รีวิว 7Seeds Ss1-2 Netflix
7Seeds ss1-2 รีวิว สปอย อนิเมะ ซีรีส์แนว Survival เอาชีวิตรอดใน Netflix ดัดแปลงจากโชวโจวมังงะชื่อดัง มีเนื้อเรื่องและบทที่ดีกว่าเรื่องแนวนี้หลายเรื่องอย่างคาดไม่ถึง
ที่จริงแล้วการแบ่งเนื้อหาของ 7Seeds ไม่น่าจะเรียกว่าเป็น 2 ซีซัน แต่น่าจะเรียกว่ามีการแบ่งพาร์ทของเนื้อหาออกเป็น 2 พาร์ทมากกว่า คือในช่วง 12 ตอนแรก ที่ออกฉายไปเมื่อปี 2019 และอีก 12 ตอนหลัง ที่เพิ่งอัพเดทใน Netflix เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2020 ที่ผ่านมา เพราะเนื้อหาเป็นการต่อเนื่องกันกันทันที เพียงแต่การแบ่งเป็น 2 พาร์ทใหญ่ถือว่าเป็นเรื่องปกติของอนิเมะญี่ปุ่นในยุคหลัง แทนที่จะฉายรวดเดียวยาวจบ
ซึ่งการแบ่งพาร์ทแบบนี้ ที่จริงแล้วมันก็กลายเป็นข้อดีครับ เพราะน่าจะมีส่วนทำให้โปรดักชั่นและงานภาพในพาร์ทหรือ 7Seeds ss2 ตามการแบ่งของ Netflix ทำออกมาได้ดีกว่าซีซันแรกมาก
ถือว่าเป็นการกลับมาของอดีตยักษ์ใหญ่อย่าง สตูดิโอ Gonzo ที่ทำได้ดีไม่น้อย
รีวิว 7Seeds Ss1-2 Netflix เรื่องย่อ
นัตสึ สาวน้อยธรรมดาผู้อ่อนต่อโลกและไม่กล้าสู้คนได้ลืมตาตื่นขึ้นมา แล้วพบว่าตัวเองกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเอาชีวิตรอดจากเรือที่กำลังจมทะเล ทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอเพิ่งนอนหลับบนเตียงที่บ้าน จากนั้นเธอก็พบกับชายหนุ่มอีกสองคนและหญิงสาวอีกหนึ่งคน ที่ต้องช่วยกันเอาชีวิตให้รอดจากสถานการณ์ที่ไม่สามารถหาคำอธิบายได้ ท่ามกลางคลื่นทะเลรุนแรง เกาะที่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน ไปจนถึงการโจมตีของสัตว์ร้าย ในโลกที่เหมือนกับว่าทุกอย่างล่มสลายไปแล้ว
ขณะเดียวกัน ฮานะ สาวสวยใจแกร่ง ก็ได้ตื่นขึ้นมาอยู่ร่วมกับคนกลุ่มหนึ่งแล้วต้องหาทางเอาชีวิตรอด คู่ขนานไปกับเรื่องราวของฝั่งนัตสึอีกทางด้วย
ตัวละครหลัก
อิวาชิมิตสึ นัตสึ
เด็กสาวมัธยมปลาย อายุ 16 ปี เป็นสาวน้อยผู้เคยถูกกลั่นแกล้งจนเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ถูกเลือกเข้าทีมฤดูร้อน B ซึ่งในช่วงแรกเธอมีปัญหามากในการปรับตัวให้เข้ากับโลกใหม่ แต่เธอก็พยายามปรับตัว แล้วในบางครั้งความเป็นคนเก็บตัวและสังเกตสิ่งรอบตัวของเธอก็กลายเป็นประโยชน์กับสมาชิกคนอื่นอย่างคาดไม่ถึงเหมือนกัน
นัตสึแอบปลื้มอาราชิตั้งแต่ช่วงแรกที่มาถึงโลกใหม่ แต่เธอก็รู้ว่าอีกฝ่ายมีคนรักอยู่แล้ว ในขณะที่เซมิมารุก็แอบหลงรักเธอเช่นกัน ภายหลังยังมีอังโงะอีกคน
นัตสึเป็นตัวละครเอกของเรื่องที่เป็นเสมือนตัวแทนคนอ่านและคนดู ที่ต้องให้ช่วยลุ้นว่าจะเอาตัวรอดและปรับตัวกับโลกใหม่ที่โหดร้าย รวมถึงค้นหาปริศนาในเรื่องได้หรือไม่
สุงุโระโนะ ฮานะ
เด็กสาวมัธยมปลายอายุ 17 ปี คนรักของอาราชิ สาวสวยสุดแกร่ง สู้ชีวิต อึด ถึก ทน ถือว่าเป็นนิยามของฮานะที่ดีที่สุด เธอถูกคัดเลือกให้เข้าสู่ทีมฤดูใบไม้ผลิ
ในภาพรวม ฮานะเป็นหญิงสาวที่มีลักษณะดึงดูดคนอื่นให้เข้าหา จึงมีหลายตัวละครในเรื่องที่ชื่นชอบเธอไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็น ทามากิ และ ฮารุ ตัวเธอเองยังมีความสามารถปรับเปลี่ยนตัวเองได้เร็วในโลกใหม่ที่โหดร้ายได้ ปกติแล้วมีงานอดิเรกในสมัยเรียนคือการปีนเขาและว่ายน้ำ แล้วยังมีสโลแกนประจำใจคือ จะไม่มีวันยอมแพ้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งในโลกใหม่เธอก็มีความหวังว่าจะได้พบกับอาราชิอีกครั้ง
อันที่จริงแล้ว ตัวของฮานะเคยได้รับการฝึกฝนทักษะด้านการเอาชีวิตรอดมาจากพ่อตั้งแต่เด็กโดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ตัว เนื่องจากความจริแล้วพ่อของเธอมีความเกี่ยวข้องกับโครงการนี้อย่างลึกซึ้งมาก
ในส่วนของการเดินเรื่อง นอกเหนือจากนัตสึที่เป็นตัวละครเปิดเรื่องแล้ว ฮานะยังถือว่าเป็นตัวละครเอกอีกคนในการเดินเรื่องหลัก ซึ่งการเล่าเรื่องราวในมุมของฮานะจะเน้นไปที่การเชื่อมโยงกับตัวละครในกลุ่มอื่นๆที่มีความหลากหลาย รวมถึงมีส่วนช่วยการไขปริศนาต่างๆในเรื่องให้คนที่ดูอนิเมะได้รับรู้ไปด้วย
อาราชิ
แฟนหนุ่มของฮานะ สมาชิกของทีมฤดูร้อน B เป็นเด็กหนุ่มใจดี อ่อนโยน เป็นคนที่นัตสึแอบชอบ แล้วยังเป็นที่พึ่งให้กับนัตสึในช่วงแรกที่ยังสับสนกับสภาพของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป เขายังคงมีความหวังว่า ฮานะ แฟนสาวของเขายังมีชีวิตอยู่ จึงหาทางออกตามเธอให้พบ
อาราชิตัดสินใจออกเดินทางไปตามหาฮานุที่เขาคาดหวังว่ายังมีชีวิตอยู่ โดยมีนัตสึและเซมิมารุเดินทางไปด้วยกัน ซึ่งระหว่างการเดินทางพวกเขาพบเบาะแสหลายอย่าง และได้พบกับสมาชิกกลุ่มอื่น เช่น อารามากิที่อยู่ลำพังคนเดียว และยังพบกับสมาชิกทีมฤดูใบไม้ร่วงด้วย ภายหลังจึงได้กลับมารวมตัวกับทีมฤดูร้อน B เพื่อหาทางเอาตัวรอดอีกครั้ง
เซมิมารุ
เด็กหนุ่มที่เป็นสมาชิกของทีมฤดูร้อน B เป็นคนมีนิสัยขี้แกล้ง ท่าทางเป็นนักเลงและดูไม่น่าไว้ใจนักในช่วงแรก แต่ที่จริงแล้วเป็นคนที่พึ่งพาได้มากคนหนึ่ง ในช่วงแรกเขาชอบกลั่นแกล้งนัตสึ แต่ภายหลังก็มีใจให้แล้วยังคอยช่วยเหลือเธออยู่ตลอด อาราชิเองก็มองออกจึงมักแซวอีกฝ่ายอยู่เสมอ
เซมิมารุได้ออกเดินทางไปพร้อมกับนัตสึและอาราชิ ทำให้ทั้งสามคนมีความสนิทสนมและมีความสัมพันธ์เป็นพิเศษเพิ่มขึ้น เมื่อมีพวกของอังโงะและเรียวมาร่วมกลุ่ม เขากลับไม่ค่อยชอบใจนักที่เห็นอังโงะทำตัวเป็นห่วงและมายุ่งกับนัตสึมากเกินไป
อารามากิ
ชายหนุ่มที่มีจิตใจอ่อนโยน เป็นสมาชิกของทีมฤดูหนาวคนสุดท้ายที่เหลือรอดชีวิตอยู่ เดิมเขาเป็นอดีตนักเบสบอลระดับมัธยมปลายชื่อดัง เขาและเพื่อนในกลุ่มตื่นขึ้นมาก่อนกลุ่มอื่นๆ และได้ฝ่าฟันความยากลำบากจนเอาชีวิตรอดอยู่นานถึง 15 ปีโดยมีพวกสุนัขเป็นเพื่อนคู่หู จนกระทั่งเขาได้พบกับกลุ่มของนัตสึ และต่อมาจึงได้พบกับฮานะ เป็นคนที่พึ่งพาและไว้ใจได้มากคนหนึ่ง มีความรู้สึกดีๆให้กับฮานะมาก
ที่จริงแล้วอารามากิมีความสามารถสูงทั้งด้านร่างกายและจิตใจมากกว่าที่เห็นภายนอก แต่ด้วยความที่เขาเป็นคนใจดีและอ่อนโยน จึงทำให้คนที่ไม่รู้เกิดความประสาท เช่นพวกของอังโงะและเรียว เมื่อฮานะตกน้ำหายไป อารามากิจึงมาเอาเรื่องกับอังโงะและเรียว เขายังสามารถเล่นงานอังโงะที่มีทั้งปืนและมีดจนทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บได้ แล้วก็ทำให้ทั้งสองถูกเนรเทศออกจากกลุ่ม
อารามากิตัดสินใจออกเดินทางเพื่อตามหาฮานะด้วยความหวังว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งก็มีอายุจากทีมฤดูร้อน A ขอร่วมทางไปด้วยกัน
โบตั๋น
ที่ปรึกษาของทีมฤดูร้อน B เป็นหญิงสาวปริศนาที่รู้ความลับและสถานการณ์ของโลก เป็นเสมือนคนนำทางให้กลุ่มของนัตสึในช่วงแรก
ภายหลังเมื่อพวกของอังโงะและเรียวเดินทางมาเจอทีมฤดูร้อน B เธอก็รู้สึกสงสัยในพฤติกรรมของพวกเขา และยังพบว่าทั้งสองเก็บปืนเป็นอาวุธไว้ด้วย
ฮารุ
เด็กหนุ่มผู้เงียบขรึม สมาชิกของทีมฤดูใบไม้ผลิ สนิทสนมกับฮานะ และคอยช่วยเหลือฮานะแก้ไขปัญหาหลายครั้ง ต่อมาได้พบกับโคคุริ แล้วก็มีใจให้กัน มีความสามารถในการเล่นดนตรีเป็นพิเศษ
โคคุริ
เด็กสาวตัวเล็ก สมาชิกของทีมฤดูร้อน A ภายนอกดูเป็นเด็กหญิงรูปร่างเล็ก แต่ที่จริงแล้วผ่านการฝึกฝนเพื่อจะเอาชีวิตรอดมาอย่างหนัก มักได้รับการปกป้องจากอังโงะ ต่อมาเธอได้พบและมีใจให้กับฮารุ
ภายหลังเมื่อเธอรู้พฤติกรรมของอังโงะ ก็รู้สึกรับไม่ได้ แล้วตัดสินใจอยู่ร่วมกับฝ่ายฮารุ
อังโงะ
เด็กหนุ่มที่เป็นสมาชิกสำคัญของทีมฤดูร้อน A เนื่องจากการฝึกฝนอย่างหนักหน่วง และเรื่องราวบางอย่างในอดีตทำให้เขามีความแค้นกับเหล่าครูฝึกในโครงการ โดยเฉพาะพ่อของฮานะ โดยปกติอังโงะจะวางตัวเป็นเสมือนหัวหน้าทีม และมักตัดสินใจต่างๆด้วยความเด็ดขาด แต่ก็มีหลายครั้งที่เขาใช้อารมณ์แค้นเป็นตัวนำในการตัดสินใจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปมาก
อังโงะมีความแค้นต่อพ่อของฮานะมาก แล้วก็เอาความแค้นนั้นไปลงกับฮานะ ถึงขั้นคิดจะข่มขืนเธอ หลังจากฮานะตกน้ำหายตัวไปแล้ว อายุซึ่งเห็นเหตุการณ์จึงเปิดเผยให้ทุกคนได้รู้ อารามากิจึงเล่นงานอังโงะจนบาดเจ็บ แล้วอังโงะก็ถูกโหวตเนรเทศออกไป จากนั้นอังโงะและเรียวที่ถูกทุกคนหันหลังก็ออกเดินทางจนไปพบกับสมาชิกทีมฤดูร้อน B โดยบังเอิญ แล้วหลังจากนั้นอังโงะก็เริ่มมีความรู้สึกพิเศษให้กับนัตสึ
เรียว
เพื่อนสนิทของอังโงะในทีมฤดูร้อน A เป็นคนเยือกเย็นและเย็นชาที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อกลุ่มของตน เขารู้ความเจ็บปวดของอังโงะว่าสาเหตุมาจากอะไร และพร้อมจะทำลายชีวิตคนอื่น ถ้าจะทำให้สถานการณ์ของกลุ่มดีขึ้น
เรียวมีส่วนทำให้ฮานุตกน้ำหายไป จึงโดนอารามากิเล่นงาน หลังจากเรียวและอังโงะถูกเนรเทศออกจากกลุ่ม พวกเขาก็เดินทางมาเจอกับทีมฤดูร้อน B ซึ่งเรียวรู้สึกว่าคนเหล่านี้ไม่มีความพร้อมในการเอาชีวิตรอด จึงหาทางวางแผนทดสอบด้วยวิธีการรุนแรง แต่เขาก็ไม่ได้รู้ตัวเลยว่า คานาเมะที่ซุ่มดูเหตุการณ์กลับมองว่าพวกเขาทั้งอังโงะและเรียวต่างหากคืออุปสรรคของโปรเจคนี้ที่ควรจะต้องถูกกำจัด
คานาเมะ
ที่ปรึกษาของโปรเจค 7Seeds มีหน้าที่และภารกิจลับอีกอย่างคือ ควบคุมดูแลสมาชิกของแต่ละทีม โดยเฉพาะการจับตาดูความก้าวหน้าและพัฒนาการของทีมฤดูร้อน A ซึ่งถูกฝึกฝนอย่างหนักเป็นพิเศษ แล้วหากว่าใครมีพฤติกรรมที่อาจเป็นปัญหา เขาก็พร้อมจะลงมือสังหารเช่นกัน ภายหลังเขาตามสะกดรอยแล้วเห็นพฤติกรรมของอังโงะและเรียว จึงเริ่มคิดว่าควรกำจัดสองคนนี้ทิ้ง
ในภาพรวมของอนิเมะ มีความพยายามที่จะไปให้ไกลกว่าแค่การเป็นอนิเมะที่ดัดแปลงจากโชโจวมังงะทั่วไป แต่อันที่จริงโดยเนื้อเรื่องในมังงะต้นฉบับก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างดิบและโหดระดับ 18+ มากอยู่แล้ว ซึ่งในเรื่องเราจะพบว่ามีฉากการใช้รุนแรงแอบแฝงไว้ ทั้งการทำร้ายร่างกาย ทารุณกรรม พยายามฆ่า ไปจนถึงการใช้ความรุนแรงต่อเพศตรงข้ามให้ได้เห็นกันตลอดเรื่อง แล้วยังรวมจนถึงการทรยศหักหลัง การวางแผนช่วงชิง การเล่นกับปมจิตใจมนุษย์ในสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย ซึ่งทุกคนต้องทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอดของตนเองและพวกพ้องที่ตนรัก
อีกจุดหนึ่งที่อนิเมะดัดแปลงโชโจวมังงะจากปลายยุค 90 เรื่องนี้ออกมาได้ดีก็คือ การพยายามรักษาลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ของเรื่อง กับการเดินเรื่องที่ค่อนข้างกระชับ และพร้อมนำเสนอภาพความโหดร้ายของตัวละครวัยรุ่นในเรื่องเมื่อต้องอยู่ในโลกที่ล่มสลายแบบดิสโทเปียกันอย่างเต็มที่
ด้านจุดเด่นของอนิเมะเรื่องนี้ ที่ถือว่าเป็นจุดแข็งที่สุดก็คือ พัฒนาการตัวละคร และการกระจายบทซึ่งทำได้ดีมากอย่างไม่น่าเชื่อ แม้ว่าเรื่องนี้จะเปิดตัว นัตสึ แต่เธอก็ไม่ได้เป็นตัวเอกที่ผูกขาดการเล่าเรื่องราวไว้ เพราะเพียงแค่ไม่กี่ตอนต่อหลังจากเริ่มเรื่อง การเล่าเรื่องก็กระจายไปยังตัวละครในกลุ่มอื่นๆ โดยเฉพาะ ฮานะ ซึ่งถือว่าเป็นนางเอกหลักอีกคนของเรื่อง โดยในซีซันแรกจะเล่าสลับไปมาผ่านมุมมองของ นัตสึและฮานะ ซึ่งทั้งสองเป็นนางเอกสไตล์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ก็ทำได้สนุกและน่าลุ้นเอาใจช่วยทั้งสองฝั่ง
สำหรับในซีซัน 2 การเล่าเรื่องราวจะเริ่มกระจายออกจากสองนางเอก เริ่มขยับไปที่มุมของตัวละครหลักและตัวละครรองคนอื่นๆไม่ว่าจะเป็น อาราชิ เซมิมารุ อารามากิ ไปจนถึงตัวละครที่มีบทเป็นตัวร้ายอย่างอังโงะและเรียว ทุกตัวจะมีมีมุมมองและจุดยืนต่อเรื่องราวที่แตกต่างกันไป ซึ่งคนดูจะได้เห็นมุมมองเหล่านั้นของตัวละครมากขึ้น แม้แต่ตัวละครที่น่าจะโดนเกลียดที่สุดในเรื่องอย่างอังโงะและเรียว คนดูก็จะได้เห็นมุมมองของพวกเขาด้วย ซึ่งการเล่าเรื่องแบบนี้ยังทำให้แทบทุกตัวละครในเรื่องเป็นตัวเอก น่าเอาใจช่วย อยู่ที่ว่ามากน้อยแค่ไหน
อีกทั้งการโยงความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครต่างๆที่ดูแล้วไม่น่าโคจรมาเป็นคู่รักกันได้ในช่วงแรก ยังเป็นเสน่ห์ของเรื่องนี้ คือเราจะเห็นว่าหลายคู่รักในเรื่องหรือคู่ที่ทำท่าว่าจะมาหลงรักกันนั้น คนดูแทบจะเดาไม่ออกเกือบทุกคู่แน่นอน แถมความสัมพันธ์ตัวละครก็พร้อมจะเปลี่ยนแปลงหรือขยับเดินหน้าได้ด้วย ทำให้การโยงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนในเรื่องเป็นจุดขายที่น่าติดตามมาก
สรุป
อนิเมะซีรีส์แนว Survival ใน Netflix ดัดแปลงจากโชวโจวมังงะชื่อดัง มีเนื้อเรื่องและบทดีเกินคาดมาก เด่นเรื่องพัฒนาการตัวละครและกระจายบท ด้านงานโปรดักชั่นและงานภาพในซีซัน 2 ดีขึ้นเรื่อยๆ เนื้อหาสนุก ดูเพลิน ลุ้นไปกับทุกตัวละครซึ่งแต่ละคนมีมิติสูงมาก ถือว่าเป็น Original Anime ของ Netflix ที่ควรค่าแก่การรับชม
จุดเด่น
เป็นอนิเมะที่ดัดแปลงจากโชวโจวมังงะต้นฉบับที่มีเนื้อหาดีมาก ไม่ซำ้ซาก น่าสนใจ
ตัวละครเยอะมาก แต่ทุกตัวมีมิติ มีบทของตัวเอง พัฒนาการตัวละครมีความโดดเด่น
งานภาพและลายเส้นเป็นเอกลักษณ์มาก
แทรกความรู้ในการเอาชีวิตรอดและวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานที่ใช้งานจริงได้ไว้ไม่น้อย
โปรดักชั่นในซีซัน 2 ดีขึ้นกว่าซีซัน 1
การเล่าเรื่องผ่านมุมมองตัวละครสลับไปมาทำได้ดี เพราะทำให้คนดูได้เห็นมุมมองเรื่องที่แตกต่างกันตามสายตาตัวละครแต่ละคน
จุดด้อย
งานโมชั่นและโปรดักชั่นในซีซัน 1 ยังดูไม่ดีนัก ภาพมีงานเผามาก แต่จะดีขึ้นเรื่อยๆในซีซัน 2
ในเนื้อเรื่องด้านดิสโทเปียของโลกที่ล่มสลายและทางแก้ไขปัญหา มีความไม่สมเหตุผลอยู่พอสมควร
จังหวะตัดต่อเรื่องบางจุดยังไม่สมูทเท่าที่ควร แต่ในซีซัน 2 จะทำตรงนี้ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
มีพล็อตโฮลให้เห็นเป็นระยะ บทตัวละครจะเจอกันก็เจอกันง่ายมาก