สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ทุกคนมาในวันนี้เรามีอนิเมะมาแนะนำ นั่นก็คือเรื่อง Skip to Loafer จังหวะวัยรุ่นว้าวุ่นหัวใจ เป็นอนิเมะแนวคอมเมดี้ที่เล่าเรื่องราวของชีวิตวัยรุ่นอบอุ่นหัวใจ มีทั้งหมด 12 ตอน อนิเมะญี่ปุ่น เรื่องนี้ได้รับการดัดแปลงจากผลงานมังงะของอาจารย์ Takamatsu Misaki ที่มีการตีพิมพ์ในนิตยสารอาฟเตอร์นูนรายเดือนของสำนักพิมพ์โคดันฉะ 

และได้รับความนิยมอย่างสูงจนมีการรวมเล่มกัน ซึ่งในภาพยนตร์อนิเมะได้รับการผลิตและเข้าฉายครั้งแรกทางช่อง Tokyo MX ในวันที่ 4 เมษายน และปัจจุบันสตรีมมิงให้ชาวไทยได้รับชมทาง Netflix และ BiliBili โดยทุกตอนก็มีการเผยแพร่มาอย่างครบถ้วน

เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร เชิญติดตามต่อได้ที่รีวิวข้างล่างนี้เลยค่ะ และท่านผู้อ่านสามารถดูหนังออนไลน์วีไอพี ได้ที่ doonungvip.com

อนิเมะ จังหวะวัยรุ่น ว้าวุ่นหัวใจ เล่าเรื่องราวของ “Mitsumi Iwakura” สาวน้อยช่างฝันวัย 15 ปีจากหมู่บ้านห่างไกล เมื่อเธอมาที่โตเกียวเพื่อศึกษาต่อต่างประเทศ แม้ว่าเธอจะทำผิดพลาดต่อหน้าคนอื่นบ่อยๆ แต่เธอก็กระตุ้นความสนใจของชิมะ โซสุเกะสุดหล่อและกลายเป็นเพื่อนกับเธอ เวลาผ่านไป ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ชื่อภาษาอังกฤษ: Skip and Loafer

ชื่อภาษาญี่ปุ่น: スキップとローファー

ชื่อไทย: จังหวะวัยรุ่น ว้าวุ่นหัวใจ

ประเภท: โรแมนติกคอมเมดี้ 

งานต้นฉบับ: มังงะ

ผู้แต่ง: มิซากิ ทากามัตสึ

ตีพิมพ์ในนิตยสาร: บ่ายรายเดือน

จำนวนคอลเลกชันมังงะ: 8 เล่ม

สำนักพิมพ์: โคดันฉะ

ผู้กำกับ: De Aiqinmei

ผู้แต่ง: De Aiqinmei

ออกแบบตัวละคร: มานามิ อุเมชิตะ

ผู้แต่ง: ทาคัตสึ วากาบายาชิ

ผู้ผลิต: P.A. Works

เริ่มออกอากาศ: 4 เมษายน 2566

สิทธิ์ในการรับชม: Bilibili Thailand/AISPLAY/Aniplus Thailand

วันและเวลาฉาย : ทุกวันอังคาร เวลา 22.00 น.

จำนวนภาพยนตร์: 12 ตอน

ความยาว: 23 นาที

Skip to Loafer เป็นอนิเมะเกี่ยวกับชีวิตวัยรุ่นของ Mitsumi Iwakura เด็กสาวในชนบทที่เข้าโรงเรียนมัธยมปลาย ในโตเกียว มิตสึมิเป็นผู้หญิงที่ใจดีและอาศัยอยู่กับป้าของ LGBTQA+ ซึ่งเป็น LGBTQA+ พวกเขาตั้งเป้าหมายที่สมบูรณ์แบบทั้งเรื่องเรียนและชีวิต เธออยากเรียน จบนิติศาสตร์ ทำงานราชการ เกษียณเป็นนายกเทศมนตรีและพัฒนาบ้านเกิด

แต่ระหว่างทาง เธอก็เผชิญกับความท้าทายที่คาดไม่ถึงมากมายเช่นกัน อาจเป็นเพราะความอายของตัวเองที่หลงทางที่สถานีรถไฟ จนเกือบไปโรงเรียนสายในวันเปิดเทอมวันแรก มีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างและสังคมต่างๆ แต่ไม่ว่าจะยากแค่ไหน เขาก็สามารถผ่านมันไปได้ด้วยความคิดเชิงบวกและเป็นตัวของตัวเองเสมอ

อิวาคุระ มิตสึมิ 

นางเอกของเรื่องเป็นนักเรียนหญิงในชนบทที่มีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน วางแผนและบรรลุเป้าหมายการเรียนรู้และกิจกรรมวัยเรียนของตนเองอย่างเคร่งครัด บุคลิกอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอเพราะเป็นคนมีความมุ่งมั่น ข้อดีคือ บุคลิกและการมองโลกในแง่ดีดึงดูดคนรอบข้างให้อยู่ด้วย คนรอบข้างมักได้รับพลังดีๆตอบแทน ตัวละครหลักใน Skip to Loafer 

ชิมะ โซสุเกะ

ชายหนุ่มหน้าตาดี เอาตัวรอดเก่ง ไม่ชอบทำตามกฎ นิสัยเอาแน่เอานอนไม่ได้ ต่อหน้าคนอื่น ยิ้มแย้มตลอดเวลา แต่เบื้องหลังมีปัญหาความสัมพันธ์กับคนในครอบครัว

เอกาชิระ มิกะ

เด็กสาวม.ปลายที่ถูกกลั่นแกล้งและเปลี่ยนแปลงตัวเอง มีนิสัยพูดตรงไปตรงมา จริงใจ และมีสไตล์ เขาเก่งในกีฬาวอลเล่ย์บอล เขาวางแผนที่จะเข้าหา Meimei เพราะเขาต้องการผูกมิตรกับ Zhimo-kun แต่สุดท้ายก็โดนมิทสึมิ

มุราชิเงะ ยุซุกิ

สาวสวยระดับท็อปที่ผู้ชายชื่นชมและผู้หญิงอิจฉา เป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบที่มีความมั่นใจในตัวเอง แต่หัวใจอ่อนไหวต่อความสัมพันธ์เพราะขาดเพื่อนแท้เพราะมีคนมาชอบพอควร

มีความฟินของคู่พระนางใน Skip to Loafer คือตัวเอกสามารถเรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นที่สุด ที่ทุกคนในห้องอยากอยู่ใกล้ แค่ยิ้มสักครั้งนี่ออร่าส่องนางเอกเลย แต่ดูเหมือนนางเอกจะเป็นคนใฝ่เรียนทำให้ชีวิตไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ 

ด้วยความที่เป็นเด็กบ้านนอกและหวังจะมีครอบครัวด้วย การปรับตัวให้เข้ากับคนในเมืองใหญ่จึงค่อนข้างยาก ยิ่งนางเอกมัวแต่ยุ่งกับเป้าหมายชีวิตในวัยผู้ใหญ่จนการปรากฎตัวของพระเอกทำให้เธอเสียอะไรไปมากมายตั้งแต่เดินสวนทางกัน การแนะนำเธอให้รู้จักกับกลุ่มเพื่อนโดยใช้คำพูดที่เป็นกันเองที่ปรับให้เข้ากับใครได้ง่าย

เช่น นางเอกอายทั้งนางเอกและคนดูจนสุดเขิน พอนางเอกเข้าไปใกล้ก็กล้าพูดคำหวานมากมายทำเอาพระเอกอึ้งไปเลย เฮ้ย! ไม่ค่อยมีใครพูดและทำให้รู้สึกว่านางเอกดูจริงใจและเป็นมิตรมากกว่าคนอื่นๆ ที่แผนกต้อนรับ 

จะมีกิจกรรมนอกมหาวิทยาลัยและในมหาวิทยาลัยที่ไหนบ้าง? นางเอกและผองเพื่อนยังปรับตัวเข้ากับสังคมเมืองได้ ยิ่งใกล้กัน ใจเต้นแรงทุกที จนฟิน ค่อยๆ อัพเลเวลแบบที่เพื่อน ๆ ไม่ควรพลาดสักตอนเลยหละค่ะ

ผู้เขียนมีแนวคิดดีๆที่อยากแบ่งปันกับเพื่อนๆ หลังจากที่ผู้เขียนได้รับชม Skip to Loafer  แล้วนั้น เพื่อน ๆ ต้องเรียนรู้ที่จะเข้าหาผู้คนอย่างกล้าหาญ เพราะถ้าคุณมัวแต่อยู่ในโซนปลอดภัย แม้จะสนุก แต่คุณก็จะไม่ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และอาจเกิดปัญหาในชีวิตได้

สำหรับเนื้อเรื่องนั้นเป็นแอนิเมชั่นแนวโรแมนติกคอมเมดี้ เป็นแนวอบอุ่น โรแมนติก ผสมคอมเมดี้ ละมุนละไม ในเวอร์ชั่น ม.ปลาย เรื่องราวไม่เน้นความรักมากนัก แต่จะให้ความสนใจไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน ครอบครัว และหัวใจของตัวละครทำให้เราอยากติดตามเรื่องราวและรอดูการเติบโตของเด็กๆในเรื่อง

การออกแบบตัวละครของเรื่องนี้ดีมาก สิ่งที่ไม่ชอบในตอนต้นเรื่อง แต่พอรู้จักมากขึ้นก็เข้าใจตัวละครมากขึ้น หรือตัวละครอย่าง มิทสึมิ ที่เป็นเด็กสาวที่คิดบวกอยู่เสมอ เราเชื่อว่า ใครก็ตามที่อ่านเรื่องนี้จะได้รับพลังบวก และจะฟื้นคืนแง่ดีได้อย่างไร

จะมีฉากหนึ่ง ที่เราประทับใจมาก เมื่อเหม่ยเหม่ยเลือกที่จะจำชื่อคนที่ทำดีกับเธอแทนที่จะไปสนใจคนที่ทำไม่ดีกับเธอ Ornon รู้สึกท้อแท้ และพูดกับ Shima ที่เป็นห่วงเธอว่าเพราะฉันล้มบ่อย ฉันจึงอยากลุกขึ้นเร็วๆหน่ะ

ส่วนพล็อตในใจของตัวละครจะเห็นว่าตัวละครมีหลายมิติและแต่ละคนก็มีพื้นฐานเป็นเด็กดี แม้ว่าเราจะไม่รู้ว่าแต่ละคนเติบโตมาอย่างไร แต่ผู้คนเชื่อว่าวันหนึ่งพวกเขาจะสามารถก้าวข้ามอดีตอันเจ็บปวดเหล่านั้นไปได้ และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีแข็งแรงในสักวันหนึ่ง (รู้สึกแบบนั้น)

ที่สำคัญตัวละครในเรื่องส่วนใหญ่มีนิสัยใส่ใจคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่. จึงทำให้คนที่มีปัญหาได้รับพลังบวกและยิ้มได้ แม้แต่ผู้ชมอย่างเราก็เต็มไปด้วยพลังบวก

สิ่งหนึ่งที่เราอยากชื่นชมหลังจากดูแต่ละตอนคือแอนิเมชัน ถ่ายทอดเหตุการณ์ชีวิตของมีมี่และเพื่อนๆ ของเธอได้ดีเพียงใด ประทับใจเพราะแม้หลายครั้งจะไม่ยิ่งใหญ่เปลี่ยนชีวิตตัวละครในพริบตาแต่ก็ยังเป็นเรื่องเล็กๆที่เขย่าใจผู้ชมได้อย่างทรงพลัง

ไม่ว่าจะเป็นตอนที่สาวๆ เข้าร่วมชั้นเรียนของ Mitsumi มากมาย ทั้งสาวเท่ที่มีความมั่นใจน้อย เด็กเนิร์ดที่เก็บตัว และยังต้องการได้รับความรัก และเด็กสาววัยรุ่นที่พยายามเอาชนะความเป็นเด็กจนสร้างกำแพงในใจโดยไม่รู้ตัว พยายามเข้าใจความแตกต่างของกันและกัน จนค่อยๆ เปิดใจและสนิทสนมกันทีละเล็กละน้อยผ่านกิจกรรมทั่วไปในวัยเรียน

เช่น ออกเดท กินข้าว ดูหนัง สังสรรค์คาราโอเกะ สมูทตี้  ถ่ายภาพที่ร้านกาแฟและเล่นวอลเลย์บอลระหว่างชั้นเรียน คนที่จริงจังกับการจัดการชีวิตได้เรียนรู้จาก Sanmi ว่าบางครั้งผู้คนไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างตามกำหนดเวลาที่แน่นอน และไม่จำเป็นต้องใช้เวลาทุกวินาทีอันมีค่าไปกับการเรียนและการสอบ รวมถึงไม่ต้องทำงานหนักเพื่อให้สิ่งที่วางแผนไว้จนลืมไปว่านอกแผนยังเต็มอยู่ “ความบังเอิญ” ก็สร้างความสุขให้ชีวิตได้ เหมือนที่ แซมมี่ แนะนำให้แวะหลังจากพลาดรถไปเล่นกับแมวจรจัด และชมพระอาทิตย์ตกระหว่างทาง

บรรยากาศของแอนิเมชั่น “Skip and Loafer” อาจไม่ใกล้เคียงกับแอนิเมชั่นความรักที่เต็มเปี่ยมระหว่างชายหญิง แม้แต่ตอนเปิดตัวก็ขายฉากน่ารักของมิมิและชิมะที่ทำให้เรารู้สึกถึงการเต้นของหัวใจของทั้งสองตัวเอก แต่บทที่หนักกว่าคือชีวิตในโรงเรียนมัธยม 

เพราะเรื่องนี้ทำให้เรานึกถึงสมัยเรียนที่เราต่างมีประสบการณ์เดียวกัน ทั้งได้เพื่อนใหม่ มีเพื่อนสนิท ไปคาราโอเกะ แบ่งขนมกับเพื่อน ชอบนอนคนเดียวกับเพื่อนที่บ้านเพื่อน เป็นต้น

ยอมรับว่าตอนแรกดูเรื่องนี้ทำให้นึกถึง Kimi ni Todoke (My Heart Is For You) เพราะนิสัยนางเอกตรงไปตรงมา ดูเด็กแต่เมื่อเพื่อน ๆ ดูไปเรื่อยๆ ซาวาโกะกับมิมิมีบุคลิกที่แตกต่างกันมาก เนื่องจาก Guangmei ติดตามเทรนด์ Bi Zezi จึงมีความมั่นใจมากขึ้น อีกอย่างในเรื่องที่ไม่ใช่แนวรักหักเหลี่ยมโหดทำให้เรื่องนี้ชัดเจนมาก ไม่มีฉากเรียกน้ำตา

นอกจากนี้ ยังมีอนิเมะน่ารักอีกเรื่องที่เราอยากแนะนำ Oshi no Ko เกิดใหม่เป็นลูกโอชิ ติดตามความน่ารักของเหล่าตัวละครได้ในรีวิวเลยค่ะ