รีวิว Green Snake
รีวิว Green Snake Netflix นางพญางูเขียว ภาคต่อของนางพญางูขาว หลุดไปต่างโลก ตีความใหม่ได้สนุก
Green Snake Netflix รีวิว นาคามรกต อนิเมชั่นเล่าเรื่องของ เสี่ยวชิง นางพญางูเขียว ด้วยพลอตเรื่องที่เสมือนหลุดไปต่างโลก ซึ่งเป็นภาคต่อของตำนาน นางพญางูขาว White Snake ฉบับอนิเมชั่นปี 2019 นี่จึงเป็น White Snake 2 และเป็นบทสรุปของเรื่องราวความรักของสองนางพญาคือนางพญางูขาวและนางพญางูเขียวไปในตัวด้วย
ที่สำคัญคือเรื่องนี้ยังมีการเชื่อมโยงกับอนิเมชั่นจักรวาลเทพเซียนของจีนที่กำลังทยอยสร้างเรื่อยๆอย่างเป็นทางการแล้ว โดยเรื่องที่ฉายไปแล้วคือ Nezha Reborn ปี 2020
ภาพรวมแล้วเป็นการเอาเรื่องราวของตัวละคร ปีศาจงูเขียว ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในตัวละครหลักของตำนานนางพญางูขาว โดยเอามาเล่าและตีความใหม่ในแบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน
Green Snake เรื่องย่อ รีวิว Green Snake
เรื่องราวในอนิเมชั่น จะเป็นภาคต่อจาก อนิเมชั่น ตำนานนางพญางูขาว White Snake ที่ฉายในปี 2019 ซึ่งจะได้มีการนำไปเชื่อมโยงกับ “จักรวาลเทพเซียนจีน” ฉบับอนิเมชั่น เช่นเดียวกับเรื่องนาจาฉบับอนิเมชั่นตัวล่าสุดคือ Nezha Reborn ที่ก่อนหน้านี้เข้าฉายทาง Netflix มาแล้วเมื่อปี 2020
และกำลังจะมีอนิเมชั่นเทพจีนเรื่องถัดไปที่จะเข้าในปี 2022 คือ เทพสงครามหยางเจี้ยน หรือ เทพเอ้อหลาง จากตำนานห้องสิน
สำหรับตำนาน นางพญางูขาว เป็นหนึ่งในตำนานรักแฟนตาซีของจีนที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก เรื่องราวเกี่ยวกับความรักระหว่าง งูขาว “ไป๋ซู่เจิน” หรือ “เสี่ยวไป๋” ที่บำเพ็ญเพียรเป็นเวลานับพันปีจนสามารถได้ร่างมนุษย์ผู้หญิง แล้วได้พบรักกับหมอหนุ่มคือ สวีเซี่ยน
แต่ความรักของพวกเขาเป็นความรักต้องห้ามระหว่างมนุศย์และปีศาจ ในขณะที่หลวงจีนฟาไห่ ผู้มีวิชาแก่กล้า ก็ต้องการปราบนางพญางูขาวออกไป
สำหรับเรื่องราวในตำนานนี้เป็นแม่พิมพ์ไม้ที่ถูกสลักไว้ที่เจดีย์เหลยเฟิง แต่งโดย เฝิงเมิ่งหลง ในสมัยราชวงศ์หมิงอนิเมะออนไลน
แต่นอกจากนางพญางูขาวแล้ว ยังมี นางพญางูเขียว เสี่ยวชิง ศิษย์ผู้น้องคนสนิทของไป๋ซู่เจินที่ถูกแต่งเติมเข้ามาในภายหลัง และก็เป็นตัวละครที่ผู้คนจดจำได้ไม่น้อย ซึ่งในเรื่องนี้ก็เป็นครั้งแรกที่เสี่ยวชิงถูกดันขึ้นมาเป็นตัวเอกหลักของเรื่อง ซึ่งก็ถือว่าน่าสนใจ
เพราะบุคลิกของเสี่ยวชิงจะแตกต่างจากไป๋ซู่เจินผู้มีความงดงามและจิตใจเมตตาอ่อนโยน แต่เสี่ยวชิงจะมีความห้าว ความแก่น แล้วเธอยังรักในตัวไป๋ซู่เจินอย่างมาก
ซึ่งจากในฉบับซีรีส์ของนางพญางูขาวและจากในอนิเมชั่นที่ถูกนำมาสร้างใหม่ที่ผ่านมา เธอไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่ไป๋ซู่เจินไปรักใคร่กับสวี่เซียนซึ่งเป็นมนุษย์ แล้วยังไม่สามารถปกป้องพี่ที่รักของเธอได้ อีกทั้งเธอยังมีความโกรธแค้นต่อหลวงจีนฟาไห่ที่พยายามจัดการพวกเธอสองพี่น้องทั้งที่พวกเธอไม่ได้ระรานมนุษย์อีกด้วย
โดยในการต่อสู้ครั้งล่าสุดกับหลวงจีนฟาไห่ ผลลัพธ์คือไป๋ซู่เจินถูกผนึกไว้ในเจดีย์เหลยเฟิง ส่วนเสี่ยวชิงพยายามที่จะเล่นงานฟาไห่ แต่กลับพลาดท่าถูกเล่นงานจนเข้าไปอยู่ในมิตินครอสูร ซึ่งเธอก็ได้พบว่าที่ดินแดนแห่งนี้เต็มไปด้วยวิญญาณของเหล่ามนุษย์ ปีศาจ
และสิ่งมีชีวิตอื่นๆที่หลงเข้ามาอยู่และหาทางออกไปไม่ได้ เธอจึงต้องหาทางที่จะกลับสู่โลกมนุษย์แล้วจัดการหลวงจีนฟาไห่เพื่อปลดปล่อยไป๋ซู่เจินออกมาจากเจดีย์ แต่เธอก็พบว่าทุกอย่างมันไม่ได้ง่ายดายแบบนั้น แล้วเธอยังต้องเผชิญหน้ากับสิ่งต่างๆในนครอสูรที่เกี่ยวข้องกับปมในใจของเธอด้วย
Green Snake รีวิวดูอนิเมะ
ถ้าเป็นคนที่ชอบดูซีรีส์จีนแนวโรมานซ์แฟนตาซี ตำนานนางพญางูขาวจัดว่าเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเยี่ยมที่คนชอบแนวนี้ควรต้องดูสักครั้ง โดยฉบับล่าสุดที่นำมาสร้างแล้วก็ทำได้ดีมากด้วยคือเวอร์ชั่นปี 2019 ที่ได้ จวีจิ้งอี มารับบทไป๋ซู่เจิน ซึ่งต้องยอมรับว่าบทนี้ถือว่าเป็นบทสำคัญเอามากๆ
ในวงการซีรีส์และภาพยนตร์แนวโรมานซ์แฟนตาซีของจีน เพราะดาราเบอร์ต้นๆของฮ่องกง ไต้หวัน และจีนแผ่นดินใหญ่ ต่างเคยรับบทนี้กันมาแล้วทั้งนั้น แล้วก็โด่งดังกันทุกคน ไม่ว่าจะเป็น หลินชิงเสีย เจ้าย่าจือ ฟานเหวินฟาง หลิวเทา หลิวซือซือ หยางจื่อ
อีกด้านหนึ่ง เมื่อบทนางพญางูขาวได้ดาราหญิงระดับแม่เหล็กมารับบทนำ ไม่ก็เป็นบทที่ช่วยผลักดันความโด่งดังให้ดาราเหล่านั้น บทบาทตัวละครที่สำคัญมากอีกตัวที่ขาดไม่ก็คือ นางพญางูเขียว เสี่ยวชิง ซึ่งเป็นตัวละครที่มาคู่กับนางพญางูขาว ไป๋ซู่เจิน อย่างแทบจะแยกจากกันไม่ได้
แต่ตามประวัติศาสตร์การสร้างเรื่องนี้ของวงการที่ผ่านมา มีการนำตัวปีศาจนางพญางูเขียวมาเป็นตัวนำเพียงครั้งเดียวเท่านั้น แถมเอามาเป็นตัวร้ายซะด้วย นั่นคือศึกพิชิตนางพญางูเขียว ปี 2009
อนิเมชั่นตัวนี้จึงเป็นครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่มีการผลักดันบทของเสี่ยวชิงขึ้นมาเป็นตัวเอกหลักของเรื่อง ซึ่งก็ถือว่าเป็นการเลือกที่ดี เพราะเมื่อต้องปรับมาทำอนิเมชั่น สิ่งที่ถูกคาดหวังตามมาย่อมเป็นบทแอ็กชั่นและฉาก CG สุดอลังการ ซึ่งเรื่องของไป๋ซู่เจินที่เป็นตำนานรักต้องห้ามและอิงอยู่กับเรื่องโศกนาฎกรรม
อาจจะทำออกมาแนวนั้นได้ยาก แต่พอเป็นเรื่องราวของ เสี่ยวชิง นางพญางูเขียว ที่ถูกเล่นงานจนต้องหลุดกระเด็นไปนครอสูร หรืออีกแง่หนึ่งคือเหมือนการหลุดไปต่างโลก ซึ่งเป็นพลอตยอดฮิตในยุคนี้ แล้วต้องหาทางกลับมาช่วยไป๋ซู่เจิน ก็เป็นเรื่องราวที่น่าติดตามและชวนให้ลุ้นมากกว่า
ในแง่ของงานนิเมชั่น ต้องยอมรับว่าในภาพรวมมีจุดที่ยังไม่เนียนตามากนัก หากเทียบกับมาตรฐานอนิเมชั่นในโลกตะวันตกหลายเรื่อง โดยเฉพาะการทำหน้าตาตัวละครที่ยังดูสีหน้าแข็งๆไปสักนิด งานเคลื่อนไหวก็ยังมีจุดที่ดูเหมือนหนังเด็กไปสักนิด แต่ด้านอื่นแล้วทำได้ดีเอามากๆ ตรงนี้อาจเพราะทีมทำอนิเมชั่นฝั่งจีนถนัดงาน CG ที่เกี่ยวกับฉากหลังมากกว่าก็เป็นได้ ซึ่งภาพรวมแล้วก็ยังถือว่าอยู่ในระดับสูงเกินคาดไม่น้อย ยิ่งในซีนหลังๆของเรื่องนับว่าทำได้ดีเอามากๆ
ด้านพลอตเรื่องถือว่าเป็นการเอาพลอตยอดนิยมในยุคสมัยนี้มาใช้แล้วก็ทำออกมาได้ดี นั่นคือพลอตหลุดไปต่างโลก ที่เรื่องนี้ราวกับต้องการยั่วล้อพลอตเรื่องแนวนี้อยู่เหมือนกัน (มีกระทั่งแอบกัดเรื่องที่รถบรรทุกชนคนแล้วกระเด็นหลุดไปต่างโลก) เรื่องนี้ก็จัดมาเต็มๆ คือลักษณะของนครอสูรในเรื่องนี้คล้ายกับโลกยุคปัจจุบันที่มีอุปกรณ์เทคโนโลยีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ไซด์ รถยนต์ ปืน แล็ปท็อป และอื่นๆ การเดินเรื่องในส่วนนี้ก็ไม่รอช้า
คือไม่ทำให้ตัวละครเสี่ยวชิงสับสนงุนงงนานเกินไป แต่เรื่องทำให้เธอได้เรียนรู้และเข้าใจเรื่องราวต่างๆในภาพรวมทันทีในเวลาไม่กี่นาที ตรงนี้เป็นข้อดีมากในช่วงแรกเพราะไม่ต้องเสียเวลาไปกับการแนะนำโลกของนครอสูรและสถานการณ์ในเรื่องนานเกินไป
งานด้านคาแรคเตอร์ดีไซน์ก็ทำออกมาได้ดีระดับหนึ่ง โดยเฉพาะตัวเสี่ยวชิงที่สร้างออกมาได้ดึงดูดสายตาคนดูมาก อาจเพราะชุดที่เน้นโชว์เรือนร่างและขับเน้นความเซ็กซี่ออกมาตลอดทั้งเรื่อง อีกทั้งตัวละครหลักในเรื่องนี้ก็ออกแบบมาได้น่าอย่างน่าสนใจ น่าเอาใจช่วย มีเสน่ห์ และไม่ได้เป็นสีขาวหรือดำจ๋า แต่มีความเป็นสีเทาสูง ไม่ว่าจะเป็นตัวนางเอกอย่างเสี่ยวชิงเอง และตัวละครชายที่ปรากฏตัวออกมาในเรื่อง แต่ตรงนี้อาจจะยกเว้นปีศาจกระทิงและกลุ่มที่มาแนวตัวร้ายเต็มที่แต่แรก
แต่ก็ยังเป็นตัวร้ายที่มีที่มาที่ไปด้วยเช่นกัน ส่วนข้อเสียด้านตัวละครก็มีอยู่บ้างตรงที่เรื่องออกแบบตัวละครบางตัวออกมาดีเกินไปหน่อย แต่ใช้ไม่คุ้มนัก แอร์ไทม์ของตัวละครหลัก 2-3 คนในเรื่องน้อยไปหน่อย คือบทจะตัดออกด้วยการฆ่าก็ทำเลย แต่ก็เป็นข้อดีในมุมหนึ่งคือบทของตัวละครเหล่านี้ไม่ยืดมากนัก
ทำให้ช่วง 40 นาทีสุดท้ายของเรื่องราวจะโฟกัสอยู่ที่สองตัวละครหลักที่เป็นหัวใจของเรื่องนี้อย่างเต็มที่ แล้วก็ส่งผลทำให้ตอนจบออกมาได้ประทับใจกว่าที่คิด
อีกจุดหนึ่งที่หนังทำได้ดีคือการใส่ประเด็น LGBT ซึ่งมีมาตั้งแต่ต้นฉบับเข้าไปในเรื่องได้อย่างแนบเนียน ไม่รู้สึกว่าดูยัดเยียด แถมยังเป็นเสมือนการตอกหน้าใส่ตำนานนางพญางูขาวเวอร์ชั่นเก่าๆที่ตัวไป๋ซู่เจินต้องประสบเคราะห์ร้ายจากการไปรักกับมนุษย์ ในขณะที่ฝั่งมนุษย์อย่างสวี่เซียนก็ไม่สามารถช่วยเหลือปกป้องเธอได้เท่าที่ควร
อีกทั้งผู้ชายในตำนานเรื่องนี้ทั้งฝั่งที่แข็งแกร่งเกินคนเหลือเกินอย่างฟาไห่ก็มีความดุดันโหดเหี้ยมแม้จะเป็นหลวงจีน ส่วนสวี่เซวียนแม้จะเป็นคนจิตใจดีแต่ก็ไร้พลัง ดังนั้นในหนังอนิเมชั่นเรื่องนี้เลยเหมือนต้องการตอกหน้าใส่ตำนานดั้งเดิมว่า “ถ้าผู้ชายมันห่วยแตกนัก งั้นผู้หญิงสองคนก็จะดูแลซึ่งกันและกันเอง”
เพราะหากย้อนไปดูนางพญางูขาวแทบทุกเวอร์ชั่น จะพบว่าตัวละครที่รักไป๋ซู่เจินมากที่สุดแบบไร้เงื่อนไขใดๆก็คือ เสี่ยวชิง นางพญางูเขียว ซึ่งเป็นนางเอกของเวอร์ชั่นนี้ เพียงแต่ตรงนี้ก็อาจจะเป็นข้อด้อยไปในตัวด้วยตรงที่หากไม่เคยดูหรือรู้เรื่องตำนานนางพญางูขาวมาก่อนสักนิด อาจจะไม่ค่อยอินและไม่ค่อยเข้าใจความสัมพันธ์อันซับซ้อนของตัวละครหลักในเรื่องที่ผูกจนกลายเป็นปมใหญ่ของเรื่องราวทั้งหมด
ภาพรวมแล้วจัดว่าเป็นอนิมชั่นสัญชาติจีนที่สร้างออกมาได้ดี และเป็นหนึ่งในภาคต่อของตำนานนางพญางูขาวที่ดัดแปลงและตีความใหม่ออกมาจนได้บทสรุปที่น่าประทับใจเกินคาด เรื่องยังสามารถต่อยอดและเชื่อมโยงกับตำนานเทพอื่นๆที่จะสร้างหลังจากนี้ได้ด้วย
เรื่องนี้โมเดลตัวละครด้านรายละเอียดใบหน้าเจย์ยังรู้สึกว่าไม่ต๊าชพอแต่เนื้อเรื่องน่าสนใจไม่น้อยเลย ในส่วนของจุดจบก็จบได้ไม่แย่ถือเป็นอนิเมะจีนอีกหนึ่งเรื่องที่ทำออกมาได้ดีพอสมควรและใด ๆ คือเพลงประกอบเพราะมากโดยเฉพาะลูกคอของอาจารย์ โจวเซิน ฟังแล้วเหมือนได้โชคสองต่อทั้งนวดหูทั้งนวดใจ
หลังดู Green Snake นาคามรกต เนื้อเรื่องดี สนุกสนาน รับชมเพลิน ๆ
เนื้อเรื่องนี้ ถือว่าเป็นแนวอนืเมะ แฟนตาซี ดราม่า และแสดงการผจญภัย ของพญางูเขียว ในเมืองนครอสูร มีการเน้นฉากของการเอาตัวรอด คล้ายกับด่านต่าง ๆ ที่จะต้องรอดพ้นมาให้ได้ และยังต้องต่อสู้กับ พวกที่มาอยู่ ที่ข่มอำนาจกัน เป็นใหญ่กันอีก
เรื่องนี้ ถือว่าภาพที่ทำออกมา ได้อย่างสวย เนียนตา ภาพโบราณในบางฉากของเรื่อง มีความสวยงามอย่างมาก เมืองนครอสูรในเรื่อง ก็ถือว่าทำออกได้อย่างน่าสนใจ มีการต่อสู้ที่บ่อยมาก ๆ
ถือว่ามีการดันบท ของพญางูเขียว ให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ฉากแอคชั่น ซีจี ที่ทำออกมา ถือว่าอลังการ และสนุกมาก เนื้อเรื่อง ก็เกิดจากตำนานรักของนางพญางูขาว ที่รักกับมนุษย์ และโยงมาเป็นเรื่องของนางพญางูเขียว ที่ถูกกำจัดมายังเมืองใหม่ คือเมืองนครอสูร และต้องต่อสู้ เอาตัวรอด เพื่อที่จะหาทาง เดินทางกลับไปยังโลกเดิม เพื่อทำลายหลวงจีน และช่วยพี่สาว นางพญางูขาวออกมา