รีวิว 9 ศาสตรา ภาพยนตร์แอนิเมชั่น สนุกๆ

 

รีวิว 9 ศาสตรา ภาพยนตร์แอนิเมชั่น สนุกๆ ในที่สุดอนิเมชั่นไทยฟอร์มยักษ์ 9 ศาสตรา ก็ออกมาให้เราได้พิสูจน์ แน่นอนว่าพอตเรื่องแบบนี้ไม่ใช่อะไรที่แปลกใหม่ ความท้าทายของทีมงานเลยอยู่ที่การจะทำอย่างไรให้เรื่องราวที่ใครก็รู้บทสรุป สนุกและสดใหม่ได้ และนับเป็นโชคดีที่ความตั้งใจและความมุ่งมั่นของทีมงานนั้นเปล่งประกายออกมาอย่างเชิดฉาย โดยเฉพาะในส่วนของงานภาพที่ทำออกมาได้น่าตื่นตาขั้นสุด ตั้งแต่ฉากสุดอลังการ ไปจนถึงเหล่าตัวละครต่างๆ ที่ถูกออกแบบมาอย่างโดดเด่น โดยเฉพาะส่วนของเจ้าวาตะ ลิงจอมตัวเรียกเสียงฮา และเสี่ยวหลานโจรสลัดสุดแสนเซ็กซี่ ที่ออกมาแต่ละทีก็ดึงความสนใจไปได้ เรื่องราวจะสนุกขนาดไหนต้องไปติดตามกันได้เลย รับชมความสนุกของเรื่องนี้ที่ ดูอนิเมะ อย่างจุใจ

และต่อความสนุกสนานจากเรื่องอื่นๆ ใน อนิเมะ2021 พร้อมอีกมากมาย

 

ข้อมูลทั่วไป 9 ศาสตรา อนิเมชั่นไทย ที่สุดแห่งปี

รีวิว 9 ศาสตรา ภาพยนตร์แอนิเมชั่น สนุกๆ เปิดปีรับศักราชใหม่วงการหนังไทยก็มีหนังมาทำให้ชื่นใจตั้งแต่หัวปีแล้วกับ ๙ ศาสตรา หนังอนิเมชั่นสนุกๆฟอร์มยักษ์ที่จัดเต็มกับทุนสร้างกว่า 230 ล้านบาท ที่มาพร้อมกับความแอคชั่นระทึกขวัญตื่นตาตื่นใจไปกับความแฟนตาซีและความตลกสนุกสนาน เรื่องราวของ อ๊อด เด็กหนุ่มที่ออกเดินทางผจญภัยเพื่อนำ ๙ ศาสตรา อาวุธลับในตำนานกลับไปยังเมืองรามเทพบ้านเกิดของตัวเองที่ถูกกองทัพยักษ์รุกรานและยึดเป็นฐานที่อยู่ของพวกตัวเอง ระหว่างทางอ๊อดก็ได้เจอกับมิตรภาพมากมายที่มาช่วยต่อสู้กับเหล่าศัตรูและภยันตรายที่เข้ามา จนในที่สุดก็พากันไปถึงรามเทพ(ที่ไม่เกี่ยวกันแต่ก็ทำให้นึกถึงจตุคามรามเทพอยู่ร่ำไป) อ๊อดและผองเพื่อนได้แฝงตัวเข้าไปในรังของผู้ปกครองยักษ์เพื่อปลดแอกเชลยทั้งหลายรวมทั้งช่วยเหลือเจ้าชายแห่งรามเทพและส่งมอบ ๙ ศาสตราให้ถึงมือเจ้าชาย

 

รีวิว 9 ศาสตรา ภาพยนตร์แอนิเมชั่น สนุกๆ

 

หนังเปิดเรื่องมาก็พาเข้าฉากแอคชั่นสุดมันกันเลย กับงานภาพที่ละเอียดทั้งการออกแบบการต่อสู้และตัวละครต่างๆ ไปจนถึงการเคลื่อนไหวในฉากแอคชั่นที่ไหลลื่นชวนตื่นตาตื่นใจมากกว่าหนังอนิเมชั่นสนุกๆของไทยเรื่องไหนๆ ที่เคยมีมา สัมผัสได้ถึงความตั้งใจดีบวกกับฝีมือของคนทำตั้งแต่แรกเริ่ม แต่น่าเสียดายที่หลังจากฉากแอคชั่นตะลุมบอนกลางสายฝนนั้นหนังก็พาเข้าสู่ช่วงปูเรื่องราวเรื่อยเอื่อยมากไปเสียหน่อย งานภาพยังดีอยู่แต่ปัญหาที่ส่วนตัวรู้สึกคือการเล่าแนะนำให้ทำความรู้จักตัวละครผ่านชั้นเชิงบทที่ราบเรียบจำเจและง่ายจนสามารถคาดเดาแต่ละก้าวย่างของตัวละครมากไปหน่อย จนความน่าเบื่อมาเยือนในช่วงแรกก่อนที่การออกเดินทางผจญภัยจะมาถึง โดยเฉพาะในตอนที่พ่อต้องบอกความจริงที่ปกปิดมานานกับอ๊อดนั้นไร้ชั้นเชิงจนขาดมิติมากจนน่าเสียดาย จนมาถึงฉากที่อ๊อดขว้าง ๙ ศาสตราทิ้งพร้อมกับพูดประโยคสุดแสนจะคลิเชจนต้องขมวดคิ้วให้ด้วยความที่เสียดายแทนว่า ถ้าหากคิดเกลาบทพูดเพื่อลดทอนความจงใจให้เป็นธรรมชาติมากกว่านี้น่าจะดีต่อความรู้สึกในแต่ละฉากละตอนสำคัญไม่น้อยเลย

 

 

จุดกำเนิดของอ๊อด อนิเมชั่นน่าดู

9 ศาสตรา พากย์ไทย เป็นเรื่องราวการผจญภัยของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ชื่อ “อ๊อด” ที่พ่อกับแม่ของเขาถูกยักษาฆ่าตายไปตั้งแต่ตอนยังเป็นทารกและ “อ๊อด” ก็ได้รับความช่วยเหลือจาก ” ขุนพันธ์ ” ทหารเอกแห่งอโยธยาที่มีอาวุธ “๙ ศาสตรา” อยู่กับตัวแล้วกำลังหนีการไล่ล่าจากพวกยักษาที่ต้องการแย่งชิงอาวุธ “๙ ศาสตรา” เพื่อทำลายทิ้ง…

 

ทั้ง 2 ถูกพวกยักษาทำร้ายจนบาดเจ็บหนัก…ตกหายสาบสูญไปกับทะเลแล้วได้ไปโผล่ที่เกาะหมู่บ้านนกแอ่นและได้พบกับครูมวยโบราณผู้ซึ่งช่วยชีวิตทั้ง 2 จนกระทั่ง “อ๊อด 9 ศาสตรา” เติบโตเป็นหนุ่ม ” ขุนพันธ์ ” ก็ให้ “อ๊อด” เรียนวิชามวยไทยโบราณกับครูมวย และ “อ๊อด” ก็ได้โดนเคี่ยวเข็ญฝึกฝนอย่างหนักจนเรียนจบครบทุกกระบวนท่าเพื่อที่จะไปกอบกู้อาณาอโยธยากลับคืนจากยักษา

แล้วการผจญภัยของ “อ๊อด” ก็ได้เริ่มต้นหลังจากที่เหล่ายักษาได้รู้ที่ซ่อนและได้มาบุกทำลายเพื่อชิงอาวุธ “๙ ศาสตรา” กลับคืน ” ขุนพันธ์ ” และครูมวยได้โดนยักษาฆ่าตาย แล้วให้ “อ๊อด” นำอาวุธ “๙ ศาสตรา” หนีออกมาเพื่อไม่ให้เหล่ายักษาได้มันไป…

 

หลังจาก “อ๊อด” หนีออกมาจากเกาะได้เขาก็ได้มุ่งหน้าเดินทางไปอาณาจักรอโยธยาทันที…ระหว่างทางอ๊อดก็ได้พบกับ “เสี่ยวหลาน” โจรสลัดอากาศสาวชาวจีน พร้อมด้วยลิงทโมน นามว่า “เจ้าชายวาตะ”รวมถึง “อสูรสีชาด” ยักษ์สีแดงร่างใหญ่ใจดีที่เป็นน้องชายของกษัตริย์เหล่ายักษา ซึ่งทั้งหมดโดนเหล่ายักษาทำร้ายคนในครอบครัวและคนที่พวกเขารัก…

 

รีวิว 9 ศาสตรา ภาพยนตร์แอนิเมชั่น สนุกๆ

 

แล้วการเดินทางเพื่อล้างแค้นจึงได้เริ่มต้นขึ้น…”อ๊อด” และผองเพื่อนต้องต่อสู้กับหมู่มวลอธรรมและกอบกู้อาณาจักรอโยธยารามเทพนครให้รอดพ้นจากอำนาจทมิฬของเหล่ายักษาผู้ก่อความทุกข์ให้ประชาราษฎร์ชาวรามเทพนครมาอย่างยาวนานพร้อมกับมีอาวุธ “๙ ศาสตรา” เป็นเดิมพัน

“อ๊อด” และผองเพื่อนของเขาจะสามารถคว้าชัยชนะในศึกครั้งใหญ่กับกองทัพโหดทมิฬมหึมาและจะช่วยปลดปล่อยประชาชนที่ตกเป็นทาสจากอำนาจมืดของเหล่ายักษานี้ได้หรือไม่…ไปติดตามรับชมกันได้ครับที่เว็บหนังทั่วไปได้เลยครับ เพราะหนังเรื่องนี้ฉายไปแล้วเมื่อ 11 มกราคม 2561

 

ตัวละครในเรื่อง 9 ศาสตรา

อ๊อด (Ott)

เด็กหนุ่มชาวรามเทพนคร มีนิสัยอ่อนน้อมถ่อมตน พ่อแม่ที่แท้จริงของอ๊อดเป็นช่างตีฆ้อง ในหมู่บ้านฆ้องเหล็ก ซึ่งถูกพวกยักษ์ที่มารุกรานเมืองฆ่าตาย  อ๊อดได้รับการเลี้ยงดูจาก จมื่นพันธ์วรเดช ซึ่งเขาหลงคิดว่าชายผู้นี้คือพ่อแท้ ๆ มาโดยตลอด แต่ก็ยังสงสัยว่าทำไมพ่อถึงเย็นชากับเขานัก เพราะหลังจากทั้งคู่หลบหนีมาอยู่ที่หมู่บ้านนกแอ่น จมื่นพันธ์วรเดชก็คอยเคี่ยวเข็ญ ให้เขาร่ำเรียนวิชามวยไทยจากเฒ่าใบ้ และฝึกฝนสมาธิจากหลวงพ่อสิน  จนมีวิถีชีวิตต่างจากเด็กทั่วไป กระทั่งวันหนึ่งอ๊อดได้รู้ความจริง เขาจึงตั้งใจพัฒนาตัวเองทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพื่อรับหน้าที่แทนจมื่นพันธ์ ในการนำศาสตราวุธศักดิ์สิทธิ์ไปมอบแก่องค์ชายรัชทายาท เพื่อกอบกู้รามเทพนครจากเหล่ายักษ์

 

 

เสี่ยวหลาน (Xiaolan)

โจรสลัดสาวสวยชาวหมิง ผู้ทำหน้าที่ดูแลเรือเหาะทะยานเมฆแทนบิดา คอยปล้นสะดมกองเรือยักษ์ และช่วยเหลือทาสมนุษย์ที่ถูกจับ เชี่ยวชาญการใช้อาวุธระยะไกลซึ่งฝึกฝนมาจากเฒ่าฉ่อย ภายนอกนั้นเสี่ยวหลานดูห้าวหาญเด็ดเดี่ยว แต่ภายในนั้นกลับซ่อนความอ่อนไหวดั่งศิลปินไว้ เดิมนั้นเสี่ยวหลานเติบโตมาด้วยความรักที่จะเป็นนักดนตรี แต่เหตุการณ์แปรเปลี่ยน เมื่อเทหะยักษารู้ว่า ฟงเอ๋อ พี่ชายของนางนั้นเกิดใต้ฤกษ์คำทำนายว่าจะเป็นผู้กอบกู้รามเทพนครได้ จึงสั่งสมุนยักษ์มาชิงตัวไป การต่อสู้ในครั้งนั้นทำให้เสี่ยวหลานสูญเสียบิดาและมารดา เด็กสาวธรรมดาจึงต้องลุกขึ้นมาจับอาวุธ เพื่อช่วยพี่ชายที่ถูกขังอยู่ในคุกใต้ดิน

 

รีวิว 9 ศาสตรา ภาพยนตร์แอนิเมชั่น สนุกๆ

 

วาตะ

วานรน้อย รัชทายาทแห่งของอาณาจักรมณีโคต อาณาจักรของลิงที่ถูกกองทัพยักษ์บุกเข้าโจมตี จากเคยใช้ชีวิตสุขสบายในฐานะเจ้าชาย วาตะจึงต้องระหกระเหิน ออกไปใช้ชีวิตเร่ร่อน ข้างถนนอย่างยากลำบาก ลักเล็กขโมยน้อยเพื่อความอยู่รอด และด้วยการเคลื่อนไหวที่ว่องไวทำให้วาตะไม่เคยโดนจับได้ ซ้ำยังไม่มีใครรู้ถึงฐานะที่แท้จริงของเขา จนเมื่อวาตะเดินทางมาถึงเมืองนาคาวรรณ และได้พบกับอสูรสีชาด ผู้ที่เห็นกับตาว่าวาตะสามารถใช้เกราะแขนกลอาวุธแห่งอาณาจักรวานร ที่จะเปล่งพลังสูงสุด เมื่ออยู่กับผู้สืบเชื้อสายเท่านั้น จากนั้นทั้งคู่จึงได้ร่วมเดินทางไปยังรามเทพนครด้วยกัน โดยวาตะต้องการล้างแค้นพวกยักษ์ที่ทำลายเผ่าพันธุ์ของเขา

 

 

อสูรสีชาด/ยักษ์แดง (Red Asura)

ยักษ์สีแดงผู้มีความผิดแผกจากเผ่าพันธุ์ ไม่เพียงแต่นิสัยที่สุขุม รอบคอบ ชอบใช้ความคิดมากกว่ากำลัง หรือถนัดอ่านหนังสือมากกว่าสู้รบ และการศึกสงคราม9ทัพ  แต่อสูรสีชาดยังหลงรักมนุษย์ จึงถูกขับไล่ออกจากผองยักษ์ แต่ยักษ์นอกคอกตนนี้ก็พยายามกลับไปยังรามเทพนคร เพื่อช่วยคนรักที่ถูกคุมขังไว้ ระหว่างทางอสูรสีชาดได้เจอกับวาตะ และ อ๊อด และด้วยความรอบรู้ของเขา ทำให้อสูรสีชาดกลายเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญในการเดินทางครั้งนี้

 

 

เทหะยักษา (Dehayaksa)

