รีวิว the wind rises (2013)

 

 

 

ชื่ออังกฤษ: The Wind Rises (2013)

 

ชื่อไทย: ปีกแห่งฝัน วันแห่งรัก การ์ตูนอนิเมะผู้ชาย

 

ประเภทหนัง: Animation, Biography, Drama ดูอนิเมะ

 

รีวิว the wind rises (2013) ข้อมูลทั่วไป

 

รีวิว the wind rises (2013) the wind rises ปีกแห่งฝัน วันแห่งรัก (อังกฤษ: The Wind Rises, ญี่ปุ่น: 風立ちぬ; โรมาจิ: คะเซะ ทะชินุ) เป็นภาพยนตร์อนิเมะปี พ.ศ. 2556 แนวดราม่าและอิงประวัติศาสตร์ เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายที่กำกับโดยฮายาโอะ มิยาซากิ ผู้กำกับอนิเมะระดับตำนานของญี่ปุ่น เนื่อเรื่องของอนิเมะอิงชีวประวัติของ ดร. จิโร โฮะริโกะชิ วิศวกรผู้ออกแบบเครื่องบินของบริษัท เครื่องยนต์สันดาปภายในมิตซูบิชิ ประจำโรงงานสาขานาโงยะอนิเมะญี่ปุ่น
ปีกแห่งฝัน วันแห่งรัก เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดของญี่ปุ่นประจำปี พ.ศ. 2556 ซึ่งในญี่ปุ่นสามารถทำรายได้กว่าหนึ่งหมื่นสองพันล้านเยน (3,840 ล้านบาท) และเข้าฉายในประเทศไทย เมื่อ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ในโรงภาพยนตร์พื้นที่กรุงเทพมหานครและเชียงใหม่
ชื่อภาษาอังกฤษ The Wind Rises นั้น มาจากวลีแฝงปรัชญาของ พอล วาเลรี ที่ว่า “The wind is rising! We must try to live!” (ลมพัดแรงกล้า เราจึงอยู่ท้าแรงลม!), (เพราะมีสายลม! เราจึงต้องอยู่ต้านลม!)””

 

เรื่องย่อ

 

มองไปที่การปรากฏตัวของจิโระโฮริโคชิบุคคลที่จัดเตรียมเครื่องบินทหารญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองจิโรมีความฝันเกี่ยวกับการบินและการจัดเรียงเครื่องบินที่น่าทึ่งโดยตั้งข้อหาโดย “ปีกแห่งฝัน วันแห่งรัก” ผู้จัดการบินชื่อดังชาวอิตาลี

เนื่องจากเกือบจะทันทีทันใดและไม่สามารถเป็นนักบินได้ Jiro เข้าร่วมสมาคมการวางแผนที่สำคัญของญี่ปุ่นในปีพ. ศ. 2470 และได้รับหนึ่งในโลกสำหรับนักออกแบบเครื่องบินที่มีจินตนาการและประสบความสำเร็จมากที่สุด

ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าถึงชีวิตของเขามากมายโดยแสดงให้เห็นเหตุการณ์จริงที่สำคัญรวมถึงแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในคันโตในปีพ. ศ. 2466 ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่การระบาดของวัณโรคและการกระโดดเข้าสู่สงครามของญี่ปุ่น

จิโร่พบและพบกับความรักที่กระตือรือร้นที่มีต่อนาโฮโกะและสร้างและรักษาความสัมพันธ์ของเขากับฮอนโจผู้สมรู้ร่วมคิดของเขา the wind rises เรื่องจริง

ในปีพ. ศ. 2461 จิโรโฮริโคชิผู้มีพลังปรารถนาที่จะแปลงร่างเป็นนักบิน “The Wind Rises” แต่สายตาเอียงก็ป้องกันไม่ให้ เขาได้รับคำตอบเกี่ยวกับ Giovanni Battista Caproni ผู้ผลิตเครื่องบินชาวอิตาลีที่สังเกตเห็นและฝันถึงเขาในคืนนั้น ในความฝัน

Caproni เปิดเผยให้เขารู้ว่าเขาไม่เคยบินเครื่องบินมาก่อนในชีวิตของเขาและการสร้างเครื่องบินนั้นดีกว่าการบินด้วยซ้ำห้าปีต่อมาจิโร่กำลังออกนอกบ้านด้วยรถไฟเพื่อตรวจสอบการวางแผนการบินที่มหาวิทยาลัยโตเกียวอิมพีเรียลและ  The Wind Rises วิเคราะห์

 

 

 

 

 

พบคนหนุ่มสาวตัวน้อยนาโอโกะซาโตมิกำลังไปกับคนงานของเธอ เมื่อเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในคันโตเมื่อปีพ. ศ. 2466 ขาแม่บ้านของนาโอโกะหักและจิโร่ส่งต่อเธอไปให้ครอบครัวของนาโอโกะจากไปโดยไม่บอกชื่อของเขาในปีพ. ศ. 2470

จิโร่จบการศึกษากับคิโระฮอนโจคู่หูของเขาและทั้งคู่ถูกนำไปใช้กับผู้สร้างเครื่องบินมิตซูบิชิและเป็น มอบให้เพื่อออกแบบเครื่องบินทหารเหยี่ยวสำหรับกองทัพจักรวรรดิ ระหว่างการทดสอบเหยี่ยวแยกตัวกลางอากาศและกองทัพปฏิเสธ

ด้วยความกังวลเกี่ยวกับการแสดงความล้าหลังของความก้าวหน้าของญี่ปุ่น Jiro และ Honjo ถูกส่งออกจากเยอรมนีในปี 1929 เพื่อทำวิจัยเฉพาะและได้รับใบอนุญาตสร้างเครื่องบิน Junkers G.38

จิโรเห็นฮิวโก้จุนเกอร์สต่อสู้กับนาฬิกาของเยอรมันและเป็นพยานให้กับชาวยิวที่ตกเป็นเหยื่ออย่างรุนแรง  The Wind Rises Pantip

เขาฝันถึงคาโปรนีอีกครั้งซึ่งเปิดเผยให้เขารู้ว่าโลกนี้ดีกว่าสำหรับความสว่างของเครื่องบินไม่ว่ามนุษย์จะทำให้พวกเขาไปสู่จุดประสงค์ที่ไม่พึงประสงค์หรือไม่ก็ตาม

 

 

 

 

ปีกแห่งฝัน วันแห่งรัก (อังกฤษ: The Wind Rises, ญี่ปุ่น: 風立ちぬ; โรมาจิ: คะเซะ ทะชินุ) เป็นภาพยนตร์อนิเมะปี พ.ศ. 2556 แนวดราม่าและอิงประวัติศาสตร์ เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายที่กำกับโดยฮายาโอะ มิยาซากิ ผู้กำกับอนิเมะระดับตำนานของญี่ปุ่น เนื่อเรื่องของอนิเมะอิงชีวประวัติของ ดร. จิโร โฮะริโกะชิ วิศวกรผู้ออกแบบเครื่องบินของบริษัท เครื่องยนต์สันดาปภายในมิตซูบิชิ ประจำโรงงานสาขานาโงยะ

 

ปีกแห่งฝัน วันแห่งรัก เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดของญี่ปุ่นประจำปี พ.ศ. 2556 ซึ่งในญี่ปุ่นสามารถทำรายได้กว่าหนึ่งหมื่นสองพันล้านเยน (3,840 ล้านบาท) และเข้าฉายในประเทศไทย เมื่อ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ในโรงภาพยนตร์พื้นที่กรุงเทพมหานครและเชียงใหม่

 

ชื่อภาษาอังกฤษ The Wind Rises นั้น มาจากวลีแฝงปรัชญาของ พอล วาเลรี ที่ว่า “The wind is rising! We must try to live!” (ลมพัดแรงกล้า เราจึงอยู่ท้าแรงลม!), (เพราะมีสายลม! เราจึงต้องอยู่ต้านลม!)

 

 

รีวิว the wind rises (2013)

 

 

เนื้อเรื่อง

 

 

ในห้วงเวลาที่จักรวรรดิญี่ปุ่น กำลังเร่งพัฒนาเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมของชาติ ตลอดจนแสนยานุภาพทางทหารให้ทัดเทียมชาติมหาอำนาจตะวันตก ในปี 1918 จิโร เด็กหนุ่มที่อาศัยในต่างจังหวัดคนหนึ่งได้ใฝ่ฝันที่จะเป็นนักบิน แต่ฝันนั้นไม่อาจเป็นจริงได้ด้วยปัญหาด้านสายตาของเขา ภายหลังจากได้อ่านนิตยสารการบิน ทำให้เขาได้รู้จักนักออกแบบเครื่องบินชาวอิตาลีที่โด่งดัง คือ เคานต์ คาร์โปนี ผู้ซึ่งบอกเขาว่า ถึงแม้ไม่สามารถขับเครื่องบินได้ แต่ก็สามารถออกแบบเครื่องบินได้ การออกแบบเครื่องบินนั้นยอดเยี่ยมกว่าการขับเครื่องบินเสียอีก

 

ห้าปีต่อมา จิโร ได้เดินทางไปยังโตเกียวโดยรถไฟเพื่อมาฝึกฝนด้านวิศวกรรมการบิน บนรถไฟเขาได้พบกับเด็กสาวนามว่า นาโอโกะ ที่กำลังเดินทางพร้อมกับสาวใช้ เมื่อรถไฟใกล้ถึงโตเกียว ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้น ทำให้รถไฟต้องหยุดขบวนและผู้โดยสารและผู้คนต่างเอาชีวิตรอดอย่างอลหม่าน เนื่องจากในเมืองมีไฟไหม้จำนวนมากตามมา ห้วงเวลาแห่งความอลหม่านนั้น สาวใช้ของนาโอโกะได้ได้รับบาดเจ็บที่ขาจนไม่สามารถเดินได้ จิโรจึงได้เข้าไปช่วยเหลือและทำแผล และให้นาโอโกะพาไปที่บ้านเพื่อไปเรียกคนมาช่วย โดยที่เขาไม่ได้บอกกล่าวชื่อใดๆไว้

 

 

ไม่นานหลังจากนั้น จิโรได้เข้าทำงานที่โรงงานอากาศยานของ บริษัท มิตซูบิชิเครื่องยนต์สันดาปภายใน โดยอยู่ในทีมวิศวกรเครื่องบินรบ โครงการ พอสเตอร์ จนเครื่องบินต้นแบบได้สำเร็จ ในวันทดสอบบิน เครื่องบินเกิดปัญหาและตกสู่พื้นดินจนเสียหายทั้งหมด โครงการพอสเตอร์จึงต้องยุติลง ทางบริษัท จึงส่งจิโร ไปเยอรมนีพร้อมกับคณะเพื่อดูงานที่บริษัท จุงส์เกอร์ เนื่องจากอุตสหกรรมการบินของเยอรมันในขณะนั้นถือเป็นแนวหน้าของโลก โดยสามารถผลิตเครื่องบินขนาดใหญ่ที่ทำจากโลหะได้แล้ว กองทัพญี่ปุ่นจึงตื่นตัวเพื่อต้องการให้ญี่ปุ่นมีเครื่องบินโลหะเป็นของตัวเองเช่นกันปีกแห่งฝัน วันแห่งรัก pantip

 

ในปี 1932 ห้าปีหลังจากเข้าทำงาน จิโรได้รับตำแหน่งหัวหน้าทีมวิศวกรออกแบบเครื่องบินรบที่จะประจำการในกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่น เครื่องบินต้นแบบลำแรกของจิโร คือ 1MF10 นั้น เป็นที่น่าผิดหวังและล้มเลิกโครงการ จิโรถือโอกาสไปพักผ่อนและคิดไอเดียที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ที่นั้น เขาได้พบกับนาโอโกะซึ่งคุณพ่อของเธอเป็นเจ้าของ และที่นั่น จิโร ได้พบกับชาวเยอรมันที่เป็นแขกในโรงแรม ชายคนนั้นได้บอกถึงสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงในเยอรมนีที่ปกครองโดยพรรคนาซี ปัญหาเกิดขึ้นกับ ดร. จุงส์เกอร์ และผลลัพธ์ของสงครามที่กำลังอุบัติขึ้น จิโรเริ่มมีใจกับนาโอกะ จนในที่สุด ทั้งสองตกลงคบกัน และจิโร่ได้ไอเดียในการสร้างเครื่องบินใหม่ของเขา

 

เมื่อกลับมาที่โรงงานได้ไม่นาน มีเจ้าหน้าหน่วยสืบสวนอาชญากรของทางการมาตามจับกุมตัวจิโรด้วยเหตุผลที่ไม่อาจทราบได้ จิโรในฐานะหัวหน้าทีมวิศวกรต้องทำงานอย่างหลบซ่อนและย้ายไปอาศัยอยู่ที่บ้านของรองหัวหน้าโรงงาน ขณะเดียวกัน อาการวัณโรคของนาโอกะก็ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ จนเธอต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลวัณโรค…

 

 

รีวิว the wind rises (2013)

 

รีวิว the wind rises (2013) ตัวละครหลัก

 

รีวิว the wind rises (2013) จิโร โฮะริโกะชิ – วิศวกรออกแบบเครื่องบิน

นาโอโกะ ซาโตมิ – คนรักของจิโร

จีโอวานนี คาโปรนี – ผู้ออกแบบเครื่องบินผู้เป็นต้นแบบของจิโร

คิโร ฮนโจ – เพื่อนร่วมงานของจิโร

คุโรกาว่า – รองหัวหน้าโรงงาน

ฮันส์ คาสทอร์ป – ชาวเยอรมันที่รีสอร์ท

ฮัตโตริ – หัวหน้าโรงงาน

 

 

การตอบรับจากนักวิจารณ์

ปีกแห่งฝัน วันแห่งรัก ได้รับการวิจารณ์จากนักวิจารณ์ภาพยนตร์ของ Rotten Tomatoes กว่า 139 คน โดยกว่า 88% ตัดสินเป็นบวกและให้เรตติ้ง “รับรองคุณภาพ” (Certified Fresh) และยังมีฉันทามติแก่ภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า “เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นผลงานสุดท้ายของผู้กำกับ ฮายาโอะ มิยาซากิ ได้รับการจัดอันดับดัชนีความนิยม IMDb 8/10 จากผู้ชมกว่าหมื่นคน และได้คะแนนเฉลี่ยในเว็บไซต์ Metacritic ที่ 83/100 จากผู้ให้การวิจารณ์ 41 คน

 

การวิพากษ์วิจารณ์ในญี่ปุ่น

แม้ภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องนี้จะสามารถทำรายได้ได้ดีในญี่ปุ่น และได้รับรางวัลด้านภาพยนตร์ในเวทีระดับชาติ ด้วยเนื้อหาที่แม้จะเชิดชูวิศวกรนักประดิษฐ์ผู้มีพรสวรรค์และมีความรักในการออกแบบเครื่องบิน ซึ่งสุดท้ายถูกนำไปใช้ในสงคราม แต่ลักษณะการนำเสนอที่ปรากฏในภาพยนตร์แสดงออกมาในท่าทีที่ว่าตัวเอกซึ่งเป็นวิศวกรซึ่งมีความปรารถนาเพียงการสร้างเครื่องบินที่ดีที่สุด ได้ถูกทุนนิยมและสงครามกดดันให้ต้องสร้างเครื่องบินเพื่อเป็นอาวุธสงคราม ทำให้ถูกกลุ่มอนุรักษนิยมบางกลุ่มในญี่ปุ่นวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการทรยศต่อชาติ และบิดเบือนประวัติศาสตร์

 

ริวซุเกะ ฮิกะวะ นักวิจารณ์ยังมองว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นสาส์นของผู้สร้างภาพยนตร์ที่ต้องการเตือนสติกระแสชาตินิยมในญี่ปุ่น โดยวิเคราะห์ว่าเหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งใหญ่ในภาพยนตร์ซึ่งก็คือเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในภาคคันโตเมื่อปี 1923 มีความคล้ายคลึงกับเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิเมื่อเดือนมีนาคม 2011 ซึ่งภัยพิบัติทั้ง 2 ครั้งนำไปสู่การตกต่ำทางเศรษฐกิจ และเปิดทางให้กระแสชาตินิยมกลายเป็นเครื่องมือชักจูงมวลชน

 

รีวิว the wind rises (2013)

สรุปภาพรวม

– แฟนอนิเมะค่าย สตูดิโอ จิบลิ ไม่ควรพลาด เป็นหนังส่งท้ายผลงานของอ.มิยาซากิที่เยี่ยมยอด ละเมียดละมุนละไม ที่ต้องดูจนจบ End credit เลยทีเดียว เพราะไม่อยากลุกออกจาก ด้วยความที่ยังอินกับเรื่องราวอยู่ และเพลงที่ความหมายดีเหมาะกับเนื้อเรื่อง ที่พอเพลงขึ้น(พร้อมคำแปล) น้ำตาก็ค่อยๆเอ่อออกมา

– ไม่ใช่อนิเมะที่เหมาะกับคนทั่วไปหรือเด็กเท่าไหร่นัก แต่เหมาะกับคนที่อยากเสพงานศิลปะ ที่แฝงไปด้วยปรัชญาชีวิตมากกว่า เพราะด้วยการเล่าเรื่องแบบเรียบง่าย เล่าเรื่องแบบเรื่อยๆ ค่อยๆ ซึมซับบรรยากาศ ไม่มีจุดพีค ไม่ตื่นเต้นเร้าใจ จึงอาจจะไม่ถูกคอถูกใจคนทั่วไปเท่าไหร่นัก แต่เป็นงานศิลปะชิ้นหนึ่งที่งดงาม และกลั่นมาจากใจผู้สร้างจริงๆ

– เป็นผลงานที่อาจจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนที่เคยมีฝัน ถึงจะไม่ประสบความสำเร็จตามที่หวัง แต่อย่างน้อยก็ได้ลงมือทำ ได้เรียนรู้ ได้ค้นหาตัวตน ได้ลองสิ่งใหม่ๆ เรื่องนี้เป็นแรงผลักดันได้ดีทีเดียว

– เรื่องราวความรักของหนุ่งสาวสมัยก่อน ที่เรียบง่ายไม่หวือหวา แต่บ่งบอกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่พร้อมจะเสียสละ คอยเคียงข้างให้กำลังใจ เป็นแรงผลักดันให้คนรักได้ทำหน้าที่ของตนได้สำเร็จ อาจไม่ลงลึกถึงรายละเอียด แต่ก็ทำให้ซาบซึ้งในความของรักของทั้งคู่อยู่ไม่น้อย

– เรื่องนี้ได้กลิ่นอายและเสน่ห์ของจิบลิแบบดั้งเดิมมาเต็มๆ ทั้งลายเส้น และบุคลิกของตัวละครจากเรื่องอื่นๆ เอามาใส่ในตัวละครในเรื่องนี้บางตัว ทำให้คิดถึงอนิเมะเรื่องเก่าๆของจิบลิทั้งเรื่อง Spirited Away, Totoro และอื่นๆ จนอยากย้อนกลับไปดูผลงานเก่าๆอีกครั้ง

 

“เพราะมีสายลม เราจึงต้องอยู่ต้านลม”

 

ชอบเรื่องนี้มากๆ ตอนดูจบแรกๆ มันรู้สึกจุกๆ ทั้งตื้นตัน ทั้งเศร้า ซึ้ง อย่างบอกไม่ถูก ยิ่งมาดูบางฉากวนซ้ำๆ พร้อมกับฟังเพลงยิ่งอินมากๆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *