รีวิว มหาศึกคนชนเทพ Record of Ragnarok สวัสดีครับ เพื่อนๆ เคยได้ยินคำว่า “หากคาดหวังมากก็จะผิดหวังมาก” ไหมครับ ผมคิดว่าน่าจะถึงคราวได้หยิบวลีนี้ขึ้นมาใช้กันแล้วครับ สำหรับ Record of Ragnarok หรือมหาศึกคนชนเทพ นั่นเอง มังงะสายต่อสู้สุดมัน ที่หยิบจับเอาเทพปกรนัมภ์มาสู้แบบตัวต่อตัวกับยอดคนในประวัติศาสตร์ได้อย่างหน้าตาเฉย ถึงแม้ฟังแล้วมันจะดูแปลกๆแต่ผมบอกเลยครับว่า เนื้อเรื่องแบบนี้ผมซื้อครับ ส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบอะไรที่เกี่ยวกับเทพเจ้าอยู่แล้ว ผมติดตามมาตั้งแต่สมัย God of War และก็อ่านนิยาย Percy Jackson มาเยอะเหมือนพอสมควร เรื่องหลังเนี่ยผมแนะนำเลยนะครับ เวอร์ชั่นหนังสือเขียนออกมาได้ค่อนข้างสนุกมากๆ ดูอนิเมะ

 

กลับมาที่มหาศึกคนชนเทพกันดีกว่า ผมตามมาตั้งแต่สมัยที่มังงะออกใหม่ๆกันเลยทีเดียว เพราะโดนป้ายยาจากช่อง Online Station นั่นแหละครับ เห็นว่ามีแปลไทยมีให้ซื้อออนไลน์ด้วยเล่มละประมาณร้อยกว่าบาทนี่แหละ ตอนแรกเห็นราคาแล้วผมก็แอบตกใจเหมือนกัน เรื่องนี้มีราคาที่ค่อนข้างสูงใช้ได้เลย แต่ด้วยความอยากได้มาก พอโดนป้ายยามาแรงเนี่ยก็เลยตัดสินใจลองซื้อมาอ่านครับ ปรากฏว่าติดครับ มหาศึกคนชนเทพเรื่องนี้แซ่บอีหลีจริงๆ ไม่ได้ขายแค่ความแหวกแนวของพล็อตเรื่อง แต่ยังเข้าใจถึงหลักของมังงะต่อสู้ด้วย

รีวิว มหาศึกคนชนเทพ

พล็อตเรื่องน่าสนใจ แต่กลับไปได้ไม่สุด รีวิว มหาศึกคนชนเทพ

 

มังงะสายต่อสู้ไม่ได้มีแค่ต่อยเตะอย่างเดียวนะครับ มันต้องมีความโม้ ความตื่นเต้น แรงผลักดันของตัวละคร เรื่องราวภูมิหลัง ทุกอย่างล้วนเป็นองค์ประกอบที่ช่วยให้ผู้ชมและผู้อ่านนั้นมีความอินร่วมกันมากขึ้น ความรู้สึกประเภทที่ว่า ไอฝั่งนี้มันเก่งขนาดนั้นเลยหรอเนี่ย แล้วไอ้ฝั่งนั้นมันก็เท่จังเลย ต่างคนต่างสุดยอดถ้าเกิดว่ามาสู้กัน แล้วผลมันจะเป็นยังไงนะ อะไรพวกนี้มันจะเกิดขึ้นตลอดเวลาที่เราอ่านมังงะมหาศึกคนชนเทพครับ ซึ่งอนิเมะทำได้อย่างดีเลยทีเดียว แต่ที่สำคัญก็คือฉากต่อสู้ที่เป็นหัวใจหลัก ก็ทำได้อย่างสุดยอดเช่นเดียวกันครับ

 

แต่อย่างที่บอกครับว่าเรื่องนี้ได้นำตัวละครที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์หรือตำนานมาใช้ ผู้เขียนก็ตีความสามารถและสกิลต่างๆของตัวละครได้น่าอย่างสนใจ ยกตัวอย่างเช่น แจ็ค เดอะ ริปเปอร์ ต่อสู้กับ เฮอร์คิวลีสจอมพลัง นั่นแหละครับ ใครเห็นก็ต้องคิดว่ามันจะสู้กันได้เหรอ พี่เทพเนี่ยเขาไม่ทุบทีเดียวตายเลยเหรอ แต่เรื่องนี้เขาทำได้ครับ ตีฝ่ากำแพงความต่างและประยุกต์ความสามารถได้อย่างน่าชื่นชมเลยทีเดียว แทบทุกการต่อสู้ของทุกคู่ในเรื่องนี้ เขาทำได้อย่างดีเลยครับ ไม่แปลกเลยที่กระแสนั้นจะโด่งดังโดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในประเทศไทย ผมรู้นะครับว่าคุณเชียร์ใคร ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามาเนี่ย ผมอยากจะบอกว่าชอบเรื่องนี้มากเลยละครับ

รีวิว มหาศึกคนชนเทพ

พล็อตเรื่องน่าสนใจ แต่กลับไปได้ไม่สุด

 

คราวนี้เรามาพูดถึงเวอร์ชั่นอนิเมะกันบ้างครับ หนังพึ่งเข้าฉายใน Netflix ในตอนแรกที่ได้ข่าวว่า Netflix เอาไปทำนะครับค วามตื่นเต้นความท้ายของผมเนี่ย มันขยายพุ่งทะลุฟ้าเลยนะครับ วัตถุดิบต้นมันดีขนาดนี้ พอมาเป็นภาพเคลื่อนไหวแล้ว มันจะสุดยอดได้ขนาดไหน ผมเนี่ยตื่นเต้นแบบสุดๆครับ ถึงขนาดไปไล่ป้ายยาเพื่อนที่รู้จักทุกคนครับว่า ถ้าเกิดมันออกมาฉายเป็นอนิเมชั่นแล้ว ทุกคนต้องลองดูให้ได้

 

เวลาแห่งการรอคอยได้สิ้นสุดลง Netflix ได้ปล่อย Record of ragnarok ออกฉาย พอได้ดูจบในตอนที่ 1 ผมก็รู้สึกแปลกๆแล้วล่ะครับ แต่ว่ามันก็อาจจะยังได้อยู่ จบตอน 2 ก็เริ่มหันมามองหน้ากับเพื่อนที่ไปดูด้วย ผมรู้สึกว่ามันเริ่มมีกลิ่นแปลกๆ มาถึงตอน 3 เนี่ยเริ่มเสียใจแล้วล่ะครับ พอมาถึงตอน 4 ก็ได้แต่รับสภาพแล้วครับ จากนั้นนั่งไล่ดูจนครบด้วยความรู้สึกที่มันเซ็งแบบสุดๆ มันผิดจากที่หวังไว้มากจริงๆครับ และส่วนใหญ่เป็นในแง่ลบ ผมไม่คิดเลยว่าจะออกมาในสภาพแบบนี้ โดยผมจะพูดถึง 2 ข้อสงสัย จากมหาศึกคนชนเทพ โดยแบ่งความรู้สึกออกเป็น 2 ระดับ ระดับแรกก็คือการนำเสนอที่น่าผิดหวังครับ มันเป็นการพิสูจน์อย่างนึงเลยครับว่า การทำทุกอย่างเหมือนต้นฉบับแล้ว ก็ไม่ได้หมายควาว่ามันจะเวิร์ค

รีวิว มหาศึกคนชนเทพ

บทตัวละครยังไม่สามารถสื่ออารมณ์ความสนุกออกมาได้

 

Record of ragnarok เนี่ยดำเนินทุกอย่างแทบจะเหมือนหนังสือการ์ตูนแบบเป๊ะๆครับ ทั้งลำดับในการเล่าเรื่อง แล้วก็การลำดับภาพด้วย แต่ว่าจากมังงะที่ภาพดีฉากได้อารมณ์ พอต้องกลายเป็นอนิเมะแล้วมันดูธรรมดาอย่างน่าเหลือเชื่อครับ ตัวละครต่างๆ มันก็พอได้อยู่นะครับ แต่การสื่ออารมณ์เนี่ย มันไม่ได้เลยครับ ลูกเล่นต่างๆก็ไม่ได้ถูกใส่เพิ่มเข้ามา เหมือนเอามังงะมาเพิ่มสีเฉยๆ การนำเสนอด้านภาพเข้าขั้นจืดแบบสุดๆเลยทีเดียว ต้นฉบับเล่ายังไงฉากอนิเมะน่ารักๆนั้นทำภาพแบบเดียวกันเป๊ะๆ แบบนี้เนี่ยผมว่ามันไม่ได้จริงๆนะครับ สื่อแต่ละอย่างเนี่ยมันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกัน อย่างอนิเมะในยุคนี้เราจะสังเกตได้ว่า ในสาย Action ทุกเรื่องจะมีการเน้นว่าฉากไหนต้องโชว์ของครับ ยกตัวอย่างเช่น Attack on Titan จากต่อสู้ในเรื่องนั้นมันสุดยอดแบบคุณต้องจำไปจนตาย

รีวิว มหาศึกคนชนเทพ

งานโปรดักชั่น 2D ผสม 3D ต้องถามว่าคิดได้อย่างไร

 

ฉากต่อสู้ของเรื่องพวกนี้จะมีการใช้งานทั้ง 2D ผสมกับโมเดลแบบ 3D ดูเหมือนจะเป็นมาตรฐานใหม่ของฉากต่อสู้ใน Anime ไปแล้ว มันทำแบบนี้ทุกเรื่องจริงๆนะครับ ถ้าจะถามว่าทำไมถึงทำแบบนั้น ก็เพราะว่ามันช่วยเรื่องการเคลื่อนไหวที่เป็นส่วนสำคัญมากๆสำหรับการต่อสู้นั่นเองครับ เราจะรู้สึกตื่นเต้นเวลาที่กล้องมันแพนไปทางนั้น ทีนี้ทีได้เห็นหลายๆมุม ยิ่งตอนที่ตัวละครใช้ท่าพิเศษแล้ว

 

กล้องมันจะเดินตามไปด้วย มันจะได้อารมณ์มากขึ้นครับ แล้วเวลาที่ตัวละครมันเข้าปะทะกันตรงๆ พวกการเคลื่อนไหวนี่แหละครับ มันจะช่วยได้มากเหมือนเป็นการกระแทกจริงๆ ผมขอเทียบความรู้สึกนี้กับการเล่นเกมแล้วจอยสั่นเหมือนกันครับ มันเพิ่มอรรถรสได้มหาศาล แต่ Record of ragnarok มันไม่ได้เป็นอะไรแบบนั้นเลย ทุกอย่างมันจืดครับ การต่อสู้ยังใช้แบบ 2D แบบ 100% มันเหมือนเราดูหุ่นโมเดลสองตัวพุ่งมาชนกันเฉยๆ แต่ที่พอจะชมได้ก็คือพวกเอฟเฟคต่างๆครับ และที่สำคัญก็คือผมของตัวละครทุกตัวที่มันปลิวไสวนั่นแหละครับ

 

เรื่องต่อมาก็คือฉากต่อสู้ที่ไม่น่าให้อภัยครับ อนิเมะสาย Action คุณจะทำเรื่องห่วยแค่ไหน ก็ไม่น่าจะมีใครสนใจเท่าไหร่หรอกครับ แต่สิ่งที่จะต้องทำดีก็คือฉากต่อสู้นั่นเองครับ Record of ragnarok ทำได้อย่างพังพินาศเลยครับ เพราะมันสู้น้อยแต่คุยเยอะ กว่าจะต่อยกันทีต้องย้อนอดีตไปหลายปี อันนี้มันแย่มากๆเกินจะรับได้จริงๆครับ ในบางเรื่องเขาก็มีฉากย้อนอดีตเล่าเรื่องเหมือนกัน ถูกต้องครับแต่เขาก็สู้เยอะจุใจเช่นเดียวกันใช่ไหม แต่ในอนิเมะเนี่ย ตัดมาตัวละครยืนต่อสู้ พอยกอาวุธทีนึง พี่ก็ย้อนอดีตกลับไป 5 นาที ตัดกลับมาฟาดอาวุธลงอีกที 10 วิ แล้วก็ตัดกลับไปเล่าอดีตอีก 5 นาที ไม่แน่ใจว่าทางผู้กำกับเขาคิดอะไรอยู่ ถึงได้ย่อส่วนที่น่าสนใจที่สุดของมังงะอย่างฉากต่อสู้ แล้วไปขยายส่วนที่น่ารำคาญอย่างการเล่าเรื่องแทน มันไม่ได้มีความต่อเนื่องใดๆ เลยนะครับ ยิ่งดูก็ยิ่งหงุดหงิดครับ

 

ที่สำคัญก็คือ ฉากต่อสู้ที่ทำออกมาได้อย่างประหลาดแบบสุดๆ คือการนำตัวละคร 2 ตัว เมื่อผลัดกันพูดแล้วก็ผลัดกันออกอาวุธก่อนจะเข้าปะทะ หลายๆคนฟังแล้วก็อาจจะดูว่ามันก็ไม่แปลกใช่หรือเปล่า หลายๆเรื่องเขาก็ทำกันนะ แต่มหาศึกคนชนเทพ มันเป็นทุกฉากครับ ทุกฉากมันแทบจะเป็นภาพนิ่งเลย ตัวละครไม่เคลื่อนไหว ที่เคลื่อนไหวคือปากของเขานั่นเอง อันนี้เนี่ยผมรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่หยาบคายต่อคนดูมากๆเลยนะครับ อย่างที่บอกครับมันเหมือนเรากำลังดูอนิเมะชั่นที่เอามังงะมาลงสีเฉยๆ แล้วก็มีอนิเมชั่นส่วนปากขยับได้เท่านั้นเอง ทำออกมาแล้วมันไม่เหมือนการ์ตูน Action สักเท่าไหร่ มันเหมือนกำลังเล่นเกม เทิร์นเบส คล้ายเกม Pokemon ที่ฝ่ายหนึ่งได้ตีก่อน อีกฝั่งนึงก็ต้องตั้งรับ พอตั้งรับแล้วก็ผลัดกันตีไปตีมา

รีวิว มหาศึกคนชนเทพ

ฉากการต่อสู้ที่ทำได้อย่างน่าผิดหวัง รีวิว มหาศึกคนชนเทพ

 

อนิเมะที่ขายฉากต่อสู้เป็นหลักแบบนี้ แต่กลับทำออกมาได้แย่มากแบบนี้ ผมก็หมดคำพูดเลยครับ แล้วพอมันไปรวมกับงานภาพแบบ 2D ที่มันสุดจืดชืด การลำดับภาพที่ขาดความต่อเนื่อง ทุกอย่างมันก็เลยเละตู้มเป๊ะไปซะหมดเลยครับ มันน้อยจริงๆนะครับ ที่อนิเมะจะมีฉากต่อสู้แพ้เวอร์ชั่นมังงะ ทั้งๆที่มันเคลื่อนไหวได้ เพราะเป็นแบบนี้เราก็เลยเข้าใจจริงๆแล้วครับว่า สตูดิโอในการทำอนิเมชั่นเนี่ยมันสำคัญมากจริงๆ ดาบพิฆาตอสูร ผมว่าเขาทำได้เฉยๆนะครับ แต่ว่าแต่อนิเมะเนี่ยระดับ Epic เลยครับ แต่ในมหาศึกคนชนเทพ ทุกอย่างมันกลับตาลปัตรไปหมดเลย

รีวิว มหาศึกคนชนเทพ

บทสรุป มหาศึกคนชนเทพ Record of Ragnarok อนิเมะสุดผิดหวังแห่งปี

 

และนี่คือสิ่งที่ผมอยากจะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ครับ ปกติผมคิดว่าตัวเองเป็นคนดูอะไรง่ายมากแล้วนะครับ หลายๆเรื่องที่คนดูเขาไม่โอเค ผมก็ดูได้ปกตินะครับ แต่ไม่รู้ว่าทำไม กับเรื่องนี้มันถึงไม่ใช่แบบนั้นเลย ถ้าไม่คาดหวังก็คงจะไม่ผิดหวัง คำนี้ผมเคยพูดบ่อยๆใช่ไหมครับ สงสัยคราวนี้มันย้อนเข้าตัวซะแล้ว

 

และตามธรรมเนียมของพวกเรา ที่ต้องมีการให้คะแนนหลังจากการรีวิว ผมต้องบอกแบบนี้ครับคะแนนของเราไม่ใช่สิ่งที่จะชี้วัดคุณภาพของหนัง แต่เป็นอารมณ์และความรู้สึกที่พวกเรานั้นมีต่ออนิเมะเรื่องนั้น สำหรับผมเรื่องนี้ให้ไปเลยครับ 0 เต็ม 10 คะแนน ผมฝากความหวังไว้มากจริงๆ ก็เลยเจ็บมากเป็นธรรมดาครับ มันเหมือนกับคนอกหักเลย แต่ก็แน่นอนครับ อย่างที่ผมเคยบอกไปทุกครั้ง ความรู้สึกส่วนตัวของผมไม่ใช่สาเหตุที่พวกคุณจะไม่ลองชมอนิเมะเรื่องนี้ เพราะ มหาศึกคนชนเทพ Record of Ragnarok อาจกลายอนิเมะเรื่องเยี่ยมของคุณเลยก็ได้ คุณเท่านั้นเป็นคนตัดสินครับ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *