รีวิว – อะนิเมะ Bubble

 

Bubble บับเบิ้ล ผลงานอนิเมะ Netflix ที่คุณภาพของงานด้านภาพสูงมากในกลุ่มสตรีมมิ่ง และทำลงโรงฉายด้วยเช่นกัน เรื่องราวเกี่ยวกับความรักวัยรุ่นในโลกแฟนตาซีไซไฟที่มีฉากหลังเป็นโตเกียวที่จมอยู่ในฟองสบู่ขนาดยักษ์

 

Bubble คือภาพยนตร์อนิเมะเรื่องล่าสุดจาก WIT Studio ที่ได้รับเลือกให้เข้าฉายในงาน The 72nd Berlin International Film Festival โดยได้ เท็ตสึโระ อารากิ จากอนิเมะยอดฮิตอย่าง Attack on Titan Season 1-3 มานั่งแท่นผู้กำกับ

 

 

 

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อจู่ๆ ได้มีฟองสบู่ปริศนาตกลงมายังโตเกียวและทำให้แรงโน้มถ่วงของเมืองเริ่มแปรปรวน จนส่งผลให้โตเกียวกลายเป็นเมืองร้างที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก และเปลี่ยนเป็นสนามแข่งขันปาร์กัวร์ หรือการแข่งวิ่ง Free Running ของเหล่าวัยรุ่นที่แอบลักลอบเข้ามาในเมือง

 

 

 

วันหนึ่ง ฮิบิกิ หนึ่งในสมาชิกทีมบลูเบลซที่มีสกิลการปีนป่ายอันโดดเด่น ดันพลัดตกลงไปในทะเลที่แรงโน้มถ่วงบิดโค้ง แต่เขาก็ได้ อูตะ หญิงสาวปริศนาช่วยชีวิตเอาไว้ ฮิบิกิจึงพาอูตะมาเข้าร่วมทีมของตัวเอง และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่จะพาฮิบิกิและผองเพื่อนต้องไปพัวพันกับเหตุการณ์ปริศนา

 

รีวิว - อะนิเมะ Bubble

เรื่องย่อ รีวิว – อะนิเมะ Bubble

เรื่องราวเกิดขึ้นในโตเกียวหลังจากบับเบิ้ลที่ทำลายกฎแรงโน้มถ่วงตกลงมาบนพื้นโลก เมืองทั้งเมืองตัดขาดจากโลกภายนอกและกลายเป็นสนามเด็กเล่นของกลุ่มวัยรุ่นที่สูญเสียครอบครัว รวมทั้งกลายมาเป็นสนามแบทเทิลของทีมปากัวร์ที่กระโดดแข่งกันไปตามตึกต่างๆ วันหนึ่ง ฮิบิกิ เซียนมือฉมังที่เป็นที่เลื่องลือเรื่องสไตล์การเล่นแสนอันตรายทำท่าบ้าบิ่นจนตกลงมาในทะเลที่แปรเปลี่ยนแรงโน้มถ่วงได้ อุตะ เด็กสาวที่มีพลังลึกลับช่วยชีวิตเขาไว้ จากนั้นทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงประหลาดที่คนอื่นไม่ได้ยิน ทำไมจู่ๆ ยูตะจึงโผล่มาเจอฮิบิกิ การพบกันครั้งนี้จะนำไปสู่การค้นพบที่จะเปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล

 

อนิเมะงานสร้างระดับลงฉายทางโรงภาพยนต์จากสตูดิโอ WIT ที่มีผลงานล่าสุด Attack on Titan: Chronicle ร่วมกับผู้กำกับ เท็ตสึโระ อารากิ ที่กำกับไตตันฉบับโรงมาเช่นกัน เรื่องนี้คือทำฉายบน Netflix โดยตรงก่อนแล้วค่อยฉายโรงที่ญี่ปุ่นในเดือนพฤษภาคมภายหลัง ด้วยเรื่องราวที่เกี่ยวกับโตเกียวถูกน้ำท่วมทำให้อดคิดถึงผลงานของ มาโกโตะ ชิงไก ใน Weathering With You ฤดูฝัน ฉันมีเธอ ไม่ได้เลยจริงๆ มันดูคล้ายกันมาก แม้สูตรสำเร็จอเนิเมะญี่ปุ่นจะมาแนวๆ นี้กันหมดว่าด้วยหนุ่มสาววัยรุ่นมาพบเจอกันโดยมีพลังพิเศษมาเกี่ยวข้อง แต่ก็ต้องบอกว่าเมื่อเทียบกันแล้วงานของมาโกโตะ ซิงไก บทมันละเมียดละไมล้ำลึกกว่ามาก ซึ่งเรื่องนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คนจะอินหรือไม่อินได้เลย

 

รีวิวการ์ตูน

สำหรับคออนิเมะที่เคยชม Attack on Titan Season 1-3 ที่ผลิตโดย WIT Studio มาก่อน เชื่อว่าทุกคนน่าประทับใจกับฉากแอ็กชันของเหล่าหน่วยสำรวจที่ผสมผสานงานภาพ 2D และ 3D เข้ากับมุมกล้องเท่ๆ ออกมาได้อย่างตื่นตาตื่นใจ

 

ซึ่งองค์ประกอบข้อหนึ่งที่เสริมให้งานภาพของ Bubble มีมิติมากๆ คือแสงและเงาที่ช่วยขับเน้นให้รายละเอียดต่างๆ งดงามยิ่งขึ้น ทั้งแสงที่สะท้อนผ่านฟองสบู่ที่ลอยอยู่บนอากาศ และแสงเงาที่ทำให้ท้องฟ้าและทะเลภายในเรื่องมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าเดิม

 

 

 

อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่เราชื่นชอบมากๆ คือดนตรีประกอบจากปลายปากกาของ ฮิโรยูกิ ซาวาโนะ ที่ใช้เสียงดนตรีในการพาผู้ชมเข้าสู่โลกเหนือจินตนาการ และยังช่วยขับเน้นให้ความงดงามของงานภาพมีมนตร์เสน่ห์มากขึ้นอีกด้วย

 

สำหรับผลงานครั้งนี้ ทาง WIT Studio ก็ยังคงสร้างสรรค์ฉากแอ็กชันสุดผาดโผนออกมาได้โดดเด่นไม่แพ้กัน ทั้งฉากการแข่งขัน Free Running ของฮิบิกิและผองเพื่อนที่กระโดดข้ามตึกร้างและสิ่งกีดขวางต่างๆ โดยมีฉากหลังเป็นทิวทัศน์ของเมืองโตเกียวที่ล่มสลาย

 

รีวิว - อะนิเมะ Bubble

ตัวละคร 

 

ตัวละครหลัก

 

ฮิบิกิ: เด็กหนุ่มผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ฟองสบู่ที่ใจกลางกรุงโตเกียว มีพรสวรรค์ในการเล่นปาร์กัวเขาชอบใส่หูฟังตลอดเวลาเนื่องจากอาการไวต่อเสียง

 

อุตะ: เด็กสาวที่มีพลังลักลับที่จะชี้ชะตาชีวิตในกรุงโตเกียวซึ่งถูกทิ้งร้าง

 

 

 

ตัวละครของบับเบิ้ลคือ ฮิบิกิ กับ อุตะ ที่ฝ่ายพระเอกคือเด็กหนุ่มผู้หลีกหนีปัญหาภายนอกรวมถึงเสียงดังต่างๆ ในเมืองที่รบกวนเขามาอยู่ในโลกบับเบิ้ลของโตเกียวที่ถูกน้ำท่วมกับมีแรงโน้มถ่วงที่ผิดปกติ ที่ซึ่งเขากลายเป็นเทพปากัวร์ (ฟรีรันนิ่ง)

 

ที่ช่วยทีมทำให้ชนะการเดิมพันด้วยของใช้ในชีวิตประจำวันกับทีมอื่นมาตลอด ซึ่งคนที่อยู่ในนี้ล้วนแล้วแต่เป็นพวกเด็กวัยรุ่นหนีปัญหามามาใช้ชีวิตอิสระที่นี่ทั้งนั้น

 

ส่วน อุตะ คือสาวน้อยที่เกิดจากบับเบิ้ล ที่หลงรักฮิบิกิแต่แรกเจอ แล้วก็พยายามช่วยเขาจากอุบัติเหตุจนกลายมาเป็นสมาชิกในทีมที่มีฝีมืออีกคน แต่เธอก็เป็นตัวละครไขความลับปริศนาต่างๆ ของเรื่อง ในเวลาต่อมา ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับ อามาโนะ ฮินะ ใน Weathering With You แต่ระดับความลึกของเรื่องต่างกันราวฟ้ากับเหว

 

เพราะบับเบิ้ลสร้างโลกขึ้นมาใหม่แบบมีแต่ปริศนาที่ไม่ได้คิดจะเก็บรายละเอียดอธิบายอะไรเลยให้เป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่าง พระเอกไปฝึกจากที่ไหนมา จู่ๆ เปิดมาก็เก่งเลยโดยไม่มีย้อนความใดๆ เกี่ยวกับปาร์กัวทั้งสิ้น

 

การใช้ชีวิตในเรื่องว่าแต่ละคนไปเอาของใช้มาจากไหนก็ไม่มีบอก (เมืองน้ำท่วมพังเสียหายหมด) มีแค่เลี้ยงไก่ไว้กินไข่ให้ดู ทีมตัวร้ายปาร์กัวใส่หน้ากากเป็นใครมาจากไหนยังไง ทำไมมีรองเท้าพิเศษกว่าคนอื่นก็ไม่มีรายละเอียดเลย หรือแม้แต่หัวใจหลักของเรื่องบับเบิ้ลมาจากไหน

 

มันคืออะไร ในเรื่องพยายามเล่าแบบอ้อมๆ ว่าทุกอย่างเป็นวัฎจักรก้นหอยเหมือนจักรวาลต้องมาหลอมรวมกัน แต่มันก็ไม่ได้สื่อหรือให้คำตอบอะไรเลยว่าบับเบิ้ลตกลงมาทำไม ที่โตเกียวทำไมมีบับเบิ้ลขังไว้ คือเรื่องแทบจะให้คนดูใช้จินตนาการคิดเอาเองทั้งหมด

 

ซึ่งบอกตรงๆ ว่ามันไม่เวิร์คเลยกับการใส่เรื่องมาหลวมๆ แล้วโยนให้คนดูไปคิดเอาเองทั้งหมดแบบนี้ คือถ้าต้องตีความมันก็ควรมีหลักการอะไรยึดโยงให้เห็นบ้าง ในเรื่องนี่เหมือนแค่อยากเล่าเรื่องรักวัยรุ่นแฟนตาซีแล้วก็เลยใส่แบ็คกราวด์แนวไซไฟหลวมๆ เข้ามาให้ได้ขายงานภาพที่น่าตื่นเต้นเท่านั้นเองจริงๆ

 

ความหลวมของบทนอกจากดีเทลรายละเอียดที่มาต่างๆ แล้ว เรื่องรักก็อ่อนยวบพอกัน ขนาดว่านางเอกเห็นพระเอกปุ๊บรักเลย เป็นรักแรกพบจากฟองสบู่กลายร่างเป็นคนได้ก็ไม่มีอธิบายอะไร เอากันง่ายๆ แบบนั้นเลย แล้วก็พยายามทำให้เรื่องดูมีอุปสรรคซึ้งๆ อย่างนางเอกไม่สามารถแตะตัวพระเอกได้เพราะฟองจะแตกตรงส่วนที่สัมผัสกัน ซึ่งก็ไม่ค่อยเมคเซนส์เท่าไหร่ขัดกับเหตุการณ์ในเรื่องตั้งแต่แรกที่ช่วยพระเอกขึ้นจากน้ำ คือเขียนบทตรงนี้มาเพื่อบิ้วให้มีดราม่าล้วนๆ ชวนให้คนอินเต็มที่ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้อินหรือซึ้งไปกับเรื่องราวได้สักเท่าไหร่ อาจจะมีนิดๆ บ้างในตอนจบของเรื่องที่มาตามสูตรดราม่าเศร้าๆ สไตล์ญี่ปุ่นที่คนดูคงรู้อยู่แล้วว่าจะจบแบบนี้

 

จริงๆ เหตุผลที่ตัวบทอ่อนยวบยาบขนาดนั้นคาดว่าอาจจะเป็นเพราะความตั้งใจของผู้สร้างอยากขายแต่แนวภาพสวยล้ำมาแต่แรกก็ได้ ซึ่งยอมรับจริงๆ ว่างานภาพในเรื่องนี้สวยสุดๆ จากองค์ประกอบที่สร้างมาให้เล่นตรงนี้โดยตรง จากสีสันหลากหลายของฟองสบู่ที่ลอยประดับฉากอยู่ตลอดเรื่อง ฉากโตเกียวพังทลายใต้น้ำท่วม  แรงดึงดูดที่ผิดปกติทำให้ซากสิ่งของลอยค้างอยู่บนอากาศ

 

ช่วยให้การเล่นปาร์กัวผ่านซากปรักพังร่วมกับการจั๊มบนฟองสบู่เป็นจุดขายหลักของเรื่อง ผ่านภาพลื่นไหลตามไปยังจุดหวาดเสียวต่างๆ อย่างน่าตื่นเต้น โดยตัวเอกทั้งคู่ต่างก็มีฝีมือเหนือกว่าคู่แข่งแบบโชว์กันอยู่สองคนแทบจะทั้งเรื่องไปเลย ไม่ต้องขายบทลุ้นอะไรกับคู่แข่ง เน้นให้ดูสกิลเทพสองคนนี้ล้วนๆ ซึ่งก็โอเคเพลินดีกับฉากอนิเมชั่นที่ลื่นไหลได้คุณภาพสูงมากขนาดนี้

 

ดูอนิเมะ

 

นอกจากนี้งานภาพยังเน้นที่ตัวนางเอกแบบบรรจงสุดๆ อย่างเห็นชัดโดดมาจากตัวละครอื่นทั้งหมดไปเลย ซึ่งเข้าใจแหละว่าแนวอนิเมะตัวละครสาวน้อยน่ารักคือจุดขาย ซึ่งก็ตอบโจทย์เลยเพราะดีไซน์คาแรกเตอร์ เครื่องแต่งกาย นิสัยบ๊องๆ น่ารัก คือสูตรสำเร็จแฟนอนิเมะตรงๆ เลย แล้วยังเน้นความปราณีตในลายเส้นความคมพื้นผิวเวลาโคลสอัพให้ละเอียดชัดสุดๆ เหมือนนางเอกเป็นตัวละคร 4k อยู่คนเดียวทั้งเรื่องแบบนั้นได้เลย

 

นอกจากภาพแล้วตัวเรื่องยังใช้เสียงดนตรีมาเป็นเนื้อหาหลักร่วมบอกเล่าไปพร้อมกับภาพด้วย โดยในเรื่องตัวเอกทั้งคู่จะได้ยินเสียงเพลงลึกลับกันอยู่สองคน ซึ่งก็เป็นเสียงก้องกังวาลใสๆ ฟังแล้วไพเราะอารมณ์ลึกลับเข้ากับเรื่องดี ในเรื่องยังมีเพลงประกอบเพราะๆ จาก ฮิโรยูกิ ซาวาโนะ นักแต่งเพลงประกอบชื่อดังร่วมอยู่ด้วย

 

ภาพสวยมากก งานคุณภาพเต็ม10 ไม่หักเก็บดูเเล้วรู้เลยว่าเก็บดีเทลรายละเอียดดีมาก ภาพประกอบสวยเว่อร์ นอกจากเอกลักษณ์เรื่องงานภาพเเล้วก็คงไม่พูดถึงเพลงประกอบไม่ได้คือดึงดูดใจตั้งเเต่ทีเซอร์เเล้ว เพลงดีมากก ซาวด์ประกอบคือจึ้งฟังเเล้วเหมือนติดอยู่ในภวังค์โลกเเห่งจินตนาการหรือความฝันอะไรเเบบนั้นเลยอ่ะ สมกับเป็นหมวดเเฟนตาซี! เสียงพากย์ก็ว่าเขาไม่ได้นะ เสียงพวกตัวหลักจะเป็นโมโนโทนเเนวนิ่งๆนิ่มๆเเต่ไม่น่าเบื่อก็เข้ากับบุคลิกตัวหลักเเถมฟังเเล้วรู้สึกสงบดี(เราดูพากย์ญี่ปุ่นซับไทย)

 

ที่สุดก็คือการเล่นปาร์กัวผ่านซากสิ่งของลอยค้างอยู่บนอากาศร่วมกับการจั๊มบนฟองสบู่คือสมู๊ดมากดูเเล้วลื่นไหลเคลื่อนไหวแบบอิสระสุดๆเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดขายของเรื่องจุดขายของเรื่องเลย ส่วนตัวชอบฉากที่พระเอกกับนางเอกตอนซ้อมก่อนเเข่งคือตอนที่วิ่งกระโดดผ่านซากสิ่งของลอยค้างอยู่บนอากาศมันดูอิสระมากพระเอกก็ดูผ่อนคลายเเล้วก็เป็นตัวของตัวเองมากขึ้นทำสิ่งที่ถนัดกับคนที่ชอบทุกอย่างคือลงตัวมาก

 

ในส่วนของเนื้อเรื่องก็ถือว่าดีเลยเลยเเต่อาจจะมีบางจุดของเรื่องที่ดูไม่ค่อยเมคเซนท์เท่าไหร่เเบบฟองสบู่มาโลกทำไม ทำไมในฟองสบู่เเรงโน้มถ่วงน้อยอะไรเเบบนั้น+นางเอกสัมผัสตัวกับคนอื่นไม่ได้(ไม่สปอยล์ดีกว่าอิอิ) ด้วยความที่บทปูไปทางดราม่า

 

 

อย่างไรก็ตาม ภายใต้งานภาพที่งดงามและดนตรีประกอบชวนหลงใหล Bubble กลับมีจุดด้อยสำคัญในแง่ของเนื้อเรื่องที่คลุมเครือ และเรื่องราวของตัวละครที่ไร้มิติ

 

รีวิว - อะนิเมะ Bubble

 

กล่าวคือ แม้ว่า Bubble จะมีฉากเปิดเรื่องที่สะดุดตาและปมปัญหาที่ชวนให้เราอยากหาคำตอบ แต่เมื่อเรื่องราวของฮิบิกิและอูตะดำเนินไปถึงจุดหนึ่ง ภาพยนตร์กลับไม่ได้หยิบประเด็นที่ถูกปูเอาไว้ช่วงต้นเรื่องมาขยายเพิ่มเติม เช่น การแข่งขันปาร์กัวร์มีความสำคัญอย่างไรต่อการดำเนินชีวิตของเหล่าเด็กกำพร้า หรือสาเหตุที่แท้จริงของปรากฏการณ์ฟองสบู่ที่ไม่ได้อธิบายให้เราเข้าใจอย่างชัดเจน

 

 

 

นอกจากประเด็นต่างๆ ที่ถูกเล่าออกมาอย่างคลุมเครือแล้ว เรื่องราวของตัวละครแต่ละตัวก็ถูกนำเสนอให้เรารู้จักเพียงผิวเผินเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของสมาชิกทีมบลูเบลซที่ไม่ได้มีการปูเบื้องหลังตัวละครให้เราได้รู้จักมากนัก โดยเฉพาะบทบาทของ มาโกโตะ นักวิทยาศาสตร์สาวที่ดูเหมือนว่ากำลังทำการทดลองเพื่อตามหาความจริงบางอย่าง แต่ภาพยนตร์กลับไม่ได้ขยายเรื่องราวของมาโกโตะมากไปกว่านั้น

 

ไปจนถึงความสัมพันธ์ของสองตัวละครหลักอย่างฮิบิกิและอูตะที่ดูจะเรียบง่ายเกินไป จนไม่ทำให้เราอยากติดตามและเอาใจช่วยให้พวกเขาข้ามผ่านปมปัญหาอย่างที่ควรจะเป็น

 

ในภาพรวมแล้ว Bubble ถือเป็นภาพยนตร์อนิเมะจากฝีมือของ WIT Studio ที่โดดเด่นมากๆ ในแง่ของงานภาพและดนตรีประกอบที่ถูกสร้างสรรค์ออกมาได้อย่างตื่นตาตื่นใจและชักชวนให้หลงใหลไปกับโลกที่พวกเขาสร้างขึ้น แต่ภาพยนตร์ก็มีจุดด้อยสำคัญในแง่ของเนื้อเรื่องที่ไม่ได้ขยายประเด็นที่ถูกปูเอาไว้ให้เราเข้าใจอย่างชัดเจน รวมถึงเรื่องราวของตัวละครที่ยังขาดเสน่ห์ และไม่สามารถชักชวนให้เราอยากเอาใจช่วยพวกเขาได้มากพอ

เว็บดูอนิเมะ

 

 

สรุป

 

อนิเมะงานคุณภาพระดับลงโรงที่มาลงในเน็ตฟลิกซ์ ความงามของภาพสุดติ่ง เพลินตากับความลื่นไหลสวยงามของฟรีรันนิ่งพร้อมเพลงประกอบเพราะๆ ตัวละครนางเอกที่เก็บดีเทลรายละเอียดได้งามสุดๆ โดดเด่นเป็นหน้าตาหลักของเรื่อง แต่ตัวบทอ่อนมาก ขาดดีเทลการลงรายละเอียดในทุกเรื่อง จนเหมือนเรากำลังดูงานภาพสวยๆ ที่มีเนื้อเรื่องเป็นแค่ส่วนประกอบแปะพ่วงมาเท่านั้น

เป็นอนิเมะที่คุณภาพด้านภาพที่สูงมากจริงๆ แต่เนื้อเรื่องค่อนข้างพื้นๆ ไม่ได้สนุกหรือประทับใจมากอย่างที่คาดหวังไว้ ถือว่าดูได้ แต่ไม่ดูก็ไม่ได้พลาดอะไรไป ยิ่งถ้าไม่ได้เป็นคออนิเมะญี่ปุ่นก็ผ่านไปได้เลยครับ

 

 

จุดเด่น

 

งานภาพสวยลื่นไหลมาก

นางเอกน่ารักเก็บรายละเอียดได้งามสุดๆ

ฉากฟรีรันนิ่งล้ำๆ

ดนตรีประกอบกับเพลงเพราะ

มีเสียงพากย์ไทย

 

 

จุดด้อย

 

พล็อตหวือหวา แต่บทอ่อนมากขาดดีเทลลงลึกแทบทุกจุด

เนื้อเรื่องสูตรสำเร็จจบแบบธรรมดาตามสูตร

ฝ่ายตัวร้ายแทบไม่มีบทบาทอะไรกับเรื่องเลย

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *