รีวิว พุซ อิน บู๊ทส์

 

 

ภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง Puss in Boots (2011) พุซ อิน บู๊ทส์ เป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นแนวคอมเมดี้ ผจญภัย มิตรภาพ ผลงานการสร้างจาก ดรีมเวิร์กสแอนิเมชัน

 

โดยภาพยนตร์เรื่องนี้มีตัวละครที่น่าสนใจมากมายไม่ว่าจะเป็นพุซ อิน บู๊ทส์ เป็นเจ้าเหมียว นักสู้ นักรบ และนักรัก แถมยังเป็นเจ้าเหมียวนอกกฎหมายชื่อกระฉ่อน ที่ทางการประกาศตามจับกันให้จ้าละหวั่น ต่อมาคือคิตตี้ ซอฟท์พอว์ เป็นแมวสาวพราวเสน่ห์ ผู้แข็งแกร่งและปราดเปรียว

 

 

 

จนพุซตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น ต่อมาคือฮัมป์ตี้ ดัมป์ตี้ เจ้าไข่ ซึ่งเป็นหัวสมองของกลุ่มผู้ที่หลงใหลและตามหาถั่ววิเศษมาตลอดทั้งชีวิต

 

และตัวละครสุดท้ายที่จะมาแนะนำในวันนี้นั้นก็คือแจ็ค และจิลล เป็นสองผัวเมียจอมโจรสุดโหด ผู้ที่ค้นพบถั่ววิเศษ ภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง Puss in Boots (2011) พุซ อิน บู๊ทส์ เป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นเมื่อปี 2554

 

รีวิว พุซ อิน บู๊ทส์ เนื้อเรื่องย่อ

 

ภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง Puss in Boots (2011) พุซ อิน บู๊ทส์ เปิดเรื่องราวมาก่อนที่พุซ อิน บู๊ทส์ จะได้พบกับเชร็ค เป็นช่วงเวลาที่ พุซ เขาได้เริ่มทำการออกผจญภัยกับคิตตี้ ซอฟท์พอว์ ซึ่งเป็นแมวสาวที่ปราดเปรียว รวมถึง ฮัมป์ตี้ ดัมป์ตี้ ผู้เป็นไข่ไก่ทรงปัญญาประจำกลุ่ม ทั้ง 3 ได้วางแผนและออกตามหาถั่ววิเศษ

 

 

 

แต่ระหว่างทางก็ได้เกิดความโกลาหล เมื่อแจ๊คและจิลซึ่งเป็นสองผัวเมียจอมโจรนอกกฎหมาย ได้ทำการขัดขวางไม่ให้พุซและพวกพ้องปฏิบัติการได้สำเร็จ

 

 

รีวิว พุซ อิน บู๊ทส์

 

 

ก่อนที่ความจริงบางอย่างที่พุซไม่เคยคาดคิดมาก่อนได้เปิดเผยขึ้น รวมถึงเหตุการณ์ที่ได้นำพาให้พวกเขาต้องปกป้องทุกชีวิตในเมืองซาน ริคาร์โด ที่พวกเขาอาศัยอยู่ แล้วเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป สุดท้ายแล้วพวกเขาจะทำภารกิจสำเร็จ และปกป้องเมืองบ้านเกิดได้หรือไม่ ต้องติดตามชมทาง Netflix กับภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง Puss in Boots (2011) พุซ อิน บู๊ทส์

 

เรื่องราว ThePuss in Boots เกิดขึ้นก่อนการเปิดตัวของตัวละครใน Shrek 2 โดยมีแมวตัวยงที่ทำตัวเหมือนจอมโจรในตำนานมากกว่าและไม่เหมือนกับผู้ชมฮีโร่ในตำนานที่จะโอบกอด เขาไม่ได้เป็นคนเลวเขาไม่ได้ขโมยจากโบสถ์หรือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่ไม่มีปัญหาในการขโมยจาก baddies อื่น ๆ เพียงเพื่อยิง leche (นม) ในการค้นหาคะแนนถัดไปของเขา Puss (อันโตนิโอแบนเดอราส) ค้นพบว่า “ถั่ววิเศษ” ที่เขาค้นหาอยู่นั้นเป็นเรื่องจริง

 

ดูอนิเมะ

 

และตั้งใจจะขโมยพวกเขาจากเงื้อมมือของแจ็คกับจิลล์ (Billy Bob Thornton และ Amy Sedaris) ตามลำดับ) ในกระบวนการนี้แมวถูกขัดขวางโดย Kitty Softpaws (Salma Hayek) และรวมตัวกับเพื่อนเก่า Humpty Alexander Dumpty (Zach Galifianakis) แม้จะมีแรงจูงใจในการแข่งขันและความสัมพันธ์ที่ไม่แน่นอน แต่ทั้งสามคนก็ตัดสินใจว่าการทำงานร่วมกันเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการแสวงหาขุมทรัพย์ที่อยู่ด้านบนของต้นถั่ว ในการเดินทางไปหาถั่ววิเศษ

 

 

 

 

Puss มีความสามารถพิเศษมากพอที่จะพาดหัวหนังเรื่องนี้และน่าประหลาดใจที่ผู้สร้างภาพยนตร์ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวและแอ็คชั่นกับมุขตลกที่เน้นแมวมากเกินไป เห็นได้ชัดว่าภาพยนตร์ riffs กับความเป็นจริง Puss เป็นแมวพูดคุย แต่เรื่องราวให้พื้นที่มากมายสำหรับเขาที่จะเป็นมากกว่าการ์ตูนล้อเลียนตลก (ปัญหาที่ตัวละครด้าน Shrek จำนวนมากได้รับความทุกข์ทรมานหลังจากการทำซ้ำหลายครั้ง)

 

 

 

ทำให้เกิดตัวเอก ที่จริงแล้วมีค่าควรแก่เรื่องอาร์คสปินออก ตัวละครใหม่เช่น Kitty Softpaws และ Humpty Alexander Dumpty ยังนำเสนอช่วงเวลาสนุก ๆ ที่จะช่วยให้ Puss มีส่วนร่วมทำให้ห้องผู้ชมได้เห็นตัวละครมากกว่าดาบที่ฉูดฉาด

 

 

รีวิว พุซ อิน บู๊ทส์

 

Puss In Boots เป็นเรื่องราวก่อนที่เจ้าเหมียวน้อย พุซ จะได้เจอกับเจ้ายักษ์เขียวเชร็ค

ซึ่งเรื่องราวนี้จะเป็นตำนานของ พุซ และ รองเท้าบู๊ทส์คู่นั้น เรื่องราวเกิดขึ้นในสมัยที่ พุซ เจ้าแมวเหมียวจอมซ่าส์ที่ยังมีนามว่า เจ้าหัวขโมยแห่งยุค ที่เขาและเพื่อนไข่อย่าง ฮัมป์ดี้ ดัมป์ดี้ คิดจะค้นหาถั่ววิเศษเพื่อนำไปปลูกและไปขโมยไข่ห่านทองคำมาเมื่อนานมาแล้ว

เว็บดูอนิเมะ

 

 

ร่วมด้วยเจ้าเหมียวสาวอย่าง คิตตี้ ซอฟท์พอว์ ซึ่งวันหนึ่ง พวกเขาก็ได้ข่าวว่า ถั่ววิเศษ เหล่านั้นได้อยู่ในมือของหัวขโมยร่างยักษ์อย่าง แจ็ค และ จิล ทำให้พวกเขาต้องทำการโจรกรรมถั่ววิเศษครั้งใหญ่ เพื่อที่มันจะได้ไม่ตกอยู่ในมือของคนชั่วอย่าง แจ็คและจิลล์

 

Puss In Boots กำกับการแสดงโดยผุ้กำกับ คริส มิลเลอร์ หลังจากเคยจับงานอนิเมชั่นเกี่ยวกับเจ้าพุซตัวนี้มาแล้วครั้งนึงใน Shrek The Third ซึ่งหลังจากเจ้ายักษ์เขียวภาคนี้ออกฉาย ก็ได้รับคำวิจารณ์ว่าเป็นยักษ์เขียวภาคที่แย่ที่สุด เพราะฉะนั้น การที่ค่าย Dreamwork ให้เขาแก้ตัวอีกครั้ง จึงเป็นโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ และพอหลังจากที่ได้ดู Puss In Boots ก็ต้องบอกได้เลยว่า ผู้กำกับมีความพัฒนาอยู่ในขั้นที่น่าประทับใจมาก เพราะสิ่งแรกที่โดดเด่นที่สุดใน Puss In Boots เลยคือด้านของฉากแอ็คชั่น และ ผจญภัย ที่เรียกได้ว่าด้วยสกอร์หนังของ เฮนรี่ แจ็คแมน พร้อมกับสไตล์ฉากแอ็คชั่นของผู้กำกับ (ใครนึกไม่ออกลองดูใน Shrek The Third) จึงทำให้ 2 สิ่งนี้รวมกันมาแล้วต้องเรียกได้ว่า สมบูรณ์แบบ และ สนุกแบบเกินความคาดหมายได้เลยจริงๆครับ

รีวิว พุซ อิน บู๊ทส์

เพราะฉากผจญภัย แอ็คชั่นเหล่านั้น เต็มไปด้วยฉากฟันดาบ และ ไล่ล่า สไตล์มันส์ๆ ฮาๆ ในรูปแบบอนิเมชั่น ที่ต้องเรียกได้ว่า ผู้กำกับสามารถเลือกใส่ช่วงอารมณ์ขัน และ อารมณ์ผจญภัย ของหนังได้ลงตัว และ เหมาะสม พร้อมแฝงไปด้วยประเด็นข้อคิดมากมาย โดยเฉพาะด้านของ ความดี ความชั่ว ที่ถึงแม้หลังๆนั้นค่าย Dreamwork จะใช้ประเด็นเรื่องนี้บ่อยแล้ว (เฉกเช่นประเด็นความดี ความชั่ว ในเรื่อง Megamind) แต่สำหรับใน Puss In Boots ต้องเรียกได้ว่า มันเป็นการ์ตูน ที่สามารถเล่าเรื่องประเด็นเหล่านั้นออกมาได้ลึกซึ้ง และ น่าประทับใจ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องราวของพวก ปิดทองหลังพระ ครับ

 

ความรู้สึกหลังดูจบ

 

 

 

รีวิวการ์ตูน

สรุปแล้ว Puss In Boots ถือได้ว่าเป็นอนิเมชั่นที่สร้างออกมาได้เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะผู้ใหญ่หรือเด็ก ก็สามารถสนุกสนาน และ ฮา ไปกับอนิเมชั่นเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน พร้อมไปด้วยข้อคิดของหนัง ที่สามารถนำไปใช้ได้กับเด็กและผู้ใหญ่ เพียงแต่ว่าหนังยังไม่ค่อยหนักแน่นด้านความเป็นรองเท้าบู๊ทส์มากนักครับ

 

 

ความประทับใจหลังดูภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง Puss in Boots (2011) พุซ อิน บู๊ทส์

ภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องนี้เรียกได้ว่าสนุกครบรส มีทั้งเรื่องราวความฮา การผจญภัย เพื่อตามหาไข่ทองคำ โดยมีต้นถั่วยักษ์อยู่ในเรื่อง นอกจากนี้เรายังจะได้เห็นมุมมองเรื่องของเพื่อนอย่าง พุซ และเจ้าไข่ ที่เป็นทั้งเพื่อนรักและเพื่อนแค้น ทำให้เราทำได้รับรู้ถึงความรักและมิตรภาพ ทั้งแบบ คู่รัก เพื่อน พี่น้อง ในเรื่องเดียว เพราะฉะนั้นจึงขอแนะนำเลยค่ะว่าหากใครที่กำลังอยากหาอนิเมชั่นดีๆดูสักเรื่อง ก็ต้องเป็นเรื่อง Puss in Boots (2011) พุซ อิน บู๊ทส์ เลยรับรองไม่สนุกไม่ผิดหวังแน่นอน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *