รีวิว toy story 4 การ์ตูนอนิเมชั่นพากย์ไทย

 

รีวิว toy story 4 การ์ตูนอนิเมชั่นพากย์ไทย การกลับมาอีกครั้งกลับ toy story 4 ภาพยนตร์อนิเมชั่นพากย์ไทยแห่งปี toy stoy ที่ผ่านมาไม่เพียงแต่มอบความสุขและข้อคิดดีๆ ให้แก่คนดู แต่ก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ให้กล้าที่จะลงมือทำและเปลี่ยนแปลงโอกาส และภาค 4 นี้ ห่างจากภาค 3 เป็นเวลาถึง 9 ปีด้วยกัน ซึ่งก็ได้ผู้กำกับอย่าง จอร์ด คูรี่ ที่ผันตัวเองจากคนเขียนบท Inside Out กับ Up ส่วนทีมงานเขียนบทมีเยอะมากส่วนใหญ่จะได้คนเดิมๆ จากคนเขียนบทภาค 1 – 3 มาเขียนเหมือนเดิม ภาคนี้หนังจะเล่าเรื่องราวกาผจญภัยครั้งใหม่ของวูดดี้ที่เริ่มต้นใช้ชีวิตของเจ้าของบ้านคนใหม่ เรื่องราวจะเป็นยังไงนั้นไปติดตามกันได้เลย ติดตามชมความน่ารักของอนิเมชั่นเรื่องนี้ติดตามได้ใน ดูอนิเมะ

และสามารถดูอนิเมชั่นเรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมายได้ที่ อนิเมะ2021

 

รีวิว toy story 4 การ์ตูนอนิเมชั่นพากย์ไทย

 

ข้อมูลทั่วไป toy story 4 อนิเมชั่นน่าดู

รีวิว toy story 4 การ์ตูนอนิเมชั่นพากย์ไทย หลายๆ คนคงเติบโตมากับ Toy Story ตั้งแต่ภาคแรก บ้างถึงขั้นผูกพันเพราะว่าเป็นแอนิเมชั่น3มิติเรื่องแรกๆ ในสมัยนั้นที่สนุกมากๆ ด้วยเรื่องราวที่แปลกใหม่ เนื้อหาเนื้อความน่าสนใจโดยเฉพาะกับเด็กๆ ตัวละครติดตาตรึงใจ ทำให้ Toy Story อยู่ในใจของทุกคนได้ไม่ยากตลอดมาจนกระทั่งภาค 3 ภาคที่หลายคนว่าจบสวยมากๆ เพอร์เฟกต์แล้ว

 

Toy Story 4 อยู่ดีๆ กลับโผล่ออกมาท่ามกลางเสียงที่แตก บ้างก็ดีใจ บ้างก็เห็นว่าไม่น่าทำ แต่ไหนๆ ในเมื่อดิสนีย์เขาทำออกมาแล้วก็ต้องตามดูกันต่อไปว่าผองเหล่าของเล่นแก๊งวู้ดดี้และบัซจะไปทำอะไรกันอีกแต่พอได้เข้าไปดูแล้ว นี่มันไม่ใช่ toy story ทั้งหมด แบบที่เราคิด

 

เนื้อเรื่องภาคนี้ไม่ได้ติดตามของเล่นตัวเก่าๆ ทั้งหมดแบบที่ผ่านมา นี่ไม่ใช่การผจญภัยร่วมมือกันของเหล่าผองเพื่อน แต่เป็นการฉายเดี่ยวของวู้ดดี้ ใช่ครับ ภาคนี้วู้ดดี้บทเยอะสุด เยอะกว่าใครเพื่อน เพราะวู้ดดี้ต้องไปตามหาฟอร์กกี้ที่หนีออกไปจากกลุ่ม เพราะไม่ยอมเชื่อว่าตัวเองเป็นของเล่น คิดว่าตัวเองเป็นขยะ

 

นอกจากนี้ภาคนี้ยังเป็นการกลับมาของ โบ ปี๊ป ตุ๊กตาเลี้ยงแกะและแกะสามหัวของเธอจากสองภาคแรก แต่กลับมาในแบบสาวแกร่งเพราะทั้งสองต้องอยู่ด้วยตัวเองตลอดมา เธอเป็นตัวละครที่เด่นที่สุดในเรื่อง มากกว่าวู้ดดี้ซะอีก ถึงแม้เวลาบนจอจะออกมาน้อยกว่านิดหน่อย เพราะตัวละครของเธอโดดเด่นกว่าใคร แกร่ง มั่นใจในตัวเอง เด็ดขาด เป็นผู้นำ แต่ก็ยังมีมุมอ่อนโยน รักพวกพ้อง

 

รีวิว toy story 4 การ์ตูนอนิเมชั่นพากย์ไทย

 

เรื่องย่อ toy story 4 ความสนุกกลับมาอีกครั้ง

 

เรื่องราวการผจญภัยครั้งใหม่ของ วู้ดดี้ ที่เริ่มต้นชีวิตในบ้านของเจ้าของคนใหม่ คือ บอนนี่ ซึ่งเธอได้ใช้ช้อนกึ่งส้อม ประดิษฐ์ออกมาเป็นของเล่นใหม่ที่ตั้งชื่อว่า ฟอร์คกี้ แต่เจ้าฟอร์คกี้ รู้ว่าแท้จริงเขาไม่ใช่ของเล่นแต่เป็นขยะ จึงอยากกลับไปสู่ชีวิตที่แท้จริง เดือดร้อนถึงวู้ดดี้ต้องตามกลับมา กลายเป็นการผจญภัยของเหล่าของเล่นครั้งใหม่ รวมถึงการกลับมาของ โบ ของเล่นหวานใจของวู้ดดี้ที่เธอกลับมาในมาดใหม่เป็นสาวสุดแกร่งด้วย

 

การกลับมาครั้งที่ 4 ของแก๊งของเล่น หลังจากผ่านไปเกือบครบ 10 ปี จนนึกว่าจะจบลงในภาคที่แล้วตามแบบฉบับหนังไตรภาคเสียอีก แต่แล้วพิกซาร์ก็มีไอเดียคืนชีพเหล่าตัวละครแสนรักกลับมาหาแฟน ๆ ของพวกเขาอีกครั้ง พร้อมกับประกาศว่านี่จะเป็นภาคส่งท้ายของแฟรนไชส์นี้แล้ว (จริงมั้ยไม่รู้) โดยรอบนี้ได้ผู้กำกับหน้าใหม่แต่ไม่ละอ่อนอย่าง จอช คูลีย์ ที่เคยเขียนให้หนังรางวัลน้ำดีอย่าง Inside Out (2015) มาก่อน และยังได้ลองมือกำกับหนังสั้นภาคย่อยอย่าง Riley’s First Date? (2015) ด้วย จนตอนนี้คงอิ่มพร้อมทั้งฝีมือการเล่าเรื่องและบารมีที่จะก้าวขึ้นมารับไม้ต่อจากผู้กำกับภาคแรกและ 2 อย่าง จอห์น แลสเซตเตอร์ ที่ต้องถอนตัวไปอย่างน่าเสียดาย เนื่องจากภาระหน้าที่ในงานบริหารค่าย

 

รีวิว toy story 4 การ์ตูนอนิเมชั่นพากย์ไทย

 

จริง ๆ นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Toy Story ได้ออกจากอ้อมอกของแลสเซตเตอร์ เพราะในภาคที่ 3 เมื่อปี 2010 ก็ถ่ายมือมาสู่ ลี อุนคริช ผู้กำกับที่เคยร่วมกำกับกับแลสเซตเตอร์ในภาคที่ 2 ทั้งยังสร้างบารมีด้วยการกำกับร่วมในหนังอย่าง Monsters, Inc. (2001) และ Finding Nemo (2003) มาก่อน ทั้งในภาค 3 ตัวแลสเซตเตอร์ยังช่วยดูบทหนังให้อยู่ด้วย เมื่อเทียบกันงานภาค 4 ของคูลีย์จึงเป็นงานที่ยากและท้าทายกว่า ตรงที่ไม่มีพ่อผู้ให้กำเนิดดูแลเกี่ยวข้องอีกต่อไป แต่อย่างไรก็ตามแฟน ๆ ไม่ต้องตกใจไปว่าจะเป็นหนัง Toy Story ที่เราไม่รู้จัก เพราะตัวหนังยังคงได้ แอนดรูว์ สแตนตัน ที่ร่วมเขียนบทตั้งแต่ภาคแรกมาช่วยเขียนบทให้เช่นเคย ทั้งยังได้ผู้เกี่ยวข้องกับหนังชุดนี้เข้ามาช่วยกันหลายต่อหลายคนทีเดียว แม้จะมีข่าวไม่สู้ดีว่าหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 4 ของพิกซาร์ที่มีการเปลี่ยนทั้งผู้กำกับและมีการเขียนบทใหม่ ซึ่งไอ้ 3 เรื่องก่อนหน้า ก็แป้กไปเสีย 2 เรื่องแล้วด้วย (Brave กับ The Good Dinosaur)

 

แต่กับ Toy Story 4 ที่เป็นเหมือนหนังลูกรักลูกหม้อของค่าย จึงไม่ใช่แนวที่จะต้องมาทดลองหรือพิสูจน์ตัวเองใหม่อะไรอีก และมันก็เติมเต็มในส่วนความคาดหวังของผู้ชมได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ด้วยศักยภาพของงานโปรดักชั่นที่สูงขึ้นอย่างน่าประทับใจ เพียงฉากเปิดเรื่องที่เกิดขึ้นท่ามกลางหยาดฝน และแสงไฟอันเงียบเหงาตัดกับสีอบอุ่น ภาพชัดตื้นที่ชวนฝัน และมุมภาพการเคลื่อนไหวที่จัดเจนมาจากผู้ชำนาญการแอนิเมชั่นเบอร์ต้นของโลก ก้เป้นประสบการณ์การรับชมหนังที่อิ่มตาตั้งแต่ต้น และการใช้งานภาพอันสวยหยดเยิ้มนี้ก็ผสานเข้ากับแนวหนังบันเทิงได้อย่างลงตัว เราจะไม่รู้สึกว่าความศิลป์ของหนังมาคอยขัดขวางความลื่นไหลของความสนุก และเมื่อมองภาพแบบพินิจคราใดก็พบแต่ความงามบรรเจิดอยู่ร่ำไป นี่คงต้องชมไปถึงภาคดนตรีประกอบที่ทำได้อย่างละมุนกลมกล่อมไปกับเรื่องราวได้อย่างดีด้วย

 

งานภาพ และงานเพลง ที่ยอดเยี่ยม

ถ้าจะพูดถึงงานภาพแล้ว ผลงานของพิกซาร์ อนิเมชั่นนับว่ามีพัฒนาการมากขึ้นในทุกๆ เรื่องที่ได้ดู และถ้าหากจะนับเฉพาะทอยสตอรี่ด้วยกันแล้ว เราจะเห็นความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเจนทีเดียว

 

ในภาคนี้ องค์ประกอบต่างๆ ในภาพแทบจะไม่ต่างอะไรกับของจริงๆ เลย ทำให้เรารู้สึกได้ว่ามีเพียงตัวละครที่เป็นของเล่นและคนเท่านั้นที่ถูกสร้างขึ้นมา ขณะที่การเล่าด้วยภาพถือว่าใช้มุมกล้องได้เหมาะเหม็ง บางช็อตใช้การหมุนมุมกล้องผสมสโลว์โมชัน ทั้งยังเปลี่ยนฉากไปด้วย ชอบช็อตนี้มากจริงๆ

 

 

ความรู้สึกหลังได้ดู toy story 4

สำหรับเนื้อเรื่อง ส่วนตัวมองว่าเป็นข้อด้อยสักหน่อย ตรงที่มีการประกาศว่าจะเป็นภาคสุดท้ายของแฟรนไชส์ชุดนี้แล้ว นั่นก็เพราะความประทับใจในภาคที่ 3 ที่ตอนนั้นเราเข้าใจว่าจะเป็นบทสรุปอันสุดยอดของเหล่าของเล่นเพื่อนซี้ ได้สร้างบรรทัดฐานสูงล้นขึ้นมาในใจเราแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงน้ำตาแตกตายกันกลางโรงกับการจากลากับแอนดี้เพื่อนรักที่อยู่ด้วยกันมา 3 ภาคกินระยะเวลาเป็นสิบ ๆ ปีไปไม่ใช่น้อย และเมื่อบอกว่านั่นยังไม่ใช่จุดพีค แต่นี่คือตอนจบจริง ๆ เราคงคาดหวังอะไรที่กระแทกกระทั้นใจยิ่งกว่านั้นเข้าไปอีก

 

 

ทว่าในภาคนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือทีมงานวางโจทย์เพื่อหาบทสรุปให้ตัวละครเก่า ทั้งที่ทิ้งไว้เช่นในภาค 3 ก็สวยงามดีแล้ว แต่เหมือนศิลปินเกษียณที่คิดถึงแฟน ๆ จนทนไม่ไหว จึงกลับมาบอกเล่าเรื่องราวเพิ่มเติมอีกนิดให้แฟน ๆ หายคิดถึง เน้นที่การมอบความสุข และบรรยากาศแสนหวานในอดีตที่มีร่วมกันอีกครั้ง หนังจึงเต็มไปด้วยความสุข ความสนุก ความตลกที่สอดแทรกแทบตลอดเวลาจากต้นจนจบ และแซมไว้ด้วยบทอาลัยอันเศร้าสร้อยซ่อนไว้ใต้ผิวอันเปล่งปลั่งสดใส เพราะอย่างไรเสียงานเลี้ยงย่อมมีวันจบ แต่จะให้จบด้วยน้ำตาแฟน ๆ แบบภาค 3 คงไม่ใช่จริตนักมอบความสุขอย่างพิกซาร์ หนัง ภาค 4 จึงน่าจะเกิดขึ้นเพื่อการนี้ การฟินาเล่ด้วยรอยยิ้มของแฟน ๆ น่าจะเป็นตอนจบที่ใช่ที่สุดสำหรับหนังแฟรนไชส์นี้ต่างหาก

 

นอกจากร่ำลาตัวละครเดิม ๆ แล้ว หนังยังเบิกทางให้ตัวละครใหม่ ๆ หลายตัวอย่างน่าประทับใจ ราวกับบอกว่าไม่ต้องเสียใจกับการจากไป งานเลี้ยงนั้นจบลงและจัดขึ้นใหม่ได้เสมอ ตราบที่เรายังคงมีฝันและความรัก โดยตัวละครใหม่ที่ว่านี้ก็มาแบบสุดเซอร์ไพรส์ ทั้งได้ คีอานู รีฟส์ นักแสดงขาขึ้นที่สุดในวงการขณะนี้มารับบทตุ๊กตาสตั๊นท์แคนาดาในตำนานอย่าง ดุ๊ก คาบูม และ จอร์แดน พีล ผู้กำกับสุดสยองจาก Get Out และ Us ที่มารับบทตุ๊กตาสุดแสบอย่าง บันนี่ ด้วย

 

 

ถ้าให้พูดก็คงบอกได้ว่าส่วนตัวแล้ว หนังไม่ได้ตรึงใจเท่าภาค 3 แต่เป็นเหมือนฉากโบนัสขนาดยาวที่มาเติมเต็มความสุขให้กับแฟน ๆ ของพวกเขาโดยเฉพาะ อย่างที่บอกว่า การจบด้วยน้ำตาไม่เหมาะกับหนังที่มอบความสุขให้ทุกคนแบบ Toy Story หรอกนะ

 

สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของแฟรนไชส์นี้และใน toy story 4 imdb ด้วย ก็คือ คอนเซ็ปต์เนื้อเรื่อง ภาคแรกคือของเล่นใหม่ ภาคสองคือของเล่นพัง ภาคสามคือเจ้าของโตเลิกเล่น ภาคนี้ภาคที่สี่มีแกนเรื่องเป็นของเล่นที่ไม่เป็นที่ต้องการ คล้ายๆ กับของภาคสาม แค่ขยายความออกมา

 

สรุปการรีวิว toy story 4 

มีการสื่ออารมณ์ผ่านตัวละครในหลาย ๆ รูปแบบ ตัวละครมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง มีการดำเนินเนื้อเรื่องในเเต่ละตัวละครนั้น ๆ ทำให้ทุกตัวละครภายในเรื่องมีความน่าสนใจ และ น่าติดตามเป็นอย่างมากครับ มีการใส่มุกตลกเป็นบางฉาก ทำให้ไม่น่าเบื่อดูจนลืมเวลาไปเลยที่เดียว พูดตรง ๆ เลยว่าค่าย pixar movie มีลูกเล่นในการดึงอารมณ์ และ ความรู้สึกผ่านตัวการ์ตูนของพวกเขาได้ดีเลยครับ ทั้งเรื่องราวความรู้สึก มิตรภาพของเพื่อน การบอกลา และ ความฝันที่อยากให้เป็นจริง มีอะไรมากมาย ในอนิเมชั่นเรื่องนี้ ขอเเนะนำสำหรับ Toy Story 4 ” ทอย สตอรี่ 4 ” อนิเมชั่นที่คุณไม่ควรพลาด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *