รีวิว คิชิเบะ โรฮัง ไม่เคลื่อนไหว

 

 

 

 

เชื่อว่าใครที่เป็นแฟนแอนิเมชันคงไม่มีใครไม่รู้จัก โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ  ดูอนิเมะ   หรือ JoJo’s Bizarre Adventure ของอาจารย์ฮิโรฮิโกะ อารากิ ที่ฉบับแอนิเมชันสร้างโดยสตูดิโอ David Production มาแล้วถึง 5 ภาค การ์ตูนอนิเมะผู้ชาย กระทั่งล่าสุดก็ได้มีการสร้างแอนิเมชันซีรีส์ภาคแยกออกมาในชื่อ Thus Spoke Kishibe Rohan หรือภาษาไทยว่า คิชิเบะ โรฮัง ไม่เคลื่อนไหว ที่เป็นเรื่องราวของ คิชิเบะ โรฮัง หนึ่งในตัวละครที่ได้รับความนิยมมากๆ จาก JoJo’s Bizarre Adventure ภาค Diamond Is Unbreakable ที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์แปลกน่าพิศวง โดยปัจจุบันถูกสร้างออกมาแล้ว 4 ตอน และมีให้ดูฉบับพากย์ไทยทางการแล้วใน Netflix อนิเมะญี่ปุ่น

 

 

รีวิว คิชิเบะ โรฮัง ไม่เคลื่อนไหว

รีวิว คิชิเบะ โรฮัง ไม่เคลื่อนไหว ข้อมูลอนิเมะ

 

รีวิว คิชิเบะ โรฮัง ไม่เคลื่อนไหว Thus Spoke Kishibe Rohan Netflix รีวิว คิชิเบะ โรฮัง ไม่เคลื่อนไหว อนิเมะขนาดสั้น ภาคแยกของ โจโจ้ JOJO สร้างจากมังงะ 2 เล่มจบ เล่าถึงเรื่องราวของ โรฮัง นักวาดการ์ตูนที่เป็นตัวละครสำคัญในโจโจ้ภาค 4 ที่แฟนๆของโจโจ้รู้จักกันดี ซึ่งเขาจะได้ออกมาเล่าเรื่องราวแปลกประหลาดปนสยองขวัญสุดพิสดาร เหมือนได้ฟังเรื่องผีพื้นบ้านและในท้องถิ่นแปลกๆที่เขาได้ประสบพบเจอมา โดยไทม์ไลน์ของเรื่องจะอยู่ในระหว่างเหตุการณ์ภาค 4 และหลังจากนั้น

 

ที่จริงเรื่องราวภาคแยกของโรฮังในต้นฉบับมังงะมีทั้งหมด 9 ตอนสั้น แต่มีการนำมาสร้างเป็นอนิเมะเพียง 4 ตอนเท่านั้น ซึ่งแฟนๆโจโจ้สามารถรับชมอนิเมะเรื่องราวภาคแยกของโรฮังได้แล้วใน Netflix มีพากษ์ไทยด้วยอนิเมะญี่ปุ่น

 

เรื่องย่อ

สำหรับมังงะ โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ JoJo’s Bizarre Adventure เป็นผลงานของ อ.อารากิ ฮิโรฮิโกะ ซึ่งเริ่มเขียนมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1987 แล้วก็เขียนต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน รวมแล้วทั้งหมด 8 ภาค เนื้อหารวมกว่า 129 เล่ม โดยแต่ละภาคจะเปรียบเสมือนกับตัวแทนความโด่งดังของมังงะในแต่ละยุคสมัย เพราะลายเส้นและลักษณะตัวเอกและเซตติ้งในเรื่องจะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ไม่ซ้ำซาก แต่สิ่งที่โดดเด่นและเป็นที่จดจำของแฟนๆมาตลอด 30 กว่าปี ก็คือลีลาความ แอ่น จริตจะก้าน ท่วงท่าการโพสต์ ของตัวละคร แฟชั่น การแต่งตัว รวมถึง พลังแสตนด์ กับการต่อสู้ที่เน้นการใช้ไหวพริบในการประยุกต์พลังพิเศษต่างๆเพื่อแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นเป็นหลัก

 

ส่วนเรื่องย่อของ คิชิเบะ โรฮัง ไม่เคลื่อนไหว มาจากต้นฉบับมังงะที่เขียนแบบ “รายสะดวก” คือไม่มีกำหนด เป็นการเขียนในแบบตามใจฉันของ อ.อารากิ นั่นเอง โดยเป็นการนำเอาตัวละคร คิชิเบะ โรฮัง นักเขียนการ์ตูนชื่อดัง ที่ออกมาปรากฏตัวครั้งแรกใน โจโจ้ภาค 4 : เพชรแท้ไม่มีวันสลาย มาเป็นตัวเอกในเรื่อง ซึ่งเขาก็เริ่มเขียนมาตั้งแต่ปี 2013

 

 

รีวิว คิชิเบะ โรฮัง ไม่เคลื่อนไหว

 

 

ตัวละคร

สำหรับตัวละครโรฮังนั้น บรรดาแฟนๆโจโจ้จะทราบกันดีว่า โรฮังจัดว่าเป็นหนึ่งในตัวละครสุดโปรดของอ.อารากิ จนถึงขั้นกล่าวกันว่า ที่จริงแล้วโรฮังก็คือตัวละครที่อาจารย์เขียนขึ้นมาให้เป็นเสมือนร่างอวตารหรือตัวแทนของตนเองแล้วใส่เข้าไปในการ์ตูนโจโจ้นั่นเอง เรียกว่าเป็นความนึกสนุกของตัวอ.อารากิ ที่คงฝันว่าอยากจะเป็นผู้ใช้แสตนด์แล้วเข้าไปมีบทบาทกับความสัมพันธ์กับเหล่าตัวละครในเรื่องที่ตนสร้างขึ้น

 

ซึ่งตัวละครโรฮังในช่วงที่เปิดตัวมาครั้งแรกนั้น มีบทบาทเป็นกึ่งๆตัวร้ายคนหนึ่งในภาค 4 ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในภาคที่โด่งดังและสนุกที่สุดของจักรวาลโจโจ้ และภาคนี้ยังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในแง่การเดินเรื่องของโจโจ้ เพราะนี่เป็นภาคที่อ.อารากิ เลือกเซตติ้งเป็นเมืองเล็กๆที่ชื่อว่าโมริโอะ และตัวละครในเรื่องต่างก็ใช้ชีวิตประจำวันไปเรื่อยๆในเมืองนั้น ไม่ได้มีภารกิจหรือเป้าหมายที่ต้องออกเดินทางไปปราบบอสประจำภาคเหมือนที่ผ่านมา แล้วแนวทางนี้ก็ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งในภาค 8 ที่ยังคงเขียนอยู่ในปัจจุบันด้วย

 

ส่วนเนื้อหาในภาคแยกของโรฮังนี้ จะเป็นการนำเรื่องราวที่โรฮังได้พบเจอในระหว่างและหลังจากเหตุการณ์ภาค 4 มาบอกเล่าให้คนดูได้รับฟังจบเป็นตอนๆไป บางเรื่องเขาไม่ได้ไปมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรมากนัก แค่ฟังจากคนอื่นมาอีกที ส่วนบางเรื่องเขาก็เข้าไปเกี่ยวข้องโดยตรงเลยก็มี ซึ่งเนื้อหาก็ยังคงมีความเป็นโจโจ้และเสน่ห์ต่างๆในเรื่องที่ยังคงเก็บไว้เต็มเปี่ยมครับ โดยเรื่องราวทั้งหมดที่ถูกบอกเล่าจะได้อารมณ์เรื่องสั้นแนวสยองขวัญแปลกประหลาดพิสดาร ได้อารมณ์ของเรื่องสั้นแนวภูติผีสยองขวัญดั้งเดิมของญี่ปุ่น เหมือนเรากำลังดูเรื่องสั้นของ เอโดงาวะ รัมโปะ ก็ไม่ปาน

 

เกร็ดน่ารู้ : Thus Spoke ชื่อเรื่องนี้น่าจะหยิบยกมาจากหนังสือ Thus Spoke Zarathustra ของ ฟรีดิช นีชเช่ นักปรัชญาชื่อดังชาวเยอรมัน

 

รีวิว คิชิเบะ โรฮัง ไม่เคลื่อนไหว

รีวิว คิชิเบะ โรฮัง ไม่เคลื่อนไหว ความรู้สึกหลังดู

 

รีวิว คิชิเบะ โรฮัง ไม่เคลื่อนไหว เดิมที ทางสตูดิโอ David Production เคยดัดแปลงต้นฉบับมังงะโจโจ้ แล้วสร้างต่อเนื่องมาถึงภาค 5 คือสายลมทองคำ ซึ่งก็ได้รับเสียงวิจารณ์ที่ดีในแง่บวก เพราะทางค่ายสร้างออกมาได้ดี เข้าถึงความเป็นโจโจ้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ เรียกได้ว่าผูกขาดสร้างโจโจ้ต่อไปอีกยาวๆ แล้วยังเป็นการปลุกกระแสโจโจ้ให้กลับมาเป็นที่พูดถึงในญี่ปุ่นและในต่างประเทศได้ด้วย

 

 

ส่วนอนิเมะ Thus Spoke Kishibe Rohan (Kishibe Rohan Wa Ugokanai) ทางค่าย David เคยนำมาสร้างเป็นอนิเมะแบบ OVA มาก่อนแล้ว 4 ตอน โดยเริ่มสร้างตั้งแต่ปี 2017 ทยอยต่อเนื่องมา กระทั่งในปี 2021 ทาง Netflix จึงได้ซื้อทั้ง 4 ตอนมาฉายในสตรีม ความยาวแต่ละตอนประมาณ 24 นาที

 

 

 

 

สำหรับเนื้อหาโดยย่อในแต่ละตอนที่ถูกเลือกมาสร้างในอนิเมะมีดังนี้ครับ

 

การสารภาพ – โรฮัง บอกเล่าเหตุการณ์เมื่อครั้งที่เขาไปเก็บข้อมูลที่ประเทศอิตาลีเพื่อมาเขียนการ์ตูน แล้วได้เข้าไปในห้องสารภาพบาปในโบสถ์แห่งหนึ่ง แล้วเขาก็ได้บังเอิญฟังคำสารภาพบาปจากชายคนหนึ่งที่ได้บอกเล่าเหตุการณ์ชวนสยองขวัญ ซึ่งบทเฉลยของมันกลับกลายเป็นเรื่องราวที่สุดหักมุม

 

เนินมุตสึคาเบะ – โรฮัง ที่กลายเป็นคนล้มละลาย ด้วยสาเหตุสุดติงต๊องจากการกว้านซื้อภูเขาหกลูกเพียงเพื่อยับยั้งการก่อสร้างถนนเข้าไปในภูเขาที่สงสัยว่ามีผีอยู่ ซึ่งเขาต้องการหาข้อมูลเพื่อมาเขียนการ์ตูน แต่กลายเป็นโครงการก่อสร้างล้มเลิกทำให้ภูเขาไม่มีมูลค่าอะไรอีก จึงต้องมาขอเบิกเงินล่วงหน้าจาก บก. แล้วก็ได้บอกเล่าว่า เขาเจออะไรลึกลับมาจากภูเขานั้นบ้าง ซึ่งเรื่องราวจะเป็นแนวสยองขวัญสั่นประสาท คล้ายกับเรื่องสั้นแนวสยองขวัญของญี่ปุ่นในสไตล์เอโดงาวะ รัมโปะ

 

หมู่บ้านเศรษฐี – โรฮังได้ปรึกษากับ บก.หญิง เรื่องพลอตการ์ตูนที่ซื้อวิลล่ากลางป่า และต้องติดตามเธอไปยังสถานที่เป็นวิลล่ากลางป่าลึก แล้วได้พบกับเหตุการณ์แปลกประหลาดพิศวง

 

วิ่ง – ตามชื่อตอนเลย เป็นเหตุการณ์ที่โรฮังต้องเผชิญสถานการณ์เฉียดตาย เมื่อเขาไปท้าแข่งขันกับนายแบบฟิตเนสคนหนึ่งในการวิ่งบนลู่วิ่ง แล้วก็พบว่ามันกลายเป็นสถานการณ์สุดเฉียดตายที่เขามาบ่นว่าโชคดีแค่ไหนแล้วที่แค่เจ็บข้อมือและกระดูกนิ้วหักบางส่วนเท่านั้น

 

 

สำหรับเนื้อหาทั้ง 4 ตอน ในอนิเมะจะมีการดัดแปลงและเสริมเติมตัวละครจากาคหลักเข้ามาด้วย เช่น โคอิจิ ยูคาโก โอคุยาสึ สาเหตุเพราะเป็นการช่วยเติมเต็มในแง่ไทม์ไลน์ของเรื่องราวสำหรับแฟนๆโจโจ้ที่สงสัยว่า เนื้อหาในอนิเมะอยู่ในช่วงเวลาใดของภาคหลักกันแต่

 

ซึ่งจากตัวอนิเมะที่บอกเล่าออกมาก็สามารถสรุปได้ว่า ตัวโรฮังที่เล่าเรื่องทั้งหมดให้เราฟังอยู่นั้นคือโรฮังที่ได้ผ่านเรื่องราวในภาค 4 มาหมด แล้วเรื่องก็กำลังจะเข้าสู่ โจโจ้ภาค 5 สายลมทองคำ ซึ่งอ้างอิงมาจากฉากต้นเรื่องของตอนแรกที่โคอิจิมาขอคำปรึกษาโรฮังว่า เขากำลังจะต้องเดินทางไปอิตาลี เลยมาขอให้โรฮังใช้แสตนด์ช่วยให้เขาพูดภาษาอิตาลีได้ ซึ่งนี่จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในภาค 5 นั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นการเซอร์วิสแฟนๆโจโจ้พอสมควร ในการเอาตัวละครเก่าๆออกมาเกี่ยวข้องกับอนิเมะโรฮัง (มีโจสึเกะ พระเอกภาค 4 โผล่มาแจมด้วยนะเออ)

 

 

 

 

จุดเด่น – จุดด้อย

 

จุดเด่นของอนิเมะ ต้องยกให้ความยอดเยี่ยมและบ้าพลังของทีมงาน David เพราะนี่คือทีมสร้างอนิเมะที่สามารถตีโจทย์ในการสร้างอนิเมะโจโจ้ที่ดีที่สุดตลอดกาล แล้วคงไม่มีครีเอเตอร์อนิเมะทีมไหนจะสมารถสร้างจักรวาลโจโจ้ให้ออกมาเป็นอนิเมะได้ดีไปกว่านี้อีกแล้ว เพราะไม่เพียงแต่ถ่ายทอดความเป็นโจโจ้ออกมาได้อย่างถึงแก่น แต่ยังสามารถเสริมเติมบางจุดที่ขาดหายไปจากมังงะเพื่อเอาใจแฟนๆ ได้อย่างพอดีด้วย

 

ดังนั้นเรื่องของงานภาพ การเคลื่อนไหว ฉากแอ็คชั่น สีสันที่ฉูดฉาดตามสไตล์ของ อ.อารากิ ทีมนี้เก็บได้ครบหมด รวมถึง ท่าแอ่น ท่าโพสต์ จริตจะก้าน ความเพี้ยนหลุดโลก ตลกหน้าตาย แก๊กซีเรียส การใส่ความดาร์กของเรื่องราว แต่ก็ยังผสมผสานอารมณ์แบบ Feel Good ทุกอย่างจัดเต็ม แล้วอีกจุดที่ต้องชมเชยคือ ทีมพากษ์เรื่องนี้ที่แคสนักพากษ์มาได้ดีเยี่ยม

 

นอกจากนี้ในต้นฉบับมังงะที่มีข้อด้อยอยู่เรื่องหนึ่งคือความที่ลายเส้นและไอเดียบางอย่างของ อ.อารากิ มีความเฉพาะตัวสูงมาก ตามรสนิยมของตัวแกเอง นอกจากนี้ในต้นฉบับมังงะ พวกฉากต่อสู้ การเคลื่อนไหว ไปจนถึงการนำเสนอไอเดียในการใช้พลังบางอย่าง ก็ดูเข้าใจยากไปหน่อย แต่อนิเมะก็ปรับตรงนี้ออกมาให้ดูง่ายขึ้นดีมากครับ

 

จุดเด่นอีกข้อคือ แนวทางการเล่าเรื่อง ซึ่งต้องชื่นชมว่า อ.อารากิ เป็นหนึ่งในนักเขียนการ์ตูนที่เล่าเรื่องราวสั้นๆแบบจบในตอนได้เก่งมาก ที่สำคัญคือ ทุกตอนจะได้กลิ่นอายสยองขวัญ ลึกลับ พิสดาร ที่อารากิเอาแสตนด์เข้ามาเกี่ยวข้องได้อย่างกลืมกลืนซะด้วย แล้วทุกเรื่องเล่าก็ได้แฝงแง่คิดทางด้านศีลธรรม มนุษยธรรม ความถูกผิด ธรรมชาติของมนุษย์ ไปจนถึงการจิกกัดและวิพากษ์สังคมในญี่ปุ่นแบบแนบเนียนเอามากๆ แถมบทสรุปของทุกตอนก็ไม่ได้ต้องการสั่งสอนผู้คน หรือยัดเยียดคำตอบอะไรให้เราด้วย แต่เป็นการให้แง่คิดที่เตือนสติในการใช้ชีวิตของคนเราผ่านเรื่องราวสุดพิลึก ซึ่งเป็นแนวทางของ อ.อารากิ มาแต่ไหนแต่ไร

 

ด้านจุดด้อย ต้องยอมรับว่า มันแทบจะไม่มีเลยสำหรับคนดูที่เป็นแฟนโจโจ้เดนตาย แต่จะเป็นกับคนที่ไม่เคยดูโจโจ้มากกว่า เพราะอนิเมะเรื่องนี้มีความเฉพาะตัวสูง อีกทั้งตัวเนื้อหาในอนิเมะก็ไม่ได้อธิบายที่มาที่ไปของพลังแสตนด์อยู่แล้ว ดังนั้นคนที่สนใจดูจักรวาลโจโจ้ ถ้ามาเปิดดูครั้งแรกก็อาจจะงงๆไปบ้างว่า นี่มันอะไรกัน แต่อนิเมะโรฮังก็มีข้อดีอย่างหนึ่งคือ สำหรับคนที่สนใจโจโจ้ แล้วอยากจะทดลองดู แต่กลัวความยาวของฉบับซีรีส์ ก็อาจจะเริ่มจากการดูตอนของโรฮังแบบสั้นๆไปก่อนได้ครับ

 

ในภาพรวมแล้ว นี่เป็นอนิเมะโจโจ้ที่ดัดแปลงมาจากมังงะภาคโรฮัง ที่ อ.อารากิ แกเขียนสนองนีดตัวเองตามใจฉัน แล้วยังทำออกมาได้ตามมาตรฐานของค่าย ดูเพลินๆได้เลยสำหรับแฟนๆโจโจ้

 

 

สรุป

 

อนิเมะโจโจ้ที่ดัดแปลงมาจากมังงะภาคแยกของโรฮังที่ อ.อารากิ แกเขียนสนองนีดตัวเองตามใจฉัน แล้วยังทำออกมาได้ตามมาตรฐานของค่าย David ดูเพลินๆได้เลยสำหรับแฟนๆของโจโจ้

 

 

จุดเด่น

 

David Production เจ้าเดิมที่ทำอนิเมะซีรีส์ของโจโจ้รับประกันงานสร้างที่ตีความจากต้นฉบับมังงะได้สุดยอด

อนิเมะมีการเพิ่มเติมตัวละครจากภาคหลักให้แฟนๆหายคิดถึง

เป็นตอนสั้นๆที่ให้รสชาติพิสดาร ไม่ต้องเป็นแฟนโจโจ้มาก่อนก็ดูเอาความมันส์ได้

เก็บจริตของความเป็นโจโจ้ได้ครบถ้วน ทั้งการโพสท่า การแอ่น ไดอาล็อค แนวคิด และมุขตลกร้ายทั้งหลาย

การใส่อารมณ์ตอนพากย์ มีความสะใจ มันส์ในอารมณ์ เหมือนฉบับซีรีส์

มีพากษ์ไทย

 

 

จุดด้อย

 

ตัวเรื่องจะไม่ได้อธิบายที่มาที่ไปของแสตนต์ ถ้าไม่ใช่แฟนโจโจ้มาก่อนก็อาจจะงงๆ

เป็นตอนสั้นๆจบในตอน ที่เนื้อหาไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *