รีวิว Kimetsu No Yaiba ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่ สวัสดีครับ ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่ อนิเมชั่นเรื่องนี้ อาจจะเป็นเรื่องที่ฟอร์มยักษ์ที่สุดในหลายๆเรื่องที่คนเฝ้ารอคอยในปี 2020 ก็เป็นได้ครับ ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แฟนของอนิเมะเรื่องนี้ก็น่าจะเป็นแบบเดียวกัน ผมคิดว่าคงจะไม่มีอะไรมาหยุดความร้อนแรงนี้ได้จริงไหมครับ ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่ เรื่องนี้โด่งดังเป็นพลุแตกจากกระแสมังงะและอนิเมชั่น ขึ้นแท่นเป็นปรากฏการณ์แห่งปีของทางญี่ปุ่นไปแล้วครับ เชื่อว่าหลายๆคนก็น่าจะเคยเห็นข่าวกันมาเยอะแล้ว
วันนี้เนี่ยผมจะขอรีวิวภาค The Movie ที่กำลังจะฉายในโรงแบบเนื้อๆเลยก็แล้วกัน และจะตอบประเด็นต่างๆที่หลายคนน่าจะสงสัย เริ่มจากที่ตัวเนื้อเรื่องกันก่อนเลย ดาบพิฆาตอสูร รถไฟแห่งฝัน ภาคนี้แม้จะบอกว่าเป็น The Movie แต่ว่ามันก็ไม่ได้เป็นภาคแยกแต่ประการใดนะครับ มันถูกสร้างต่อจากภาคจบในตอนที่ 26 ของฉบับอนิเมชั่นแบบซีรีย์พอดีครับ เอาจริงๆจะเรียกมันว่า The Movie เนี่ยก็ไม่ค่อยถูกสักเท่าไหร่ น่าจะเรียกว่าภาค 1.5 มากกว่าครับ ถ้าคุณไม่เคยดูอนิเมชั่นมาก่อน หรือไม่เคยอ่านหนังสือมาก่อน ก็จะไม่สามารถดู The Movie นี้ได้เลยครับ อนิเมะไม่ได้เล่าเรื่องราวในตอนก่อนๆให้เลยแม้แต่นิดเดียว ดังนั้นขอย้ำอีกครั้งนะครับ ถ้าคุณจะดู The Movie เรื่องนี้คุณต้องดูฉบับอนิเมชั่นทั้ง 26 ตอนมาก่อนหรืออย่างน้อยก็ต้องอ่านมังงะจนจบเล่มที่ 6 มาแล้วนะครับ ส่วนใครที่อยากจะเตรียมตัวก่อนไปดู ผมแนะนำรีวิวฉบับอนิเมชั่นนะครับ ผมเคยทำไว้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว
เนื้อเรื่องฉบับย่อของ รีวิว Kimetsu No Yaiba ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่
ในส่วนเรื่องย่อของ The Movie นี้ ทันจิโร่และผองเพื่อนจะต้องขึ้นรถไฟสายกลางคืน เพื่อตามไปสมทบกับเสาหลักเพลิง อย่างเรนโงคุ ทันจิโร่ ในภารกิจของหน่วยพิฆาตอสูร รถไฟขบวนนี้มีบางอย่างที่ผิดปกติ เพราะมีผู้โดยสารหลายคนนั้นหายตัวไป แม้หน่วยจะพยายามส่งนักดาบตามสืบมาบ้างแล้วก็ตาม แต่พวกเขาก็หายตัวไปอย่างลึกลับ เดือดร้อนไปถึงระดับเสาหลักต้องมาจัดการด้วยตัวเอง บุรุษแห่งเพลิงและพวกทันจิโร่จะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคนี้ไปได้หรือไม่ ติดตามต่อได้ใน ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่ รถไฟแห่งฝันนิรันดร์
สิ่งแรกที่ผมอยากจะบอกเลยก็คือ สำหรับคนที่ดูเฉพาะฉบับอนิเมชั่นมาก่อนเนี่ย รู้ให้น้อยที่สุดคือดีที่สุดครับ อย่าปล่อยให้ตัวเองนั้นโดนสปอยโดยเด็ดขาดจนกว่าจะถึงช่วงเวลาที่จะได้รับชมจริง เอาตรงๆแล้วตัวอย่างเนี่ยไม่ต้องดูเลยยิ่งดีครับ เพราะว่ามันสปอยล์แบบสุดๆ ขอให้ทุกท่านเนี่ยหลบไปจนกว่าจะถึงเวลานะครับ แต่ถ้าเกิดว่าใครอ่านมังงะมาแล้วเหมือนผม ก็สามารถดูตัวอย่างหนังได้แบบสบายๆครับ พูดถึงความรู้สึกหลังดูกันก่อน เอาแว๊บแรกเลยนะครับ หลังจากที่ดูจบแล้ว ตอนที่เครดิตขึ้นเนี่ยมันสุดยอดมากๆครับ ตลอดทั้งเรื่องตั้งแต่วินาทีแรกจนถึงวินาทีสุดท้าย ความรู้สึกต่างๆมันอัดแน่นเต็มไปหมด ทั้งตื้นตันฮึกเหิม แล้วก็แน่นอนครับมันโคตรจะสนุก
ใครชอบเสาหลักเพลิง เตรียมพร้อมรับความสนุกสุดยอดได้เลย
เหตุการณ์รถไฟแห่งนิรันดร์ภาคนี้ น่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ผมชอบที่สุดในเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ ทั้งฉากต่อสู้หรือว่าตัวละครที่มีบทบาทเซ็นโงคุ คือหนึ่งในเสาหลักที่ผมรักมากที่สุดครับ ชอบตั้งแต่แรกเห็นเลยก็ว่าได้ และด้วยความที่ภาคนี้เป็นอีเว้นสำหรับตัวละครนี้ด้วย ผมก็เลยคาดหวังมากเป็นพิเศษครับ ก่อนที่จะเข้าโรงเนี่ยก็แอบสงสัยเหมือนกันว่า ฉบับหนังโรงจะสามารถถ่ายทอดมันออกมาได้ดีขนาดไหน ตัวเราก็เคยอ่านบางอย่างมาก่อนแล้ว
รู้เนื้อเรื่องคร่าวๆมาแล้ว มันจะสนุกหรือเปล่า แล้วรูปแบบมันจะออกมาเป็นยังไง มันจะเหมือนการเอาฉบับอนิเมชั่นซีรีย์เป็นตอนๆมาต่อกันหรือเปล่า ซึ่งมันไม่ใช่ซะทีเดียวครับ ตัวเนื้อเรื่องถูกเล่าเป็นแบบเนื้อเดียวกันไม่ต่างจากภาพยนตร์เลย มีการไล่ระดับความเข้มข้นตั้งแต่เบาไปจนหนัก ผสมผสานการเล่าเรื่องเข้ากันกับฉากแอคชั่นได้ดี อาจจะมีฉากเฉื่อยๆอยู่บ้างนะครับ แต่ว่าทั้งหมดนั้นทำมาเพื่อให้รู้จักกับตัวละครให้มากขึ้น ถ้าคุณอินแล้วมันก็จะส่งผลในตอนสุดท้ายของเรื่องด้วย
งานภาพระดับเทพ โดดเด่นที่สุดตั้งแต่เคยชมอนิเมะเลยทีเดียว
เรามาพูดถึงงานด้านภาพกันต่อเลยครับ ใน Animation ที่ว่าสวยแล้ว ในเวอร์ชั่น Netflix แต่ใน The Movie นี้เป็นคนละเรื่องเลยครับ มันมีรายละเอียดสูงมากๆ ทั้งตัวละคร สภาพสิ่งแวดล้อมหรือแม้กระทั่งฉากหลังครับ พวกแสงเงาต่างๆเนี่ย เข้าขั้นสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว เมื่อนำทุกอย่างมารวมกับงานศิลป์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของดาบพิฆาตอสูรแล้ว มันก็ยิ่งน่าดูมากครับ โดยเฉพาะฉากการต่อสู้กัน นี่อาจจะเป็นหนึ่งในอนิเมชั่นที่มีฉากต่อสู้ดีที่สุดตั้งแต่ผมดูมาเลยก็ว่าได้ ทุกอย่างมันจัดหนัก จัดเต็มแบบสุดๆครับ อัดแน่นไปด้วยฉากต่อสู้ตั้งแต่ต้นเรื่องไปถึงตอนจบ
การเคลื่อนไหวต่างๆก็ทำได้อย่างสุดยอด สนุกมากเวลาเห็นตัวละครวาดลวดลายการเคลื่อนไหว จริงๆแล้วมันตื่นตามากๆครับ ยิ่งแต่ละตัวในเรื่องนี้ก็มีวิชากันอยู่แล้ว ก็เคลื่อนไหวที่แตกต่างกันมันก็ยิ่งเพิ่มความตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก เท่านั้นยังไม่พอความยาวของฉากแอคชั่นก็ทำออกมาได้ดีครับ มาเต็มๆยาวๆ แบบจุใจ ไม่มีแบบสั้นๆครับ แถมทำได้อย่างไม่น่าเบื่อแม้ว่ามันจะยาวก็ตาม แล้วก็อีกจุดหนึ่งที่สำคัญมากๆสำหรับใครที่อ่านมังงะมาแล้ว ผมขอบอกเลยนะครับว่า ในอนิเมชั่นเนี่ยมีการเพิ่มเติมรายละเอียดในฉากต่อสู้มากขึ้นเยอะเลย
บทตัวละครสามารถถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้เป็นอย่างดี
แต่ถ้าจะบอกว่าฉาก Action คือสิ่งดีสิ่งเดียวของหนังเรื่องนี้ก็คงจะผิดครับ อีกสิ่งหนึ่งที่จะไม่พูดไม่ได้เลยก็คือการส่งต่ออารมณ์จากตัวละครสู่คนดูครับ ทางทีมงานดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจดีถึงสิ่งที่แฟนๆของดาบพิฆาตอสูรต้องการครับ พวกเขาเข้าใจถึงบท เข้าใจถึงตัวละคร พวกเขาได้นำวัตถุดิบที่ยอดเยี่ยมมาปรุงแต่งให้ดีที่สุด ผ่านงานภาพแล้วก็ฉากการต่อสู้ ขยี้มันให้ถึงแก่นมากที่สุดด้วยปมและเหตุการณ์ต่างๆ ผลที่ได้ก็คือความสนุกแบบสุดๆ ตอนที่เรานั่งอยู่นั่นแหละครับ แล้วคุณจะได้รู้สึกร่วมกันไปกับตัวละครเหล่านั้นด้วย ทั้งความโกรธ การดิ้นรน ความตื้นตันใจต่างๆ ถือว่าทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมมากจริงๆครับ ผมเนี่ยสารภาพเลยนะครับว่าก็เสียน้ำตาไปประมาณ 2-3 ครั้งเหมือนกัน
ประเด็นเรื่องเสียงพากย์ที่หลายๆ คนสงสัยหรือว่ากังวลใจ ส่วนนี้ต้องขออภัยจริงๆ ครับ ผมไม่สามารถตอบได้เลย เพราะว่าในรอบสื่อที่ผมได้ไปดู มันเป็นเสียงญี่ปุ่น ซึ่งก็ต้องบอกว่าเอาไว้ได้ดีมากจริงๆ โดยเฉพาะตอนจบครับ อย่างไรก็ตามพากย์ไทยก็น่าจะทำออกมาได้ดีเช่นเดียวกัน แถมไม่ต้องคอยอ่านซับได้ดูภาพสวยๆแบบเต็มตา ถ้าเกิดว่ามีใครมีโอกาสได้ดูพากย์ไทยนะครับ ก็แวะมาแบ่งปันความคิดเห็นกันได้เลย
สรุปภาพรวม รีวิว Kimetsu No Yaiba ดาบพิฆาตอสูร
สรุปนะครับ Kimetsu No Yaiba ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่ รถไฟแห่งฝันนิรันดร์ นี่คือภาคต่อที่สร้างออกมาเพื่อแฟนๆอย่างแท้จริง พวกเขาใส่ใจในด้านคุณภาพและเนื้อหาจนถึงขั้นสุด มีการเพิ่มเติมขยายความส่วนที่ดีอยู่แล้ว ให้กลายเป็นความสุดยอดขึ้นไปอีก ผมเนี่ยแอบอิจฉาคนที่ไม่เคยอ่านฉบับมังงะมาก่อนมากๆเลยครับ อิจฉาพวกเขาที่จะได้ดูเรื่องราวเดียวกันแต่การเล่าจะสุดยอดกว่า การที่เรามีความรู้สึกแบบนี้เป็นครั้งแรกมันก็คงจะดีกว่าตอนที่เราอ่านมาแล้วมากจริงๆครับ ยังไงก็ตามครับใครอ่านมาก่อนแล้วก็ไม่ต้องเสียใจไปนะครับ มันก็ยังสนุกอยู่เหมือนกัน อย่างที่บอกครับก่อนดูผมคาดหวังเอาไว้แบบสูงลิบ แต่เอนิเมะเรื่องนี้ก็ทำได้เกินที่ผมคาดหวังไว้เสียอีกครับ แค่ฉากต่อสู้ตอนไคลแม็กซ์มันก็คุ้มแบบสุดๆแล้ว
ผลการให้คะแนนจากทีมงานรีวิวอนิเมะ
บอกตามตรงนะครับ ถ้าจะต้องให้คะแนนเรื่องนี้ก็บอกเลยครับว่า ผมเนี่ยเป็นแฟนของดาบพิฆาตอสูรแล้วก็ชอบอีเว้นรถไฟนิรันดร์มากๆ และที่สำคัญก็คือ เสาหลักเพลิงคือหนึ่งในตัวละครหลักที่เป็นตัวโปรดสุดของผม อย่างที่บอกไปด้วยปัจจัยต่างๆเหล่านี้ทุกคนน่าจะเดาได้ไม่ยากใช่ไหมครับ 10 เต็ม 10 จากพวกเรานักรีวิวอนิเมะครับ ดาบพิฆาตอสูร รถไฟนิรันดร์ อาจไม่ใช่อนิเมชั่นที่ดีที่สุดในโลก สำหรับคนดูทั่วไป
แต่ถ้าเกิดว่าคุณเป็นแฟนที่รักในการ์ตูนเรื่องนี้ ภาคนี้มันก็คือของขวัญชิ้นโตที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ มันจัดห่อมาอย่างสวยและของข้างในมันก็ดีมากจริงๆ ใครที่ยังไม่ได้ดูฉบับอนิเมชั่นซีรีส์ยังมีเวลานะครับ สามารถไปตามดูได้ก่อนที่มันจะเข้าฉายจริงในอาทิตย์หน้า สุดท้ายนี้ ทันจิโร่และเพื่อนของเขาจะสามารถสร้างความประทับใจให้กับคุณได้หรือเปล่า ไม่มีใครตอบคุณได้ครับ คุณเท่านั้นที่จะเป็นคนพิสูจน์ด้วยตัวเอง กับ Kimetsu No Yaiba ดาบพิฆาตอสูร รถไฟแห่งฝันนิรันดร์ อนิเมะเรื่องเยี่ยมที่เรารับประกันความสนุกในระดับ 5 ดาวครับ
