รีวิว RAYA AND THE LAST DRAGON สวัสดีครับเพื่อนๆ RAYA AND THE LAST DRAGON นี่คือหนังเจ้าหญิงจากดิสนีย์ ที่พวกเราชาวรีวิวอนิเมะชอบมากที่สุดครับ ก่อนเข้าโรงผมไปคาดคิดจริงๆครับว่าจะชอบมันง่ายขนาดนี้ แต่ก่อนจะไปอ่านรีวิวกันแบบเต็มๆนะครับ ขอบอกข้อมูลเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้กันก่อนแล้วกัน รายาจากดิสนีย์คนนี้ เธอเป็นเจ้าหญิงสัญชาติเอเชียครับ แถมเป็นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซะด้วย ซึ่งเราสามารถนับเธอเป็นเจ้าหญิงจากดิสนีย์ได้ แม้จะไม่ได้อยู่ในทีม official แบบพวกสโนไวท์ ซินเดอเรลล่า หรือว่ามู่หลานก็ตาม
รายา เธออยู่ในฐานะเจ้าหญิงแบบไม่เป็นทางการนั่นเองครับ ซึ่งนอกจากตัวรายาเองแล้ว ก็ยังมีแอนนาแล้วก็เอลซ่าจาก Frozen ด้วยที่อยู่ในลิสต์นี้ครับ ข้อมูลอีกอย่างที่เพิ่งเปิดเผยมาจากมือเขียนบทของเรื่องนี้ก็คือ รายาคนนี้มีต้นแบบมาจาก คุณญาญ่า อุรัสยา ของเรานี่แหละครับ โดยตัวเรื่องจะมีจุดเริ่มต้นจากตำนานซิซู พญามังกรที่เคยกำราบความชั่วร้ายที่เกิดขึ้น ช่วยให้มหานครคูมันตรารอดพ้นจากการล่มสลายไปได้ หลายร้อยปีต่อมาเหล่ามังกรทั้งหลายได้หายไป จากอาณาจักรยิ่งใหญ่เพียงหนึ่งเดียวได้ถูกแบ่งแยกออกเป็น 5 เมือง ซึ่งแต่ละเมืองนั้น ตั้งชื่อตามอวัยวะส่วนต่างๆของมังกร
เนื้อเรื่องฉบับย่อ รีวิว RAYA AND THE LAST DRAGON
จุดเริ่มต้นของเรื่องราวนั้นอยู่ที่อาณาจักรหัวใจ เจ้าหญิงรายาและพ่อ ได้เผชิญกับภัยคุกคามจาก 500 ปีก่อนที่กลับมาอีกครั้ง เจ้าหญิงน้อยต้องออกตามหาสิ่งเดียวที่จะแก้ไขสถานการณ์นี้ได้ นั่นก็คือมังกรตัวสุดท้ายที่หายไป มันคือการเดินทางเพื่อกอบกู้และรวบรวมอาณาจักรคูมันตราให้กลับมาเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง เจ้าหญิงและเพื่อนของเธอจะทำได้หรือไม่ ติดตามต่อได้ใน RAYA AND THE LAST DRAGON
สิ่งแรกที่มันเตะตาผมจากอนิเมชั่นรายาก็คือ งานภาพและเสียงของเรื่องนี้ครับ พื้นหลังของโลกใบนี้ตั้งอยู่บนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอาจริงๆจะเรียกว่าลุ่มแม่น้ำโขงก็ได้ครับ ก็แถวๆประเทศเขมร พม่า ลาว เวียดนามและไทยของเรานี่เอง เราไม่คิดไม่ฝันเหมือนกันครับว่า จะมีโอกาสได้เห็นอะไรแบบนี้ในอนิเมะฟอร์มยักษ์ ทุกอย่างพอเป็นอนิเมชั่นแล้วมันสวยงามมากจริงๆ แล้วก็
เพลินตาแบบสุดๆ ทีมงานเนี่ยทำการบ้านมาเยอะมากๆ เข้าใจถึงรายละเอียดต่างๆ ทั้งเสื้อผ้าและวิถีชีวิตวัฒนธรรมต่างๆ พวกเขาเข้าใจเป็นอย่างดีครับ คนไทยอย่างเรานั่งดูไปก็จะประทับใจทุกฉากในเรื่องครับ แล้วก็คิดว่านั่นมันน่าจะใช่ ไอ้นี่ก็น่าจะมาจากไทยแน่ๆ ทุกอย่างเป็นธรรมชาติมากๆ ลื่นไหลและไม่ติดขัดเลย แถมใส่ใจทุกรายละเอียด แค่ฉากกินข้าวเนี่ยก็มีถ้วยชามสไตล์บ้านๆ ที่ดูธรรมดาแต่ก็ยังสามารถสวยงามได้
แนวทางการสร้างอนิเมชั่นได้รับแรงบันดาลใจ มากจากเกมชื่อดัง
ตัวมังกรของรายาก็มีต้นแบบมาจากพญานาคนี่แหละครับ ต่อมาจะขอพูดถึงสิ่งปลูกสร้างอย่างวัดหรือปราสาท ที่มันถูกแต่งเต็มไปด้วยลายเส้นที่คุ้นตา พอได้เห็นเนี่ยมันตื่นเต้นมากๆครับ มันถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี มันเหมือนกับเรากำลังเล่นเกมในซีรีย์อย่าง Assassin’s Creed เลยครับ ใครที่ไม่รู้จักเนี่ยมันคือเกมที่เราจะรับบทเป็นนักฆ่าตามประวัติศาสตร์ต่างๆ และจุดเด่นของเกมนี้ก็คือมันสามารถจำลองเมืองในสมัยโบราณออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ และมีรายละเอียดมากๆ เช่นกรุงโรมหรือเมืองเอเธนส์ เป็นต้นครับ
เมืองในรายาก็ให้ความรู้สึกแบบเดียวกันเลยครับ มันเต็มไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะของมัน ผมคิดเสมอว่า ศิลปะของบ้านเรานั้นมันน่าสนใจ ถ้าได้ไปอยู่ในภาพยนตร์ดีๆ คงจะเป็นอะไรที่สวยงามมากๆ วันนี้ผมได้เห็นมันจากตาตัวเองแล้วครับ แต่แน่นอนครับว่าถ้าอนิเมชั่นเรื่องเยี่ยมจะมีดีแค่ฉากเนี่ย มันก็คงไม่ต่างอะไรกับสุภาษิตที่ว่า สวยแต่รูปจูบไม่หอมใช่มั้ยละครับ รายาเป็นหนังที่ไม่มีจุดน่าเบื่อเลยครับ มันเต็มไปด้วยฟิวส์ของการผจญภัย มีการเดินทาง มีเป้าหมายที่ชัดเจน ด้วยความที่เธอนั้นต้องร่อนเร่ไปตามอาณาจักรต่างๆที่มีสภาพแวดล้อมที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นทะเลทราย ภูเขา ป่าทึบ หรือแม้แต่ตลาดน้ำ ใช่แล้วครับ คุณฟังไม่ผิดครับ ตลาดน้ำจริงๆ มันดูตื่นเต้นและก็มีอะไรใหม่ๆให้เราได้ดูตลอดครับ ยังไม่ทันจะเบื่อฉากนี้ก็เปลี่ยนเป็นฉากอื่น พอใกล้จะเบื่อก็เปลี่ยนอีกครับ
ฉากแอ็คชั่นการต่อสู้ จัดให้อย่างเต็มๆ คุ้มค่าทุกวินาที
อีกส่วนที่สำคัญก็คือ เราจะได้ดูฉากการต่อสู้โดยนางเอกของเรา รายา นี่แหละครับ บอกเลยว่ามีตลอดทั้งเรื่อง ไม่ต้องรอไปถึงฉากไคลแม็กซ์เลย ฉากต่อสู้ก็ซัดกันแบบสมจริงหมัดต่อหมัดเลยทีเดียว การต่อสู้ในเรื่องนี้ก็ได้อิทธิพลมาจากศิลปะการต่อสู้ต่างๆ ลีลาการออกท่าทางของรายาเนี่ย ใครดูแล้วต้องมีคุ้นๆกันบ้าง ไม่ต้องแปลกใจครับ เพราะว่ามันมีพื้นฐานมาจากมวยไทยและวิชากระบี่กระบอง แถมยังมีการไล่ระดับการต่อสู้ไปเรื่อยๆด้วย ต้นเรื่องจะมาแบบเบาๆ พอหอมปากหอมคอ และจะไปเริ่มพีคแบบสุดๆในช่วงองค์สุดท้ายของหนังครับ
นอกจากการต่อสู้แล้ว ฉากแอคชั่นที่เล่นกับสภาพแวดล้อมของถนัดของดิสนีย์ พวกเขาก็ยังทำได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเคย เมื่อนำไปผสมกับสภาพแวดล้อมของฉากที่หลากหลาย มันมีอะไรให้เล่นเยอะมากๆครับ ทุกอย่างคือเต็มไปด้วยความสร้างสรรค์แล้วก็เจ๋งมากๆ มันดูเป็นหนังที่เต็มไปด้วยไอเดียแล้วก็ไม่น่าเบื่อเลย
เจ้าหญิงรายา เธอสามัญติดดินไม่เหมือนเจ้าหญิงคนไหนในดิสนี่ย์เลย
ต่อมาขอพูดถึงตัวละครกันบ้างครับ ถ้าเราดูหนังดีสนี่ย์แล้วจะไม่ให้พูดถึงเจ้าหญิงเลยก็คงจะแปลกๆใช่ไหมครับ ตัวเจ้าหญิงรายาของเรา คาแรคเตอร์ของเธอเนี่ยเป็นเด็กสาวที่ไม่ได้ห้าว แต่ดูเหมือนเป็นทอมบอยซะมากกว่า มีความทะเล้นนิดๆ เป็นคนที่มีอารมณ์ขัน แต่ก็เจือความเศร้าอยู่เหมือนกัน เธอมีหลากหลายคาแรคเตอร์ที่ทับซ้อนกันอยู่ในตัวละครนี้ครับ ทำให้เธอเนี่ยดูมีความเป็นมนุษย์มากขึ้น มีอารมณ์และมีความรู้สึก มักนำทางตัวเองด้วยความคิดในด้านลบ ใครที่เบื่อเจ้าหญิงโลกสวยน่าจะถูกใจเรื่องนี้อย่างแน่นอนครับ
เราลองนึกภาพจำของเหล่าเจ้าหญิงดิสนีย์กันดู พวกเธอมีความยิ่งใหญ่อยู่ในตัวอย่างเต็มเปี่ยม บางคนกล้าหาญ บางคนกตัญญูและซื่อสัตย์ บางคนก็ฉลาดหลักแหลม มีความเป็นผู้นำ แต่เจ้าหญิงคนนี้ เธอไม่ได้มีสิ่งเหล่านั้นอยู่ในตัวตั้งแต่เริ่มครับ แต่ในเรื่องจะนำพาเธอไปพบเจอกันสิ่งต่างๆ เธอจะได้เรียนรู้และเติบโต แม้แต่ในตอนสุดท้ายตัวผมเองก็ยังรู้สึกว่ารายานั้นไม่ได้มีความยิ่งใหญ่เหมือนกับเจ้าหญิงในเรื่องอื่นๆเลย แต่เธอคือคนธรรมดาที่สามารถสร้างเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ครับ
บทสรุปการเดินทางแสนสนุกของ รีวิว RAYA AND THE LAST DRAGON
บทสรุปคือ RAYA AND THE LAST DRAGON สนุกมากครับ มันเป็นหนังอนิเมชั่นที่ผมรู้สึกว่า ตัวเจ้าหญิงไม่ต้องแบกทั้งเรื่องเอาไว้ เคยเป็นไหมครับ เวลาดูอนิเมชั่นของดิสนีย์แล้วรู้สึกว่าองค์ประกอบอย่างอื่นเนี่ยมันไม่น่าสนใจเท่ากับตัวเจ้าหญิง บางครั้งผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆนะครับ แต่กับ RAYA AND THE LAST DRAGON มันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยครับ มันสมบูรณ์แบบในทุกองค์ประกอบ ไล่ไปตั้งแต่งานศิลป์ การดำเนินเรื่อง ฉากแอคชั่น คาแรคเตอร์ของตัวละครต่างๆ พวกเราทีมงานรีวิวอนิเมะหลงรักทุกอย่างเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้มากเลยทีเดียวครับ พอดูจบพวกเรานั่งคุยกันไม่หยุดเลยครับ มันดีมากจนพวกเราเนี่ยยากจะหาคำพูดมาอธิบายความประทับใจนี้ได้จริงๆ
ผลการให้คะแนนความสนุกของทีมงานรีวิวอนิเมะ
ผมจะขอยืนยันคำเดิมที่พูดไว้ตอนต้นรีวิวนะครับ นี่คือหนังเจ้าหญิงจากดิสนีย์ที่พวกเราชอบมากที่สุด เอาไปเลยครับ 10 เต็ม 10 จากพวกเรา สิ่งที่น่าเสียดายคือมันเข้าฉายในช่วงจังหวะที่ไม่ดีเอาซะเลย ศักยภาพต่างๆของเรื่องนี้มันดีมากจริงๆ เชียร์สุดใจให้มีภาค 2 ครับ แม้จะเป็นไปได้ยากก็ตาม นี่คือหนังที่เหมาะสำหรับทุกคนจริงๆ ผมนึกไม่ออกเลยว่าหนังเรื่องนี้ใครจะดูแล้วไม่สนุกบ้าง ผู้ใหญ่สามารถดูได้และเด็กก็สามารถดูได้อย่างสนุกเช่นกัน ที่สำคัญผู้ใหญ่น่าจะดูสนุกกว่าเด็กด้วยซ้ำ เพราะมีแง่คิดมากมายให้เก็บเกี่ยว มันเหมาะสำหรับครอบครัวไปดูด้วยกันแบบสุดๆครับ
และใครที่อยากเห็นศิลปะแบบบ้านเราหรือในโซนบ้านเราในเวทีระดับโลก นี่อาจจะเป็นโอกาสเดียวแล้วนะครับ ถ้าคุณได้เข้าไปรับชมในโรงภาพยนตร์ไม่มีผิดหวังแน่นอน ผมเนี่ยคิดว่าจะไปดูซ้ำรอบสองแน่นอนครับ และสำหรับใครที่สงสัยเรื่องพากย์ไทยว่ามันจะเป็นยังไง ถ้าพวกเราไปดูมาแล้วจะมาบรรยายความรู้สึกให้ฟังกันนะครับ อนิเมะชั่นเรื่องนี้จะเป็นยังไง จะสนุกแบบที่พวกเราบอกหรือไม่ ตัวคุณเองเท่านั้นจะเป็นผู้ตัดสินครับ กับ RAYA AND THE LAST DRAGON รายาและมังกรตัวสุดท้าย อนิเมชั่นเรื่องเยี่ยมจากดิสนี่ย์ที่อยากให้ทุกคนลองไปรับชมกันครับ