เป็นเทพแห่งยักษ์ เดิมชื่อ ทารคา เป็นราชบุตรของ อนันตยักษา ผู้ปกครองนครคีรีกัณฑ์ แต่ถูกกาฬสูตรซึ่งเป็นยักษ์ต่างเมืองลอบโจมตี  โดยใช้เชลยมนุษย์เป็นไส้ศึก บิดาของทารคาถูกฆ่าตาย  เขาจำต้องหลบหนีออกจากเมืองพร้อมน้องชาย และเติบโตมาท่ามกลางภัยอันตราย ทั้งจากสัตว์ร้ายและมนุษย์ ที่คอยตามล่าเพราะชิงชังบิดาของเขา เวลาผ่านไป บนเส้นทางแห่งการเข่นฆ่าเพื่อเอาตัวรอด ทักษะการต่อสู้ของทารคาพัฒนาถึงขั้นสูง ขณะเดียวกันความพยาบาทที่ฝังลึกในใจ ก็ทำให้ ทารคา กลายเป็นยักษ์ที่โหดเหี้ยม ดุร้าย ยากหาใครมาต่อกร  ซึ่งยิ่งทำให้ทารคาหรือเทหะยักษาหลงใหลในอำนาจ ปรารถนาจะครอบครองทุกสิ่งทุกอย่าง โดยมีแม่หมอการ์ณีชา ยักษีชราเป็นผู้รับใช้

 

 

พรานทมิฬ (Black Jager)

หนึ่งในเผ่าพันธุ์ทมิฬที่ยังคงหลงเหลือ มีพลังในการควบคุมสัตว์และมีพรสวรรค์ในการไล่ล่า จนวันหนึ่งเขาเห็นมารดาตายไปต่อหน้าต่อตา ความเจ็บปวดทำให้เขาสูญเสียความทรงจำ รู้ตัวอีกครั้ง เขาก็กลายเป็นเครื่องมือล่าสัตว์ให้กับพวกนายพราน และถูกซื้อขายราวสิ่งของสู่มือสลัดอากาศ เขาทำงานรับใช้ถวายหัวให้เจ้านายโจรสลัดมาเนิ่นนาน กระทั่งได้ล่วงรู้ความจริงว่า เจ้านายเขานั้น คือ คนที่ฆ่าแม่ของเขาอย่างเลือดเย็น ด้วยแรงแค้นทำให้เขาสังหารเหล่าโจรสลัดตายสิ้นทั้งกองเรือ เหล่ายักษ์ได้เห็นความสามารถนี้ จึงนำตัวเขามาถวายแด่เทหะยักษา จากนักล่าจึงกลายเป็นนักฆ่าที่เก่งกาจที่สุดที่กองทัพยักษ์เคยมีมา และได้ฉายาว่าพรานทมิฬ

 

 

การ์ณีชา (Geeza)

ยักษีชราผู้สามารถมองเห็นอนาคตได้ เคยทำงานรับใช้กาฬสูตรผู้ยึดครองกรุงคีรีกรรณต่อจาก อนันตยักษา แต่เมื่อคำทำนายของการ์ณีชา ไม่เป็นที่ถูกใจ คล้ายเป็นคำดูถูกบารมีอันยิ่งใหญ่ กาฬสูตรจึงขับไล่การ์ณีชาออกจากเมือง แม่หมอชราหนีมาสวามิภักดิ์กับเทหะยักษา คอยทำพิธีต่างๆ เพื่อต่อดวงชะตา และเตือนเทหะ

 

ความรู้สึกที่มีต่อแอนิเมชั่นเรื่องนี้

รีวิว 9 ศาสตรา ภาพยนตร์แอนิเมชั่น สนุกๆ บทและการดำเนินเรื่องดูการ์ตูนอนิเมชั่นเรื่องนี้ถือว่าวางโครงสร้างออกมาได้ดีเลย ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของมวยไทยที่เป็นกีฬาประจำชาติไทยของเรายิ่งทำให้เกิดความประทับใจในการดำเนินเรื่องที่เอาศิลปะแม่ไม้มวยไทยมาเป็นอาวุธที่ใช้ในการปราบคนชั่ว

 

สำหรับฝีมือคนไทยเป็นคนสร้างแล้วถือว่างานภาพ และ CG ทำออกมาสวยเลยครับอาจจะมีบ้างบางฉากบางตอนที่ดูแล้วยังไม่เนียนตาเท่าไหร่ หรือยังไม่สวยสู้ของต่างประเทศได้แต่สำหรับในมุมมอง มุมมองคนที่ดูหนังถือว่าทำออกมาได้สวยในระดับนึงเลย

สิ่งที่ต้องชื่นชมนอกจากเล่าเรื่องที่แม่นจังหวะ กับฉากแอคชั่นสุดมันที่คิดมาได้ละเอียด ตัวละครนำพาคนดูไปสู่ฉากใหญ่ ๆ  ได้ตื่นตาทั้งหมด ทั้งเกาะไกลโพ้นทะเล การต่อสู้กลางอากาศด้วยเรือเหาะจนผ่านหุบเหว หรือแม้แต่การสู้กับราชายักษ์ก็ปูมาได้อย่างตื่นเต้นมีหักมุมหลอกคนดูด้วย

 

สิ่งที่น่าชมมากอีกอย่างคือการ ดีไซน์เหล่าตัวละคร ทั้งภาพลักษณ์ภายนอกที่บอกเลยว่าโคตรเท่ เท่ยันตัวประกอบ มีพวกการแปลงโฉมอัปเกรดหรือแปลงร่างที่เท่มาก ๆ ด้วย คือต่อยอดไปพวกสินค้าอื่น ๆ ได้สบายมาก ทั้งฟิกเกอร์ เกมคอนโซล บอร์ดเกม หรืออะไรต่อมิอะไรอีกหลายอย่าง เพราะงานดีไซน์มันสากลและแข็งแรงมาก ๆ แม้แนวการทำโมเดลจะดูมีแรงบรรดาลใจจากแอนิเมชั่นฝรั่งอย่างพวก star wars ทุกภาค มามากกว่าการผสมเอกลักษณ์ตะวันออกสไตล์ญี่ปุ่น แต่หนังก็ผสมกลืนทั้งสองแบบมาได้อย่างพิถีพิถันทีเดียว  นี่ยังควรนับเรื่องการออกแบบภาพภายนอกกับบุคลิกและเส้นเรื่องที่สอดคล้องกันเป็นหนึ่งอีก คือต้องยอมใจกับทีมงานเขาจริง ๆ ว่าทุ่มเทและคิดกันละเอียดมาก ๆ ไม่มีการดูถูกเอาเปรียบคนดูแน่นอน

 

 

บทส่งท้ายว่าควรไปดู 9 ศาสตรา กันดีมั้ย

เป็นภาพยนตร์ที่ดูสนุกได้ทุกวัย ดูได้ทั้งครอบครัวเนื้อเรื่องดำเนินไปเรื่อยๆ ไม่ได้ซับซ้อน แต่ก็มีเซอร์ไพรส์บ้างเล็กน้อยกรุ้มกริ่มภาพอลังการดูแพงสม 230 ล้านบาทและเวลา 4 ปี ใครที่ชอบดูฉากต่อสู้ในแอนิเมชั่นก็จะฟินๆ กว่าคนอื่นเขาหน่อยไปดูในโรงภาพยนตร์กันได้เลย คุ้มค่าตั๋วและค่าป๊อปคอร์นของทุกท่านอย่างแน่นอน9 ศาสตรา เป็นแอนิเมชั่นที่ดีที่สุดของบ้านเราเท่าที่เคยมีมา เรียกว่าเป็นอีกก้าวสำคัญของวงการแอนิเมชั่นในไทยเลยทีเดียว อยากให้ลองไปชมกันว่าความสามารถของบ้านเราไปไกลถึงเพียงนี้แล้ว

 

โดยรวมแล้วภาพยนตร์อนิเมชั่นพากย์ไทยเรื่อง “9 ศาสตรา” ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่อยากแนะนำให้ทุกคนไปดูกันไม่ใช่แค่เพราะนี่เป็นผลงานจากฝีมือคนไทย แต่เพราะนี่เป็นผลงานคุณภาพที่พร้อมก้าวไปสู่ตลาดโลกได้อย่างไม่อายใคร และเชื่อว่าจะมอบความประทับใจให้กับผู้ชมได้อย่างแน่นอน สามารถรับชม 9 ศาสตรา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *