเป็นอนิเมะมาแล้วล่ะก็ บอกเลยว่า “World Trigger” ตอบโจทย์เพื่อนๆ แน่นอน สำหรับเราเองอ่านแล้วก็ไม่ได้ติดเท่าไหร่เล้ยยยยย (เสียงสูง) ก็แค่รอให้ออกเล่มใหม่ไม่ไหวแล้วเท่านั้นเอง อิอิ แต่ก่อนที่จะบอกว่าการ์ตูนเรื่องนี้สนุกตรงไหนบ้าง เรามาดูเนื้อเรื่องย่อกันก่อนดีกว่าว่าเนื้อเรื่องเกี่ยวกับอะไร มีตัวละครหลักเป็นใครกันบ้าง ถ้าพร้อมแล้วตามมาเลย
เมื่อสี่ปีก่อน มิคุโมะ โอซามุ ได้รับความช่วยเหลือจากคนในองค์กรบอร์เดอร์ชื่อ ชิน ยูอิจิ จนรอดพ้นจากสิ่งมีชีวิตต่างโลกที่ถูกเรียกว่า “เนเบอร์” ทำให้เขาตัดสินใจสมัครเข้าเป็นสมาชิกของบอร์เดอร์เพื่อปกป้องผู้คนในเมืองมิคาโดะ วันหนึ่งโอซามุได้พบกับ คูงะ ยูมะ เด็กหนุ่มปริศนาที่บอกว่าตัวเองเป็นเนเบอร์ แต่กลับจัดการเนเบอร์ซะเรียบเลย แถมยังบอกว่าตัวเองมายังโลกมนุษย์เพราะมีจุดประสงค์บางอย่างเกี่ยวกับพ่อที่เคยทำงานในองค์กรบอร์เดอร์ด้วย
นอกจากโอซามุแล้วทางองค์กรก็รู้ว่า ยูมะเป็นเนเบอร์ที่มีอาวุธทรงพลังติดตัวมาด้วยซึ่งถูกเรียกว่า “แบล็คทริกเกอร์” ผบ. คิโดะจากบอร์เดอร์จึงคิดจะกำจัดยูมะทิ้งแล้วชิงเอาอาวุธมาเป็นของตัวเอง แล้วอย่างนี้โอซามุกับยูมะคุงจะทำอย่างไรดี ตามไปเอาใจช่วยพวกเขาได้ใน World Trigger ตอนนี้วางจำหน่ายถึงเล่ม 11 แล้วทั้งแบบเล่มและ e-Book
5 ข้อที่ไม่อยากให้ทุกคนพลาดการ์ตูนเรื่องนี้กัน
- เพราะไม่เก่ง จึงต้องฝึกฝนตัวเอง
การ์ตูนหลายเรื่องอาจมีพระเอกเก่งขั้นเทพซะจนน่าเบื่อ แต่ “มิคุโมะ โอซามุ” ต่างจากพระเอกพวกนั้นไปไกลเลย ด้วยความเป็นคนรักสงบ ทำให้โอซามุต่อสู้กับเนเบอร์เฉพาะตอนที่ช่วยเหลือคนในเมืองมิคาโดะเท่านั้น ทำให้เขาไม่ค่อยมีทักษะการต่อสู้เหมือนคนอื่นๆ กลายเป็นว่าจะไปช่วยเขา แต่กลับให้เขาช่วยแทน น่าสงสารจริงจริ้งเจ้าโอซามุคุง
แม้ช่วงแรกดูเหมือนจะต้องพึ่งพาคนอื่นตลอด แต่โอซามุก็พยายามเรียนรู้ทักษะการต่อสู้จากคนเก่งๆ และนำมาปรับใช้อยู่เสมอ ทำให้โอซามุสามารถช่วยเหลือคนในเมืองให้ปลอดภัย รวมทั้งช่วยเพื่อนๆ ในทีมเพื่อให้ทำภารกิจสำเร็จด้วย เรียกได้ว่าเป็นพระเอกที่มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ทำเราลุ้นตามด้วยว่าเจ้าโอซามุจะเก่งขึ้นได้อีกแค่ไหน
- ต่อให้เทพแค่ไหน ยังไงก็ต้องทำงานกันเป็นทีม
โดยทั่วไปแล้วสมาชิกในองค์กรบอร์เดอร์มีทั้งหมด 4 ระดับได้แก่ ระดับ C เป็นนักเรียนฝึกหัด ระดับ B เป็นกำลังรบหลัก ระดับ A เป็นกำลังรบระดับหัวกะทิ ส่วนระดับ S เป็นผู้ถือครองแบล็คทริกเกอร์ โดยกำลังรบระดับ A และ B จะแบ่งย่อยเป็นหน่วยต่างๆ ซึ่งจะมีสมาชิกในแต่ละหน่วยทั้งหมด 3 คน ได้แก่ แอ็ทแท็คเกอร์ (มือโจมตี), กันเนอร์ (มือปืน) และ สไนเปอร์ (มือซุ่มยิง) ดังนั้นเพื่อนๆ จะได้เห็นสมาชิกในหน่วยต่างๆ ร่วมมือกันวางกลยุทธ์รับมือกับเนเบอร์ รวมถึงชิงไหวชิงพริบจัดการหน่วยอื่นในศึกชิงแรงค์อีกด้วย
นอกจากนี้บางคนยังมีความสามารถพิเศษติดตัว ที่เรียกว่า “ไซด์เอ็ฟเฟ็กต์” ซึ่งนำมาปรับใช้ในการต่อสู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างเช่น ไซด์เอ็ฟเฟ็กต์ของ จิน ยูอิจิ สามารถมองเห็นอนาคตได้ เมื่อนำมาประยุกต์ใช้กับแบล็คทริกเกอร์ “ฟูจิน” ที่ฟันศัตรูได้ในระยะไกล ทำให้สามารถจัดการศัตรูในที่แคบได้ถึง 2 คน ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว ซึ่งการทำงานกันเป็นทีม บวกกับความสามารถพิเศษนี้เองที่ทำให้คนอ่านอย่างเราลุ้นไปด้วยว่าแต่ละทีมจะมีลูกไม้เด็ดเฉือดเฉือนกันอย่างไรบ้าง
- ตัวละครมีเป้าหมายชวนให้ติดตาม
ช่วงแรกของเรื่องเพื่อนๆ อาจต้องใช้เวลาทำความรู้จักกับโลกมนุษย์และโลกเนเบอร์ รวมทั้งวิทยาการขององค์กรบอร์เดอร์กันสักนิดนึง แต่หลังจากนั้นเพื่อนๆ จะได้ทำความรู้จักกับเหล่าตัวเอกมากขึ้น ทั้งมิคุโมะ โอซามุ, คูงะ ยูมะ, อามะโทริ จิกะ และ จิน ยูอิจิ ซึ่งส่งผลให้เราอินกับเป้าหมายของพวกเขามากขึ้น โดยเป้าหมายของเหล่าตัวเอกคือการได้ช่วยผู้คนที่ถูกเนเบอร์จับไปที่นอกโลก ทั้งสามคนจึงต้องฝึกฝนและลงแรงค์ไต่ระดับไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ไปโลกของเนเบอร์ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ระหว่างทางก็มีอุปสรรคโผล่มาเรื่อยๆ แล้วอย่างนี้โอซามุ, ยูมะ และจิกะ จะไปถึงเป้าหมายได้หรือไม่น้า ต้องติดตามกันให้ได้นะเพื่อนๆ
- การกระจายบทดี จนไม่อาจลืมตัวละครไปได้สักตัว
หากเพื่อนๆ กลัวว่าตัวละครที่ตัวเองชอบในเรื่องนี้จะโดนตัดทิ้งอย่างไม่ไยดี ไม่ต้องห่วง!! เพราะอาจารย์ไดสุเกะแกหยิบตัวละครตัวอื่นนอกจากตัวเอกมาใช้งานตลอด ไม่ว่าจะเป็นตัวละครระดับลูกกะจ๊อกไปจนถึงระดับบอสโหดๆ ก็มีให้เห็นเรื่อยๆ แถมตัวละครแต่ละตัวก็มีความสามารถหรือจุดเด่นที่โดดเด่นในแบบของตัวเอง รับรองว่าจำได้หมดทุกคนแน่นอน ขนาดตัวละครที่ชื่นชอบมากที่สุดอย่างคุณคิโทระ ไอ ก็โผล่มาให้หายคิดถึงได้เรื่อยๆ แถมมาแต่ละทีก็เท่ซะไม่มีล่ะ งื้ออออ น้องคิโทระจ๋า
- ตัวร้ายเก่งไม่แพ้ตัวเอก
แม้ตอนนี้จะมีตัวร้ายจากอาณาจักรอาฟโตเครเตอร์โผล่มาแค่กองทัพเดียวก็ตาม แต่เป็นกองทัพที่มากด้วยฝีมือและมีผู้ใช้แบล็คทริกเกอร์สุดแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นไฮเรน, มิร่า, ผู้เฒ่าวีซ่า, ฮิวส์ และเอเนดรา แต่ละคนเก่งมาก ขนาดหลายหน่วยรุมกันตีคนเดียวยังเอาชนะยากเลย ส่วนฝั่งบอร์เดอร์เองก็วางกลยุทธ์และตัดสินใจได้เฉียบคมไม่แพ้กัน คนอ่านอย่างเราก็เดาไม่ออกเลยว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะกันแน่ และนอกจากอาฟโตเครเตอร์แล้ว ในอนาคตอาจมีเนเบอร์ที่เก่งขึ้นมารุกรานโลกอีกก็ได้นะ เพราะยังมีโลกของเนเบอร์แห่งอื่นที่ยังไม่ถูกสำรวจอีก แค่นึกก็ตื่นเต้นแล้วล่ะ
สรุป
โดยรวมเซฟลิสเก็บเป็นอนิเมะโปรดในใจเรียบร้อยแล้ว สนุกมาก ๆ และมีเนื้อหาที่กินใจมาก ชอบมาก ๆ ตอนดูครั้งแรกตั้งใจจะดูทีเดียวจนจบแต่มันมีถึง 73 EP ใช้เวลาดูเป็นอาทิตย์เลยจ้า ใครที่ยังไม่ได้ดูแนะนำให้ดูเลยจ้า