รีวิว Trese Netflix
Trese Netflix รีวิว เตรเซ ฆาตกรเงา อนิเมชั่นแนว แอ็กชั่นแฟนตาซีทริลเลอร์สายดาร์กจากฟิลิปปินส์ แนวสืบสวนผสมกับดำมืดเหนือธรรมชาติ เรต 18+ โหดเลือดสาด จิกกัดสังคมแบบถึงแก่น
อนิเมชั่นจะเล่าเรื่องราวของ อเล็กซานดร้า เตรเซ ผู้รับสืบทอดพลังมาจากครอบครัวที่จะต้องใช้พลังของเธอเพื่อสืบหาฆาตกรและต่อสู้กับความชั่วร้ายในเมืองมะนิลาที่อีกด้านหนึ่งเต็มไปด้วยเหล่าภูติผีปีศาจเร้นลับ
เป็นผลงานแนว Original Netflix อนิเมชั่นความยาว 6 ตอนจบ ตอนละ 30 กว่านาที มีพากย์ไทย สามารถรับชมได้เลยทาง Netflix
เถ้าเจองานเหนือธรรมชาติเมื่อไหร่ ตำรวจเรียกหา อเล็กซานดรา เตรเซ ได้ทันที ด้วยฉากหลังในกรุงมะนิลาจะพาคุณไปพบกับตำนานสยองขวัญฉบับฟิลิปปินส์อย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน
ต้องบอกว่าส่วนตัวไม่ได้นิยมแอนิเมชันสไตล์อเมริกันนัก จึงออกอาการอคติล่วงหน้าตั้งแต่ดูตัวอย่าง ทว่าเมื่อดูซีรีส์จริงต้องบอกว่าเกินความคาดหมายไปหลายอย่าง และทำให้เกิดอารมณ์สองอย่างที่ขนานกันไประหว่างดู คืออดชื่นชมในความพิถีพิถันทางความคิดของชาวฟิลิปปินส์ที่ถ่ายทอดเรื่องนี้ออกมาไม่ได้ กับอีกความรู้สึกคือเทียบกับไทยแล้วเราก็ไม่ได้มีอะไรด้อยกว่าเลย เป็นความรู้สึกเสียดายแทนโอกาสของยอดฝีมือในประเทศเราไปพร้อม ๆ กัน
‘Trese’ เป็นผลงานที่ได้ต้นธารความคิดที่ดีมาตั้งแต่ต้น เพราะดัดแปลงจาก komik ที่เป็นชื่อเฉพาะของคอมิกจากฟิลิปปินส์ที่ได้รางวัลหนังสือระดับชาติมาหลายปี จากผลงานการแต่งเรื่องของ บัดเจต แทน (Budjette Tan) และวาดโดย คาโจ บัลดิซิโม (Kajo Baldisimo) จนมากลายเป็นผลงานแอนิเมชันสไตล์ตะวันตกด้วยฝีมือการปรุงของ เจย์ โอลิวา (Jay Oliva) ผู้กำกับเชื้อชาติฟิลิปปินส์-อเมริกัน ที่มีผลงานเบื้องหลังในส่วนงานศิลป์ของแอนิเมชันดังหลายเรื่องทั้งฝั่งค่ายมาร์เวลและค่ายดีซี รวมถึงเคยมีผลงานกำกับแอนิเมชันในซีรีส์ ‘ฺBatman’ มาหลายเรื่อง โดยล่าสุดกำลังจะมีผลงานคือสปินออฟหนัง ‘Army of the Dead’ ฉบับแอนิเมชันที่ชื่อ ‘Army of the Dead: Lost Vegas’ ที่จะลงเน็ตฟลิกซ์ในปีนี้ด้วยเช่นกัน เรียกว่าการรันตีฝีมือไม่ไก่กาแน่นอน
รีวิว Trese Netflix เรื่องย่อ
เรื่องราวของ อเล็กซานดร้า เตรเซ เด็กสาวผู้มีพลังพิเศษที่ได้รับตำแหน่ง ลาคาน ต่อจาก อันโต พ่อของเธอ ซึ่งตำแหน่งนี้ก็คือผู้ที่ทำสนธิสัญญาความสงบระหว่างมนุษย์กับยมโลก ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าผู้มีชีวิตอยู่ในโลกมืดทั้งหลายและต้องคอยควบคุมดูแลความสงบนั้น
สำหรับภารกิจแต่ละวันของเธอคือการร่วมมือกับผู้กอง เกรเรโร ตำรวจของมะนิลาในการมาสืบคดีที่เกี่ยวข้องกับปริศนาลี้ลับ ภูตผีปีศาจ ที่มนุษย์ธรรมดาไม่สามารถต่อกรได้ อีกทั้งเมืองมะนิลาในเรื่องนี้ ยังเป็นเมืองที่มีพวกปีศาจใช้ชีวิตแอบแฝงตัวในสังคมจนแทบจะเป็นเรื่องปกติ มีทั้งการตั้งกลุ่มแก๊งค์อิทธิพลต่างๆ มีการเจรจาหาผลประโยชน์ ไม่แตกต่างจากเหล่ามนุษย์
สำหรับต้นฉบับของเรื่อง มาจากคอมิคในชื่อเดียวกัน เป็นผลงานของ Budjette Tan และ Kajo Baldisimo สองนักเขียนแนวแฟนตาซีทริลเลอร์สไตล์ฟิล์มนัวร์
เตรเซ จัดว่าเป็นอนิเมชั่นระดับน้ำดีจากประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งคนไทยเราอาจจะไม่ค่อยได้รู้จักผลงานจากชาตินี้เท่าไหร่ แต่ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้สร้างออกมาได้ในระดับที่ดีพอสมควรและทำได้เหนือกว่าอนิเมชั่นเกรดแย่ๆ จากญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาหลายเรื่องด้วยซ้ำ โดยเฉพาะในด้านเนื้อหาที่เต็มไปด้วยการจิกกัดสังคมของฟิลิปปินส์ภายใต้ตัวเรื่องราวที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแบบดาร์กแฟนตาซี Horror คล้ายกับเรากำลังดูภาพยนตร์ฟิล์มนัวร์ดีๆ สักเรื่อง แล้วในเรื่องราวยังมักมีการอ้างอิงถึงเทพเจ้าและปีศาจในความเชื่อท้องถิ่นของคนฟิลิปปินส์ เช่น อีบุ เทพีแห่งความตายที่ดูแลเหล่าวิญญาณ และ ตาลักบูซา เทพเจ้าสงครามกระหายเลือด เป็นต้น
นอกจากนี้ในภาพรวมของอนิเมชั่นก็เต็มไปด้วยการจิกกัดนักการเมืองของฟิลิปปินส์อย่างตรงๆ โดยเฉพาะการที่นักการเมืองชอบซุกงำปัญหาเอาไว้ และยังเอาปัญหาเหล่านั้นมาใช้ประโยชน์ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง แล้วหากจะกล่าวตามตรง บรรดาปีศาจในเรื่องก็แทบจะไม่ต่างอะไรจากนักการเมือง เจ้าพ่อมาเฟีย กลุ่มอิทธิพล โจรผู้ร้าย ซึ่งในเรื่องก็จะมีการสื่อสารว่า ที่จริงแล้วสิ่งที่ชั่วร้ายยิ่งกว่าปีศาจอาจจะเป็นมนุษย์ที่อยู่ในสังคมเรานี่เอง
สำหรับการเดินเรื่องอาจจะเป็นส่วนที่ดูยากเล็กน้อย เพราะเรื่องเดินเรื่องเร็ว ฉับไวมาก แล้วเปิดมาก็แทบจะไม่อธิบายอะไรเลยในตอนแรก สำหรับบทแนะนำตัวละครเองอย่างเตรเซ รวมถึงตัวละครอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นเทพ วิญญาณ และผู้ช่วยของเตรเซ ก็ไม่ได้มีการแนะนำอะไรมากมาย คือมาถึงเตรเซก็มีทีมงานผู้ช่วยที่มีพลังพิเศษในการต่อสู้แล้วลงสนามลุยกันเลย ดังนั้นช่วงแรกคนดูอาจจะงงสักหน่อย แต่หลังจากตั้งหลักได้ เรื่องจะค่อยๆ เผยให้เราเห็นคาแรคเตอร์ของแต่ละตัวละครมากขึ้น รวมถึงความสัมพันธ์และการต่อสู้ของเตรเซท่ามกลางโลกมืดที่มีทั้งปีศาจและเผ่าพันธุ์ต่างๆ ประดังเข้ามาเรื่อยๆ ส่วนที่มาของตัวละครเตรเซและคนอื่นๆ จะใช้วิธีการเล่าย้อนสลับไปมา ซึ่งการเล่าย้อนก็ทำมาให้ดูเข้าใจง่ายด้วย เพราะส่วนที่เป็นย้อนอดีตจะใช้ภาพโทนมืดแทน
ซึ่งแนวทางการเล่าเรื่องราวนี้จะมองว่าเป็นทั้งจุดเด่นและจุดด้อยในเวลาเดียวกันก็ได้ นั่นคือเรื่องแทบจะข้ามดีเทลยิบย่อยของเรื่องราวเหนือธรรมชาติที่ไร้คำอธิบายในเรื่องไปเลย แต่จะรีบพาเราเข้าสู่โลกของอนิเมชั่นเรื่องนี้ทันที ทำให้ดูแล้วไม่น่าเบื่อ แม้จะงงกับคำศัพท์และชื่อต่างๆ ในเรื่องที่คนไทยเราอาจจะไม่คุ้นอยู่บ้าง
เนื้อหาของ ‘Trese’ ว่าด้วย อเล็กซานดรา เตรเซ หญิงสาวทายาทของ ลาคาน หรือผู้ควบคุมสมดุลระหว่างมนุษย์ ปีศาจ ภูติ ผี และเทพ ที่อยู่ร่วมกันบนโลกมนุษย์ หลังจากพ่อของเธอที่เป็นลาคานคนก่อนเสียชีวิต เธอจึงต้องรับหน้าที่นี้แทน และนั่นก็ทำให้เธอเข้าไปพัวพันกับปัญหาระดับโลกที่กำลังก่อตัว เมื่อมีความพยายามจากเงามืดลึกลับที่จะทำลายข้อตกลงสันติภาพระหว่างมนุษย์และอมนุษย์ทั้งหลาย
ความรู้สึกหลังดู
ด้วยจำนวน 6 ตอนของซีรีส์ ก็ใช้ไปอย่างคุ้มค่า เพราะแม้จะเหมือนการสืบแก้ไขคดีสไตล์ฟิล์มนัวร์ที่แตกต่างกันไปแล้วจบในตอน ทั้งคดีฆาตกรรมปริศนาทั่วเมือง นักซิ่งที่ถูกเทพลักพา คนดังที่ถูกวิญญาณตามฆ่า หรือสำนักงานตำรวจที่ถูกซอมบี้คลั่งแค้นล้อมบุก ทว่าในทุก ๆ ตอนที่ดำเนินไปกลับมีคำใบ้ที่คอยเชื่อมโยงเรื่องราวปัญหาใหญ่ที่กำลังก่อตัวซึ่งถูกอ้างอิงเสมอว่าเป็น พายุที่กำลังใกล้เข้ามา ได้อย่างน่าติดตาม และเมื่อจบทั้ง 6 ตอนซีรีส์ก็ตอบทุกสิ่งที่หยอดรายละเอียดไว้ระหว่างทางได้อย่างลงตัวดีทีเดียว
แม้ดูแล้วตัวแอนิเมชันจะชวนให้นึกถึงคอมิกดังอย่าง ‘Doctor Strange’ ของฝั่งมาร์เวล และ ‘Constantine’ ของฝั่งดีซี อยู่เหมือนกัน ทว่าตัวซีรีส์ก็ใช้เอกลักษณ์แบบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะตำนานฉบับฟิลิปปินส์มาทำให้รสชาติแตกต่างจนโดดเด่นขึ้นมาได้ ไม่ว่ารูปแบบของภูติผี ปีศาจ เทพ ตลอดจนความเชื่อผสมผสานระหว่างศาสนาคริสต์ ลัทธิพื้นเมือง และพิธีคุณไสยมนต์ดำ ทว่าก็ผสมกับฉากหลังที่เป็นโลกปัจจุบันได้อย่างลงตัวดูเป็นสากลไม่หนักความเป็นฟิลิปปินส์จนคนต่างวัฒนธรรมเสพยาก เป็นจุดที่น่าเรียนรู้สำหรับผลงานที่อยากขายความเป็นไทยเหมือนกัน
จุดเด่นอีกด้านคือ CG โปรดักชั่น ที่ค่อนข้างดี เพลงประกอบมีเอกลักษณ์เฉพาะเหมือนบทสวด แต่จุดด้อยที่เห็นได้ชัดคืองานโมชั่น และงานเคลื่อนไหวที่ไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่ และลายเส้นตัวละครค่อนข้างแข็งเหมือนอนิเมชั่นจากคอมิคอเมริกัน ฉากแอ็กชั่นอยู่ในระดับกลาง คือมีความพยายามที่จะทำออกมาอลังการ แต่ก็ยังธรรมดาเกินไป
ส่วนเรตของเรื่องอยู่ในระดับ 18+ เนื่องจากเนื้อหาหนักไปทางด้านมืดของสังคมฟิลิปปินส์ มีการเล่นประเด็นค้ายา ค้ามนุษย์ หญิงบริการ การทำแท้งค์ นักการเมืองคอรัปชั่น เรียกว่าอะไรที่เป็นมมุมมืดของสังคมก็แทบจะใส่เข้ามาในเรื่องหมดเลย ดังนั้นนี่จึงเป็นอนิเมชั่นที่ไม่เหมาะสำหรับเด็กอย่างยิ่งครับ
สิ่งที่ชื่นชมมาก ๆ ตั้งแต่ชื่อรีวิวแล้วก็คือ การดีไซน์ที่คิดไตร่ตรองมาดีมาก จนโลกของเตรเซนั้นดูละเอียด สมจริง และที่สำคัญตื่นตาตื่นใจคนต่างวัฒนธรรมได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเทพแห่งสายฟ้าที่อยู่ปะปนกับมนุษย์ในตำแหน่งผู้บริหารการไฟฟ้ามะนิลา มนุษย์ลมที่ชื่นชอบการแข่งรถ ปีศาจขายข่าวสารที่มุดซอกซอนไปตามท่อระบายน้ำของเมืองและมีหัวติดกับฝาท่ออย่างกลมกลืน (นึกภาพคล้ายกัปปะที่หัวเป็นฝาท่อระบายน้ำ) เป็นต้น
ไม่ใช่เพียงดีไซน์รูปลักษณ์ที่เข้ากับพลังและบุคลิก แต่การดีไซน์ปฏิสัมพันธ์ของแต่ละตัวละครก็ยังมีความน่าสนใจไม่น้อย เช่นแก๊งนางเอกที่จะมีฝาแฝดอมนุษย์ใบหน้ายิ้มกับใบหน้าเศร้าคอยติดตาม ก็ใส่เรื่องความเป็นครอบครัวมาอย่างมีมิติ เป็นต้น คือพวกนี้มันเกินกว่าพลอตดีน่าติดตามแล้ว เพราะมันคือบทดีที่ทำให้รู้สึกเชื่อในโลกที่ไม่มีอยู่จริงได้ ซึ่งบทหนังทุกเรื่องควรทำให้ได้ก่อนจะไปคาดหวังเรื่องความดีเลิศในด้านอื่น
แม้จะชื่นชมอยู่หลายอย่าง และมองข้ามความไม่นิยมส่วนตัวต่อสไตล์แอนิเมชันฝรั่งไปได้ ทว่าก็มีหลายจุดที่ยังคงต้องติอยู่บ้างนั่นคือ ดีไซน์บางตัวละครสำคัญดูน่าจะพิถีพิถันได้มากกว่านี้ โดยเฉพาะลาสต์บอสที่ดูธรรมดาไปนิด และอีกประการคือช่วง 10 นาทีสุดท้ายของตอนจบ ก็รีบอัดเหตุผลห้วน ๆ ให้คลี่คลายปัญหาได้ไว ๆ แบบที่เราชอบแซวว่าใช้พลังมิตรภาพแบบนั้น ให้ชวนเอ๊ะอยู่เหมือนกัน แต่โดยรวมเป็นแอนิเมชันที่รู้สึกภูมิใจแทนเพื่อนร่วมโซนอย่างคนฟิลิปปินส์แทนเลย และก็รู้สึกอยากให้ไทยเอาจริงเอาจังด้านนโยบายขายวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์แบบเน้นประสิทธิผลได้เสียที
ในภาพรวมแล้ว เตรเซ เป็นอนิเมชั่นฟิลิปปินส์ในระดับชั้นดี โดยเฉพาะด้านเนื้อหา และงานโปรดักชั่น เพียงแต่ยังมีจุดด้อยในแง่ของงานอนิเมชั่นอยู่บ้าง ถึงอย่างนั้นก็น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นทีดีในการพัฒนาของอนิเมชั่นจากทางอาเซียน แล้วที่แน่ๆ คือเรื่องนี้ไปไกลกว่าอนิเมชั่นของไทยพอสมควร แถมเรื่องนี้ยังสามารถต่อยอดและขยายเรื่องราวออกไปได้อีกเยอะเลย ซึ่งหากมีซีซันสอง จะเล่าเรื่องเดินหน้าแบบสืบคดีเป็นเคสๆ ต่อ หรือจะเล่าย้อนไปช่วงเตรเซยังเป็นวัยรุ่นก็ยังได้ ซึ่งผู้รีวิวก็หวังว่าอนิเมชั่นไทยจะสามารถพัฒนาไปแบบนี้ได้บ้าง
สรุป
อนิเมชั่นน้ำดีจากฟิลิปปินส์ เรื่องของ เตรเซ หญิงสาวผู้ใช้พลังพิเศษสืบสวนคดีปริศนาที่เกี่ยวข้องกับปีศาจร้าย แต่กลับพบว่ามนุษย์อาจจะร้ายกาจกว่า โปรดักชั่นดี เนื้อหาจิกกัดสังคมมาก เรต 18+ เลือดสาด
จุดเด่น
โปรดักชั่นและงาน CG ทำได้ดี
เพลงประกอบเพราะ มีเอกลักษณ์
เนื้อหาแรง จิกกัดสังคม 18+
เล่าเรื่องสลับไปมาได้น่าติดตามดี ทุกอย่างมีที่มาที่ไปตลอด
มีพากย์ไทย ดีในระดับหนึ่ง
จุดด้อย
มีคำศัพท์เฉพาะทางเยอะมาก ต้องใช้เวลาตั้งหลัก
งานเคลื่อนไหวและดีไซน์คาแรคเตอร์ค่อนข้างแข็งไปหน่อย
ฉากแอ็กชั่นกลางๆ และง่ายไปหน่อย